จากเหตุเครื่องบินสายการบินอาเซอร์ไบจานแอร์ไลน์พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 67 คน ตกใกล้เมืองอักเตาในคาซัคสถานเมื่อวันพุธ (25 ธ.ค.) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 38 ราย และพบผู้รอดชีวิต 29 ราย ทำให้เกิดการคาดเดากันว่าเครื่องบินลำดังกล่าวถูกรัสเซียยิงตก หลังจากบินอ้อมนอกเส้นทางไปหลายร้อยไมล์ และตกลงมาจนมีรูที่ลำตัวเครื่อง
ผู้โดยสารบนเครื่องเป็นพลเมืองอาเซอร์ไบจาน 37 คน ชาวรัสเซีย 16 คน ชาวคาซัคสถาน 6 คน และชาวคีร์กีซสถาน 3 คน
เครื่องบิน ‘Embraer 190’ เที่ยวบิน J2-8243 ของสายการบินอาเซอร์ไบจานแอร์ไลน์ซึ่งเดินทางจากกรุงบากู เมืองหลวงของอาเซอร์ไบจานไปยังเมืองกรอซนีของรัสเซีย ได้บินออกนอกเส้นทางประจำหลายร้อยไมล์จากประเทศอาเซอร์ไบจานไปยังรัสเซีย และตกลงบนฝั่งตรงข้ามของทะเลแคสเปียน แต่หน่วยงานกำกับดูแลการบินของรัสเซียระบุว่าเป็น ‘เหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดจากการชนนก’ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินเผยว่า ‘สาเหตุดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นได้’
ฟุตเทจเหตุการณ์เครื่องบินตกที่ถูกแชร์บนโลกออนไลน์เผยให้เห็นเครื่องบินลดระดับลงก่อนจะพุ่งตกพื้นดินจนเกิดไฟลุกไหม้ ส่วนฟุตเทจอื่นๆ แสดงให้เห็นส่วนหนึ่งของลำตัวเครื่องบินบางส่วนฉีกขาดออกจากปีกเครื่องบิน และส่วนที่เหลือของเครื่องบินคว่ำอยู่บนหญ้า
มีข่าวลือว่าเครื่องบินอาจถูกรัสเซียยิงตก...
ฟุตเทจวิดีโอเครื่องบินของสายการบินอาเซอร์ไบจานแอร์ไลน์ลำที่ตกเผยให้เห็นรูที่น่าสงสัยบนลำตัวเครื่อง จึงเกิดข่าวลือว่าเครื่องบินอาจถูกรัสเซียยิงตกก็เป็นได้
ตามเส้นทางของเครื่องบินในเรดาร์ ‘Flight Radar 24’ ระบบติดตามเที่ยวบินพบว่า เครื่องบินลำดังกล่าวกำลังบินอยู่เหนือสาธารณรัฐดาเกสถานตามแนวชายฝั่งทะเลแคสเปียน หลังจากนั้นเครื่องบินก็หายไปจากการติดตาม แสดงให้เห็นว่าเครื่องบินอาจถูกระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียโจมตี
จากนั้นเครื่องบินก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงต่อมา โดยบินออกนอกเส้นทาง และบินต่ำเหนือน่านน้ำทางตะวันตกของประเทศคาซัคสถาน ก่อนที่จะตก
ทว่าก่อนที่เครื่องบินจะตก ลูกเรือได้รายงานว่าเครื่องบินได้รับแรงกระแทกอย่างรุนแรงที่ตัวเครื่อง ซึ่งพวกเขาสันนิษฐานว่าเครื่องบินอาจชนกับฝูงนก แต่ต่อมามีรายงานว่าเป็นการระเบิดของถังออกซิเจนที่ใช้ส่งออกซิเจนไปยังห้องนักบินในกรณีที่ความดันอากาศลดลง
ภาวะที่ความดันของถังออกซิเจนลดลงอย่างกะทันหันนี้ ทำให้ลำเครื่องบินได้รับความเสียหายอย่างหนัก และแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แต่ภาพใหม่ที่เผยให้เห็นรูขนาดใหญ่บริเวณด้านข้างของซากเครื่องบินทำให้เกิดคำถามตามมาว่า ‘นก หรือถังออกซิเจนระเบิดกันแน่ที่เป็นสาเหตุทำให้เครื่องบินตก’ ขณะเดียวกันก็มีข้อสันนิษฐานว่า ‘เป็นเพราะเครื่องบินถูกระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียยิงตก’ “สิ่งนี้ไม่ดูเหมือนนก”
เข้าใจผิดคิดว่าเป็น ‘โดรนยูเครน’...

ยาโรสลาฟ โตรฟิมอฟ นักข่าวจากสำนักข่าว Wall Street Journal เผยว่า สื่อรัสเซียคาดเดากันว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียเข้าใจผิดว่าเครื่องบินโดยสารลำดังกล่าวเป็น ‘โดรนของยูเครน’
เป็นที่ทราบกันดีว่าเครื่องบิน ‘Embraer 190’ ซึ่งเป็นของสายการบินอาเซอร์ไบจานแอร์ไลน์ กำลังพยายามลงจอดที่ท่าอากาศยานกรอซนี เมืองหลวงภูมิภาคเชชเนียของรัสเซีย ซึ่งในขณะนั้นถูกโดรนของยูเครนโจมตี แต่เครื่องบินลำดังกล่าว ‘ถูกห้ามไม่ให้ลงจอด’ โดยให้เหตุผลว่าเป็นเพราะ ‘หมอกหนา’
เชชเนียและพื้นที่ชายแดนอีก 3 แห่งถูกโจมตี รวมถึงห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งได้เกิดเพลิงไหม้จากการโจมตีของโดรนในวลาดิคัฟคาซ ซึ่งเป็นเมืองหลวงภูมิภาคนอร์ทออสซีเชียของรัสเซีย
เจ้าหน้าที่รายงานว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศของเชชเนียเปิดฉากยิงใส่โดรนเหล่านี้ ส่งผลให้โดรนอย่างน้อย 1 ลำระเบิด จนเกิดคำถามขึ้นว่า ‘เครื่องบินลำดังกล่าวซึ่งขณะนั้นพยายามลงจอดในเมืองกรอซนี ได้รับความเสียหายจากการยิงต่อต้านโดรนจากพื้นดินหรือไม่?’
ขณะที่เจ้าหน้าที่ในคาซัคสถานเริ่มตรวจสอบข้อมูลที่เป็นไปได้ในหลายกรณีที่อาจเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว รวมถึงปัญหาทางเทคนิคด้วย
ทั้งนี้ คาดว่าผู้รอดชีวิตจากเหตุเครื่องบินตกทั้ง 29 รายนั้น มักพบบริเวณส่วนท้ายของเครื่องบิน เนื่องจากส่วนหน้าเครื่องบินได้รับความเสียหายอย่างหนักจากไฟไหม้
สายการบินอาเซอร์ไบจานแอร์ไลน์ สายการบินประจำชาติของประเทศ เปิดเผยว่า เครื่องบิน ‘Embraer 190’ ได้ลงจอดฉุกเฉินห่างจากเมืองอักเตา ซึ่งเป็นศูนย์กลางน้ำมันและก๊าซบนชายฝั่งตะวันออกของทะเลแคสเปียนไปประมาณ 3 กิโลเมตร
กระทรวงการต่างประเทศคาซัคสถานรายงานใน Telegram ว่า เครื่องบิน ‘Embraer 190’ หมายเลขทะเบียน 4K-AZ65 ที่กำลังบินในเส้นทางบากู-กรอซนี ได้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือที่ระดับความสูง 2,125 ฟุตเหนือทะเลแคสเปียน
ประธานาธิบดีอิลฮัม แอลีเยฟ ของอาเซอร์ไบจาน แถลงข่าวว่า “ยังเร็วเกินไปที่จะคาดเดาถึงสาเหตุเบื้องหลังเหตุเครื่องบินตก” แต่กล่าวว่า “สภาพอากาศทำให้เครื่องบินต้องเปลี่ยนเส้นทางไปจากที่วางแผนไว้ ข้อมูลที่ผมได้รับคือเครื่องบินเปลี่ยนเส้นทางเนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้ายลง และมุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานอักเตา ซึ่งเครื่องบินตกขณะที่กำลังลงจอด”
Photo by Issa Tazhenbayev / AFP