ลูกชายคนเล็กของอองซานซูจี แสดงความกังวลพร้อมบอกว่า รัฐบาลทหารเมียนมา ‘ใจเหี้ยมและโหดร้าย’ หลังจากทางการปฏิเสธการเข้ารับการรักษาพยาบาลเร่งด่วนของอองซานซูจี
แหล่งข่าวภายในประเทศ ระบุว่า อองซานซูจี ในวัย 78 ปี ได้รับการสั่งจ่ายยาจำนวนหนึ่งจากแพทย์ที่รักษาเธอ รวมถึงโรคเหงือก ซึ่งทำให้เธอไม่สามารถรับประทานอาหารได้เนื่องจากความเจ็บปวด อย่างไรก็ตาม คำร้องขอการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชนกลับถูกปฏิเสธ
คิม อาริส กล่าวกับ The Independent เพื่อแสดงความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับผลที่ตามมาสำหรับแม่ของเขา โดยกล่าวว่า เขาเชื่อว่าแม่ของเขามีอาการอาเจียนและเวียนศีรษะอย่างรุนแรง อีกทั้งการไม่สามารถกินอาหารได้ อาจทำให้ชีวิตของเธอตกอยู่ในความเสี่ยง
อาริสกล่าวว่า การปฏิเสธการเข้าถึงการรักษาพยาบาลของนักโทษที่มีอาการป่วยนั้น เป็นการกระทำที่ใจดำและโหดร้าย เท่าที่ทราบมาคือแม่ของเขาอาเจียนและเวียนศีรษะอย่างรุนแรง เนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพ
“เราได้รับการแนะนำจากเจ้าหน้าที่เรือนจำว่าจะต้องได้รับการดูแลอย่างเร่งด่วน แต่กลับถูกปฏิเสธจากรัฐบาลทหารเผด็จการ ใครก็ตามที่มีปัญหาโรคเหงือกที่สร้างความเจ็บปวดจนไม่สามารถรับประทานอาหารได้ ย่อมมีความเสี่ยงต่อสุขภาพหากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม” อาริสกล่าว
อาริสต้องการให้แม่ของเขาได้รับการอนุญาตให้กลับบ้านในย่างกุ้ง เพื่อรับการรักษา โดยเรียกร้องทางการในเมียนมาให้ผ่อนปรนและดำเนินการอย่างมีมนุษยธรรม
เมื่อเดือนที่แล้ว มีข้อเสนอแนะว่าอองซานซูจีอาจถูกกักบริเวณในบ้าน หลังจากที่รัฐบาลได้อภัยโทษหลายคดีต่อเธอ อย่างไรก็ตามยังไม่มีการยืนยันความเคลื่อนไหวดังกล่าว และอองซานซูจียังคงอยู่ในเรือนจำ
การควบคุมตัวอองซานซูจีอย่างต่อเนื่องได้จุดชนวนความไม่พอใจจากประชาคมระหว่างประเทศ แม้ว่าทางการจะอภัยโทษให้เธอกว่า 5 คดี จากทั้งหมด 19 คดี แต่ก็เป็นเพียงการลดโทษจำคุกจากทั้งหมด 33 ปีเหลือ 27 ปเท่านั้นี ซึ่งเมื่อเทียบกับอายุของเธอแล้ว นั่นก็ไม่ต่างจากการจำคุกตลอดชีวิต
อองซานซูจีถูกจำคุกหลังจากรัฐบาลของเธอที่ได้รับการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยถูกรัฐประหารในปี 2021
แหล่งข่าวภายในประเทศ ระบุว่า อองซานซูจี ในวัย 78 ปี ได้รับการสั่งจ่ายยาจำนวนหนึ่งจากแพทย์ที่รักษาเธอ รวมถึงโรคเหงือก ซึ่งทำให้เธอไม่สามารถรับประทานอาหารได้เนื่องจากความเจ็บปวด อย่างไรก็ตาม คำร้องขอการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชนกลับถูกปฏิเสธ
คิม อาริส กล่าวกับ The Independent เพื่อแสดงความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับผลที่ตามมาสำหรับแม่ของเขา โดยกล่าวว่า เขาเชื่อว่าแม่ของเขามีอาการอาเจียนและเวียนศีรษะอย่างรุนแรง อีกทั้งการไม่สามารถกินอาหารได้ อาจทำให้ชีวิตของเธอตกอยู่ในความเสี่ยง
อาริสกล่าวว่า การปฏิเสธการเข้าถึงการรักษาพยาบาลของนักโทษที่มีอาการป่วยนั้น เป็นการกระทำที่ใจดำและโหดร้าย เท่าที่ทราบมาคือแม่ของเขาอาเจียนและเวียนศีรษะอย่างรุนแรง เนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพ
“เราได้รับการแนะนำจากเจ้าหน้าที่เรือนจำว่าจะต้องได้รับการดูแลอย่างเร่งด่วน แต่กลับถูกปฏิเสธจากรัฐบาลทหารเผด็จการ ใครก็ตามที่มีปัญหาโรคเหงือกที่สร้างความเจ็บปวดจนไม่สามารถรับประทานอาหารได้ ย่อมมีความเสี่ยงต่อสุขภาพหากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม” อาริสกล่าว
อาริสต้องการให้แม่ของเขาได้รับการอนุญาตให้กลับบ้านในย่างกุ้ง เพื่อรับการรักษา โดยเรียกร้องทางการในเมียนมาให้ผ่อนปรนและดำเนินการอย่างมีมนุษยธรรม
เมื่อเดือนที่แล้ว มีข้อเสนอแนะว่าอองซานซูจีอาจถูกกักบริเวณในบ้าน หลังจากที่รัฐบาลได้อภัยโทษหลายคดีต่อเธอ อย่างไรก็ตามยังไม่มีการยืนยันความเคลื่อนไหวดังกล่าว และอองซานซูจียังคงอยู่ในเรือนจำ
การควบคุมตัวอองซานซูจีอย่างต่อเนื่องได้จุดชนวนความไม่พอใจจากประชาคมระหว่างประเทศ แม้ว่าทางการจะอภัยโทษให้เธอกว่า 5 คดี จากทั้งหมด 19 คดี แต่ก็เป็นเพียงการลดโทษจำคุกจากทั้งหมด 33 ปีเหลือ 27 ปเท่านั้นี ซึ่งเมื่อเทียบกับอายุของเธอแล้ว นั่นก็ไม่ต่างจากการจำคุกตลอดชีวิต
อองซานซูจีถูกจำคุกหลังจากรัฐบาลของเธอที่ได้รับการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยถูกรัฐประหารในปี 2021