ร้อนทะลุปรอท! เตือนเอเชียเสี่ยงเจอ ‘คลื่นความร้อน’ เพิ่ม 30 เท่า

19 พฤษภาคม 2566 - 05:55

Asia-heatwaves-made-30-times-more-likely-climate-change-SPACEBAR-Hero
  • เอเชียเตรียมร้อนปรอทแตก วิจัยชี้การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศทำให้โอกาสเกิดคลื่นความร้อนในเอเชียเพิ่มขึ้น 30 เท่า จากที่ก่อนหน้านี้บังกลาเทศ อินเดีย ลาว และไทยร้อนทุบสถิติมาแล้ว

ตามผลการศึกษาที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ (17 พ.ค.) ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศทำให้โอกาสเกิดคลื่นความร้อนในเอเชียเพิ่มขึ้น 30 เท่า จากที่ก่อนหน้านี้บังกลาเทศ อินเดีย ลาว และไทยร้อนทุบสถิติมาแล้ว 

บางส่วนของอินเดียมีอุณหภูมิสูงกว่า 44 องศาเซลเซียสในช่วงกลางเดือนเมษายน โดยมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 รายใกล้เมืองมุมไบเนื่องจากโรคลมแดดในวันเดียว ขณะที่กรุงธากาของบังกลาเทศประสบกับวันที่อากาศร้อนที่สุดในรอบเกือบ 60 ปี 

จังหวัดตากในประเทศไทยมีอุณหภูมิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 45.4 องศาเซลเซียส ขณะที่จังหวัดไซยะบุรีในลาวพุ่งสูงถึงง 42.9 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นสถิติอุณหภูมิสูงสุดของประเทศ ขณะที่มีรายงานผู้เสียชีวิต 2 รายในประเทศไทย แต่ยอดผู้เสียชีวิตจริงน่าจะสูงกว่านี้เนื่องจากความร้อนจัดทำให้ต้องเข้าโรงพยาบาลเป็นวงกว้าง โดยคนที่มีฐานะยากจนและกลุ่มเปราะบางจะได้รับผลกระทบหนักที่สุด 

การศึกษาใหม่โดยนักวิทยาศาสตร์ด้านภูมิอากาศระหว่างประเทศได้ศึกษาอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย และดัชนีความร้อนสูงสุด ซึ่งรวมถึงความชื้นด้วย 

“ในทั้ง 2 ภูมิภาค นักวิจัยพบว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศทำให้เกิดคลื่นความร้อนชื้นอย่างน้อย 30 เท่า โดยอุณหภูมิอย่างน้อย 2 องศาเซลเซียสจะร้อนกว่าที่เคยเป็นโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” WWA ระบุในแถลงการณ์พร้อมเสริมว่า จนกว่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยรวมจะยุติลง อุณหภูมิโลกจะยังคงเพิ่มขึ้น และเหตุการณ์เช่นนี้จะถี่ขึ้นและรุนแรงขึ้น 

การวิเคราะห์ยังพบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวในอินเดียและบังคลาเทศซึ่งก่อนหน้านี้มีครั้งเดียวในศตวรรษ สามารถคาดการณ์ได้ทุกๆ 5 ปีเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ 

สำหรับลาวและไทย หากอุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้น 2 องศาเซลเซียส เช่นเดียวกับที่จะเกิดขึ้นภายในประมาณ 30 ปี หากไม่ลดการปล่อยมลพิษอย่างรวดเร็ว เหตุการณ์ที่รุนแรงเช่นนี้อาจเกิดขึ้นทุกๆ 20 ปี เมื่อเทียบกับทุก 2 ศตวรรษในปัจจุบัน  

เฟร็ดเดอริก อ็อตโต จากสถาบัน Grantham Institute for Climate Change and Environment ซึ่งมีส่วนร่วมในการศึกษากล่าวว่า เราเห็นครั้งแล้วครั้งเล่าว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพิ่มความถี่และความรุนแรงของคลื่นความร้อนอย่างมาก ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สภาพอากาศที่อันตรายที่สุด 

“ถึงกระนั้น แผนปฏิบัติการด้านความร้อนยังเป็นที่ตระหนักเพียงเล็กน้อยทั่วโลก แผนเหล่านี้จำเป็นต้องเป็นการดำเนินการปรับตัวที่มีลำดับความสำคัญสูงสุดในทุกที่ แต่โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานที่ที่มีความชื้นสูงจะเพิ่มผลกระทบจากคลื่นความร้อน” อ็อตโตกล่าว

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์