สถานการณ์ล่าสุดในเอกวาดอร์ยังคงดุเดือด หลังจากที่ประธานาธิบดี ดาเนียล โนโบอา ของเอกวาดอร์ประกาศ ‘ภาวะฉุกเฉินทั้งประเทศ’ ซึ่งวันนี้เราจะมาไล่เรียงเหตุการณ์วุ่นวายที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ได้อ่านกัน
วานนี้ (9 ม.ค.) มีกลุ่มชายติดอาวุธที่พกทั้งมีด ปืน และระเบิด บุกเข้าไปในสตูดิโอของสถานีโทรทัศน์เจ้าใหญ่ TC Television ในเมืองกวายากิล เมืองที่ใหญ่ที่สุดในเอกวาดอร์ ซึ่งในเวลานั้นกำลังจัดรายการสดกันอยู่ ทำให้หลายๆ คนที่เปิดทีวีในเวลานั้นเห็นกลุ่มชายติดอาวุธกลุ่มนี้ และได้ยินเสียงคนในกลุ่มสั่งให้หมอบลงกับพื้น และมีเสียงตะโกนขึ้นมาว่า ‘อย่ายิง’ ก่อนที่สัญญาณถ่ายทอดสดจะถูกตัดไป
หลังจากนั้นไม่นาน กองตำรวจกำลังพิเศษได้เข้าจับกุมกลุ่มชายติดอาวุธทั้งหมด สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ผู้สื่อข่าวและผู้คุมกล้องต่างตื่นตระหนก และได้ส่งข้อความขอช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ‘พวกเขาจะฆ่าพวกเราทั้งหมด ช่วยเราด้วย’
ด้านผู้บัญชาการตำรวจ ซีซาร์ ซาปาต้า (César Zapata) บอกกับสถานีโทรทัศน์ Teleamazonas ในเวลาต่อมาว่า เจ้าหน้าที่ได้ยึดปืนและวัตถุระเบิดที่กลุ่มมือปืนมีติดตัวไว้ และจับกุมผู้ก่อเหตุได้ 13 คน และบอกว่านี่เป็นการกระทำที่ควรถือเป็นการกระทำของผู้ก่อการร้าย
นอกจากนี้ยังมีรายงานที่ยังไม่ได้รับการยืนยันด้วยว่า มีกลุ่มชายติดอาวุธบุกเข้าไปในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเมืองกวายากิล และบุกปล้นย่านใจกลางเมือง รวมถึงมีการแชร์ภาพบนโซเชียลมีเดียที่แสดงให้เห็นว่ามีการรุมประชาทัณฑ์ผู้คุมเรือนจำ หลังจากที่เจ้าหน้าที่เหล่านี้โดนจับตัวโดยนักโทษ
ความไม่สงบที่เกิดขึ้นนี้เป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องจาก เหตุระทึกในเรือนจำก่อนหน้านี้ ที่ ‘อดอลโฟ มาเซียส’ หรือที่รู้จักกันในนามแฝงว่า ‘ฟิโต้’ ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งค้ายาเสพติด Los Choneros ที่ถือเป็นแก๊งที่อันตรายที่สุดในประเทศ ได้แหกคุกหนีออกมา
ตำรวจหลายพันนายเร่งตามหาฟิโต้ หัวหน้าแก๊ง ซึ่งความวุ่นวายที่เกิดขึ้นทั้งในเรือนจำและนอกเรือนจำนี้สะท้อนให้เห็นถึงการแสดง ‘พลัง’ ที่ชัดเจนจากแก๊งดังกล่าวที่มีเครือข่ายอยู่ทั่วประเทศ
หลังจากที่ภารกิจหาตัวฟิโต้ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง ก็มีการโจมตีครั้งใหม่เกิดขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นายถูกลักพาตัวในเมืองชาลา ทางตอนใต้ของประเทศ นอกจากนี้กลุ่มติดอาวุธยังได้คุมตัวเจ้าหน้าที่ 4 นายในเมืองกีโต ขณะที่ผู้คุมในเรือนจำอีกหลายสิบคน ยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำทั่วประเทศ
ฟิโต้ หายตัวไปจากเรือนจำในวันอาทิตย์ (7 ม.ค.) ซึ่งเขาถูกลงโทษจำคุกทั้งหมด 34 ปี ในข้อหาค้ายา ก่ออาชญากรรม และฆาตกรรม อีกทั้งยังเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจแม้จะอยู่หลังลูกกรงก็ตาม
นอกจากฟิโต้แล้ว เรือนจำยังยืนยันว่า ฟาบริซิโอ โคลอน (Fabricio Colón) หัวหน้าแก๊งอันตรายอีกคน หลบหนีออกจากเรือนจำริโอบัมบาระหว่างเกิดความวุ่นวาย
ด้านโนโบอาบอกว่าจะไม่เจรจากับผู้ก่อการร้าย และรัฐบาลได้กล่าวโทษความรุนแรงที่เกิดขึ้นนี้ว่าเป็นผลมาจากแผนสร้างเรือนจำที่มีความปลอดภัยสูงแห่งใหม่ และต้องย้ายหัวหน้าแก๊งที่ถูกจำคุก
เอกวาดอร์เข้าสู่สงครามกลางเมืองแบบเต็มรูปแบบกับแก๊งอันธพาล ประธานาธิบดีได้สั่งให้กองทัพไปประจำการตามท้องถนน พร้อมประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศ ด้านกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุเมื่อวันอังคาร (9 ม.ค.) ด้วยว่า ‘กังวลอย่างยิ่ง’ ต่อความรุนแรงในเอกวาดอร์
ไบรอัน นิโคลส์ นักการทูตระดับสูงของสหรัฐฯ ประจำละตินอเมริกา ทวีตบน X (ทวิตเตอร์เดิม) ว่า ‘ผมมีความกังวลอย่างยิ่งต่อความรุนแรงและการลักพาตัวในเอกวาดอร์’ พร้อมเสริมว่าเจ้าหน้าที่อเมริกันจะยังคงติดต่ออย่างใกล้ชิดกับทีมของประธานาธิบดีโนโบอา
ขณะที่สำนักงานการต่างประเทศของอังกฤษแนะนำให้งดการเดินทางไปยังส่วนต่างๆ ของเอกวาดอร์ยกเว้นกรณีที่จำเป็น ด้านสถานทูตจีนกล่าวว่า จะปิดให้บริการจนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม และกระทรวงการท่องเที่ยวเอกวาดอร์แนะนำให้นักท่องเที่ยวพักอยู่ในโรงแรม/ที่พักจนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม และเดินทางเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
