ลัทธิสยอง ‘โอม ชินริเกียว’ ที่เชื่อกันว่า ‘ญี่ปุ่นและโลก’ จะล่มสลาย!

5 ม.ค. 2567 - 09:38

  • อ่านจุดเริ่มต้นของลัทธิสยองที่ครั้งหนึ่งก่อคดีสะเทือนขวัญคนไปทั่วโลก และสร้างบาดแผลให้กับผู้คนจวบจนปัจจุบัน

aum-shinrikyo-the-japanese-cult-SPACEBAR-Hero.jpg

แม้จะผ่านพ้นปีใหม่มาได้แค่ 5 วัน แต่ก็ต้องยอมรับว่า ‘ญี่ปุ่น’ เจอศึกหนักทั้งภัยธรรมชาติ และเหตุการณ์ระทึกขวัญมากมายไม่หยุดหย่อน จนเราอดคิดย้อนไปถึงเหตุการณ์ในอดีตอย่าง ‘ลัทธิวันสิ้นโลก’ ที่ครั้งหนึ่งเคยก่อคดีอุกอาจสะเทือนขวัญไปทั้งโลกไม่ได้ ซึ่งในวันนี้เราจะมาย้อนรอยเรื่องราวเหล่านั้นกัน!  

จุดเริ่มต้น 

ช่วงทศวรรษที่ 1980 ‘โชโกะ อาซาฮาระ’ ผู้ซึ่งประกาศตัวว่าเป็นทั้งพระคริสต์และเป็นผู้รู้แจ้งคนแรกนับตั้งแต่พระพุทธเจ้า ได้ก่อตั้งลัทธิ ‘โอม ชินริเกียว (Oumu Shinrikyō)’ ซึ่งแปลว่า ‘ความจริงขั้นสูงสุด’ ซึ่งเป็นการผสมผสานความเชื่อระหว่างฮินดูและพุทธ และได้รับสถานะอย่างเป็นทางการในฐานะองค์กรทางศาสนาในญี่ปุ่นในปี 1989

aum-shinrikyo-the-japanese-cult-SPACEBAR-Photo01.jpg
Photo: Wikipedia - สัญลักษณ์ลัทธิโอม ชินริเกียว ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อลัทธิเป็นอาเลฟ

ตัวเจ้าของลัทธิอย่างอาซาฮาระเองก็มีผู้ติดตามทั่วโลกเป็นจำนวนมาก เขาเคยเป็นทั้งวิทยากร และเขียนหนังสือด้วย ขณะที่ลัทธินี้มีสาวกนับหมื่นคนทั่วโลกในช่วงเวลานั้น ซึ่งเหล่าสาวกของเขาหลายคนเป็นผู้ที่มีการศึกษาที่ดี เช่น นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ และยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว ทว่าพวกเขาทั้งหลายนี้มีภูมิหลังจากการโดนกดดันทั้งเรื่องเรียน การใช้ชีวิต รวมไปถึงอาชีพการงานในอนาคตเช่นกัน ทำให้ลัทธินี้เป็นเหมือนเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของพวกเขาว่า ‘ชีวิตในวันข้างหน้าจะมีความหมายมากขึ้น’

aum-shinrikyo-the-japanese-cult-SPACEBAR-Photo02.jpg
Photo: TORU YAMANAKA / AFP FILES / AFP

โอม ชินริเกียวค่อยๆ กลายเป็นลัทธิที่หวาดระแวงวันโลกาวินาศ หรือวันสิ้นโลก ด้วยความเชื่อที่ว่าโลกจะล่มสลายและเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 และมีเพียงสาวกในลัทธินี้เท่านั้นที่จะรอดชีวิต  

ความรุนแรงเริ่มก่อตัวในลัทธิมากขึ้น ทั้งการลักพาตัว การทำร้ายร่างกาย และแม้กระทั่งการใช้สารเคมี และสารชีวภาพในการโจมตีคนอื่นๆ  

ความโหดร้ายในรูปแบบ ‘ความเชื่อ’ 

ลัทธิดังกล่าวมีความพยายามที่จะโจมตีผู้คนโดยการปล่อยไฮโดรเจนไซยาไนด์ในสถานีรถไฟฟ้าต่างๆ แต่ก็ล้มเหลวอยู่หลายครั้ง จนกระทั่งช่วงเดือนมีนาคม ปี 1995 ความโหดร้ายที่ยึดโยงกับความเชื่อได้สร้างความตกตะลึงให้กับคนทั้งโลก ในช่วงเวลาที่เรียกได้ว่าเป็นช่วงเร่งด่วนในเช้าของวันทำงาน

aum-shinrikyo-the-japanese-cult-SPACEBAR-Photo03.jpg
Photo: Toshifumi KITAMURA / AFP

ผู้สัญจรหลายหมื่นคนก้าวขาเข้าสู่ระบบขนส่งสาธารณะที่พลุกพล่านเป็นปกติ ทว่าบนรถไฟฟ้าขบวนนี้มีถุง 5 ใบที่เต็มไปด้วยสารทำลายประสาทอย่าง ‘ซาริน’ ซึ่งพัฒนาโดยพวกนาซีที่เหล่าสาวกของลัทธิมาวางทิ้งไว้ เมื่อถุงดังกล่าวเริ่มรั่ว สารพิษในถุงก็เริ่มรั่วไหลออกมาและทำร้ายผู้คนที่โดยสารบนรถไฟฟ้า  

พิษเหล่านี้ทำผู้คนล้มลงกับพื้นในเวลาไม่กี่วินาที ทำพวกเขาสำลัก อาเจียน บางรายตาบอด บางรายเป็นอัมพาต มีผู้เสียชีวิต 13 ราย และบาดเจ็บอย่างน้อย 5,800 ราย จากการโจมตีพร้อมกัน 5 ครั้ง บนรถไฟฟ้า 3 สาย ซึ่งถือเป็นการโจมตีครั้งใหญ่ที่ทำชาวญี่ปุ่นหวาดกลัวที่สุด ในประเทศที่เรียกได้ว่ามีเหตุอาชญากรรมน้อยที่สุดในโลก

aum-shinrikyo-the-japanese-cult-SPACEBAR-Photo04.jpg
Photo: JIJI PRESS / JIIJI PRESS / AFP

สาวกหลายสิบคนเผชิญกับการพิจารณาคดีจากเหตุการณ์ดังกล่าว รวมถึงมี 13 รายที่ถูกตัดสินประหารชีวิตซึ่งในจำนวนนี้รวมอาซาฮาระด้วย คนสุดท้ายที่ต้องเข้ารับการพิจารณาคดีนี้คือ คัตสึยะ ทาคาฮาชิ ซึ่งถูกจับกุมในเดือนมิถุนายน 2012 หลังจากหลบหนีมานานกว่า 17 ปี ซึ่งเขาถูกตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต

aum-shinrikyo-the-japanese-cult-SPACEBAR-Photo05.jpg
Photo: YOSHIKAZU TSUNO / AFP

ปัจจุบันลัทธินี้ยังมีอยู่ไหม? 

เอาจริงๆ ก็นับว่า ‘มี’ แต่ที่ยังหลงเหลืออยู่ก็ต้องใช้ชีวิตแบบ ‘ใต้ดิน’ และเปลี่ยนชื่อลัทธิเป็น อาเลฟ (Aleph) นอกจากนี้ยังมีอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นกลุ่มเล็กๆ ชื่อ ฮิคาริ โนะ วะ (วงกลมแห่งสีรุ้ง) ซึ่งนำโดย ฟุมิโระ โจยุ อดีตสาวกลัทธิโอม ชินริเกียว ที่ได้รับช่วงต่อมาจากอาซาฮาระในปี 2007 อีกที แม้โจยุจะอ้างว่ากลุ่มของเขาไม่ได้บูชากราบไหว้อาซาฮาระก็ตาม

aum-shinrikyo-the-japanese-cult-SPACEBAR-Photo06.jpg
Photo: JIJI PRESS / JIJI PRESS / AFP

โอม ชินริเกียวถูกกำหนดให้เป็นองค์กรก่อการร้ายในสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ แต่อาเลฟและฮิคาริ โนะ วะ ต่างก็ถูกกฎหมายในญี่ปุ่น แม้ว่าจะถูกกำหนดให้เป็น ‘ศาสนาที่เป็นอันตราย’ ซึ่งอยู่ภายใต้การเฝ้าระวังที่เข้มงวดมากขึ้น มีการประมาณการว่าลัทธิพวกนี้มีผู้ติดตามราว 1,500 คน และจำนวนกำลังเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ

aum-shinrikyo-the-japanese-cult-SPACEBAR-Photo07.jpg
Photo: JIJI PRESS / AFP
aum-shinrikyo-the-japanese-cult-SPACEBAR-Photo08.jpg
Photo: KAZUHIRO NOGI / AFP

ลัทธินี้เคลื่อนไหวนอกญี่ปุ่นหรือเปล่า?

กลุ่มนี้ดำเนินการภายใต้อดีตรัฐโซเวียต หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ในเดือนมีนาคม ปี 2016 มอนเตเนโกรไล่ชาวต่างชาติ 58 คนที่ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับลัทธิโอม ชินริเกียว หลังจากพวกเขารวมตัวกันที่โรงแรมที่พวกเขาเช่าไว้ในยูโกสลาเวีย ด้านกระทรวงมหาดไทยระบุว่า 4 คนมาจากญี่ปุ่น แต่ 43 คนมาจากรัสเซีย 7 คนจากเบลารุส 3 คนจากยูเครน และ 1 คนจากอุซเบกิสถาน

aum-shinrikyo-the-japanese-cult-SPACEBAR-Photo09.jpg
Photo: KAZUHIRO NOGI / AFP

นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนในญี่ปุ่นบางส่วนออกมาปกป้องกลุ่มลัทธิโอม ชินริเกียว โดยกล่าวว่า พวกเขาไม่ทราบแผนโจมตีรถไฟใต้ดินในโตเกียว  

ถึงอย่างนั้นแต่สาวกโอม ชินริเกียวก็มีโอกาส ‘น้อยมาก’ ที่จะได้รับการยอมจากสังคมแบบจริงๆ แม้ว่าพวกเขาจะแยกตัวออกมาจากลัทธิดังกล่าวด้วยการตั้งชื่อลัทธิใหม่ก็ตาม สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความรุนแรงที่มาในรูปแบบของ ‘ความเชื่อ’ ที่สามารถชักจูงเราให้ทำเรื่องเลวร้ายและส่งผลกระทบต่อคนอื่นๆ สร้างแผล และความหวาดกลัวให้สังคมจวบจนปัจจุบัน

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์