ท่ามกลางความพยายามของรัฐบาลทรัมป์ในการจำกัดการส่งออกชิปซึ่งมีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ไปยังจีน ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าความเคลื่อนไหวนี้อาจส่งผลเสียกับสหรัฐฯ เสียเอง เนื่องจากเป็นการกระตุ้นให้บริษัทจีนพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งอาจช่วยให้บริษัทเหล่านี้ยึดครองตลาดเซมิคอนดักเตอร์โลกได้
“สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นจริงๆ คือ ขณะนี้รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังยื่นชัยชนะครั้งใหญ่ให้จีนในขณะที่พยายามทำให้ธูรกิจชิปของตัวเองเดินหน้าต่อ”
แจ็ก โกลด์ นักวิเคราะห์จาก J. Gold
“เมื่อพวกเขาสามารถแข่งขันได้แล้ว” โกลด์เตือน “พวกเขาจะเริ่มส่งขายทั่วโลก และผู้คนจะซื้อชิปของพวกเขา” และว่า เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้นผู้ผลิตชิปสหรัฐฯ จะกู้คืนส่วนแบ่งการตลาดที่เสียไปได้ยาก
ดาวดังของเซมิคอนดักเตอร์ในซิลิคอนแวลลีย์อย่าง Nvidia และคู่แข่งอย่าง Advanced Micro Devices (AMD) แจ้งต่อหน่วยงานกำกับดูแลว่า บริษัทอาจมีปัญหาทางการเงินครั้งใหญ่จากการที่ทางการสหรัฐฯ ออกกฎให้ต้องมีใบอนุญาตส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ไปจีน
จากเอกสารที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ Nvidia คาดว่ากฎใหม่นี้อาจทำให้บริษัทต้องสูญเงิน 5,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วน AMD คาดว่าบริษัทอาจสูญเสียเงินมากถึง 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
Nvidia เผยว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารแจ้งว่าบริษัทต้องมีใบอนุญาตเพื่อส่งออกชิป H20 ไปจีน เนื่องจากความกังวลว่าจีนจะใช้ชิปดังกล่าวในซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของตัวเอง
ก่อนหน้านี้สหรัฐฯ จำกัดการส่งออกชิปหน่วยประทวลผลกราฟฟิก (GPU) ซึ่งล้ำที่สุดของ Nvidia ไปจีนซึ่งเป็นผู้ซื้อชิปรายใหญ่ที่สุดของโลกอยู่แล้ว
โกลด์เผยว่า Nvidia พัฒนาชิป H20 สำหรับตลาดจีนโดยเฉพาะ โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มรายได้โดยปฏิบัติตามกฎการส่งออกของสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ แต่กฎใหม่ที่กำหนดให้ขอใบอนุญาตคืออุปสรรค
ในเอกสารคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ ระบุว่า สำหรับ AMD มาตรการควบคุมการส่งออกใหม่ของสหรัฐฯ บังคับใช้กับชิปหน่วยประมวลผลกราฟฟิก MI308 ซึ่งถูกออกแบบมาสำหรับแอปพลิเคชันประสิทธิภาพสูงอย่างเกมและปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI และระบุอีกว่า ไม่มีการรับประกันว่าจะมีการออกใบอนุญาตส่งชิปไปจีน
โอกาสสำหรับจีน?
ร็อบ เอ็นเดอร์เล นักวิเคราะห์ด้านเทคโนโลยีอิสระคาดว่า ผู้ผลิตชิปจีน ซึ่งนำโดยยักษ์ใหญ่ด้านเทคอย่าง Huawei จะพยายามมากขึ้นเพื่อก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำตลาด
“มันเป็นของขวัญจากพระเจ้าสำหรับจีนในขณะที่จีนเริ่มธุรกิจไมโครโปรเซสเซอร์ของตัวเอง” เอ็นเดอร์เลกล่าวถึงกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้นของสหรัฐฯ “นี่จะเป็นหนทางที่รวดเร็วในการส่งต่อความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ ในด้านไมโครโปรเซสเซอร์และชิปหน่วยประทวลผลกราฟฟิก”
โกลด์เผยว่า รัฐบาลจีนมีทรัพยากรและแรงจูงใจมากมายที่จะสนับสนุนอุตสาหกรรมชิปของตัวเอง และว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ อาจคิดว่าเขาสามารถ “รังแกคนอื่น” เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย “แต่เศรษฐกิจโลกไม่ใช่แบบนั้น” แต่ภาษีศุลกากรของทรัมป์กลับทำให้พันธมิตรแตกแยก และเพิ่มแรงจูงใจให้พันธมิตรเหล่านี้หันไปซื้อชิปจากจีน
“นี่จะสร้างปัญหาให้กับความสามารถในการแข่งขันของบริษัทสหรัฐ” เอ็นเดอร์เลเผย “บรรดาบริษัทที่ตั้งอยู่ต่างประเทศจะมีความสามารถในการแข่งขันที่ดีขึ้นอย่างมาก”
เจนเซน หวง ซีอีโอของ Nvidia เผยต่อสาธารณะว่า บริษัทสามารถปฏิบัติตามความต้องการใหม่ของสหรัฐฯ โดยไม่สูญเสียความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี และว่า จะไม่มีอะไรหยุดความก้าวหน้าของปัญญาประดิษฐ์ได้
“Nvidia คือหนึ่งในหมากตัวสำคัญในเกมหมากรุก (ระหว่างสหรัฐฯ) กับจีน” แดน ไอฟ์ส นักวิเคราะห์จาก Wedbush ระบุ “รัฐบาลทรัมป์ทราบว่ามีชิปและบริษัทหนึ่งเดียวที่ขับเคลื่อนการปฏิวัติ AI นั่นคือ Nvidia” ดังนั้นสหรัฐฯ จึงติดป้าย ‘ห้ามเข้า’ ไว้หน้าบริษัทจีนเพื่อชะลอความก้าวหน้า
ไอฟ์สเตือนว่า สงครามชิปยังไม่จบ โดยคาดว่า “ทั้งสองฝ่ายจะออกหมัดใส่กันมากขึ้น”