เซเลนสกี ‘คิวแน่น’ ต้อนรับแขกต่างประเทศ ชี้ชัดใครถือหางใครในยุคโลกแบ่งขั้ว

24 กุมภาพันธ์ 2566 - 09:19

biden-russia-ukraine-war-anniversary-SPACEBAR-Thumbnail
  • การเยือนยูเครนอย่างไม่มีหมายกำหนดการล่วงหน้าของประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ เป็นการเยือนของผู้นำต่างประเทศคนล่าสุดสำหรับยูเครน

  • ในปีนี้ นับจนถึงวันที่ 20 ก.พ. ประธานาธิบดีเซเลนสกีให้การต้อนรับผู้นำโลกจากประเทศต่างๆ ไปแล้วถึง 7 คนด้วยกัน

  • ผู้นำยูเครนมีกำหนดเดินทางไปเยือนสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เบลเยียม และโปแลนด์ในเดือนก.พ.นี้

ช่วง 1 ปี ที่รัสเซียเปิดฉากโจมตียูเครน บรรดาผู้นำโลกหลากหลายประเทศที่เทใจให้รัฐบาลเคียฟต่างพากันเดินทางไปให้กำลังใจประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีถึงเมืองหลวงของยูเครน และการเยือนยูเครนอย่างไม่มีหมายกำหนดการล่วงหน้าของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ผ่านมาไม่กี่วันก็เป็นการเยือนของผู้นำต่างประเทศคนล่าสุด 

นอกจากจะให้กำลังใจ แสดงจุดยืนที่ชัดเจนว่าสหรัฐฯ สนับสนุนยูเครนในการทำศึกกับรัสเซียตลอดไปแล้ว การเยือนของผู้นำสหรัฐฯ ครั้งนี้ยังมาพร้อมกับความช่วยเหลือด้านการทหาร ตลอดจนความช่วยเหลือด้านอื่นๆ แก่รัฐบาลเคียฟด้วย 

ล่าสุด วันอังคาร (21 ก.พ.) ประธานาธิบดีไบเดน ประกาศกร้าวว่า รัสเซียจะไม่มีทางได้รับชัยชนะยูเครนในการทำศึกครั้งนี้อย่างแน่นอน 

และสหรัฐฯ จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ในปี 2024  ซึ่งจะครบวาระ 75 ปีของการก่อตั้งองค์กรนี้ 

พร้อมกันนี้ ประธานาธิบดีไบเดนยังเน้นย้ำถึงพันธกรณีตามมาตรา 5 ของนาโตที่ว่า หากชาติสมาชิกใดถูกโจมตี ก็จะถือเสมือนเป็นการโจมตีต่อทุกประเทศในนาโต 

เมื่อเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ทำเนียบประธานาธิบดีเซเลนสกีจะเห็นว่าผู้นำยูเครนค่อนข้างคิวแน่นในช่วงปีที่ผ่านมา เพราะต้องพบปะบรรดาผู้นำประเทศต่างๆ หรือตัวแทนจากรัฐบาลทั่วโลก ที่รวมถึงเหล่าผู้นำในองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และสหภาพยุโรป (อียู) ทั้งในกรุงเคียฟเมืองหลวง และในเมืองลวีฟ หรือเมืองโอเดสซา         

ส่วนปีนี้ นับจนถึงวันที่ 20 ก.พ. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีเซเลนสกี ให้การต้อนรับผู้นำโลกจากประเทศต่างๆ ไปแล้วถึง 7 คนด้วยกัน ในจำนวนนี้เป็นผู้นำจากเนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก และสวีเดน 

ช่วงเดือนก.ย.และพ.ย.ปี 2022  เซเลนสกีต้อนรับผู้นำเฉลี่ยเดือนละ 3 คน  ส่วนเดือนธ.ค.ไม่มีงานต้อนรับ ขณะที่ในช่วงเดือนเม.ย.และส.ค. ให้การต้อนรับเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากต่างประเทศเดือนละ 8 คน
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/7IdLCLobZa6CEQW0qpMjRa/cc4a5a90cd6af68677dd04d381e528ba/1-______________________________-__________
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/KFcIR1UbRs7JuB2C7nr28/08778152c9398c3645133f8693b6987d/2-______________________________-__________
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/It7NUZH2V6VcAd1POL6g0/e29ac4da3857cea98dd45941f5b9de3b/3-______________________________-__________
การเยือนกรุงเคียฟเพื่อแสดงจุดยืนทางการเมืองของเหล่าผู้นำต่างประเทศเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. 2022 3 สัปดาห์หลังจากกองทัพรัสเซียเปิดฉากโจมตียูเครน ด้วยการเยือนของนายกรัฐมนตรีจาก 3 ประเทศคือโปแลนด์ สาธารณรัฐเชก และสโลวีเนีย และจนถึงตอนนี้ ประธานาธิบดีเซเลนสกีก็ยังคงให้การต้อนรับผู้นำจากประเทศขนาดใหญ่ในยุโรปอย่างน้อยหนึ่งคน ยกเว้น เซอร์เบีย บอสเนียและเฮอร์เซโกวินา ฮังการี และเบลารุส 

ส่วนบางประเทศเช่น กรีซ เอสโตเนีย และมอลโดวา ตัดสินใจส่งตัวแทนเดินทางมาให้กำลังใจแทนผู้นำประเทศ แต่ถึงแม้จะส่งแค่ตัวแทนแต่เอสโตเนียก็เป็นหนึ่งในชาติพันธมิตรใหญ่สุดของยูเครนที่ส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงเยือนกรุงเคียฟถึง 4 คนด้วยกัน เช่นเดียวกับเยอรมนี ฝรั่งเศส และเนเธอร์แลนด์ 

ในบรรดาการเยือนยูเครนของเหล่าผู้นำประเทศ คณะผู้แทนที่เป็นระดับผู้นำรัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรี โปแลนด์มาเยือนมากที่สุดคือ 9 ครั้ง โดยเป็นการเยือนทั้งโดยนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดี และเป็นการเดินทางเยือนทั้งที่กรุงเคียฟและที่เมืองลวีฟที่มีพรมแดนติดกับโปแลนด์ 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/4HClALI7FrWHMOa0gvSwQE/182b37f347d106fd51a18222632e05e3/biden-russia-ukraine-war-anniversary-SPACEBAR-Photo01
Photo: บอริส จอห์นสัน (ซ้าย) และโวโลดิมีร์ เซเลนสกี (กลาง) ในกรุงเคียฟเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2022 (Photo: UKRAINIAN PRESIDENTIAL PRESS SERVICE / AFP)
ส่วนการเยือนที่ถือว่าบ่อยครั้งมากที่สุดเป็นการเยือนของบรรดารัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตามมาด้วยการเยือนของเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหราชอาณาจักรที่เยือนกรุงเคียฟถึง 3 ครั้ง  โดยบอริส จอห์นสัน อดีตนายกรัฐมนตรีเยือน2 ครั้ง และนายกรัฐมนตรีริชชี ซูนัค เยือน 1 ครั้งเมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2022 

เมื่อดูตลอดทั้งปีที่ผ่านมา บรรดาผู้นำต่างชาติที่เดินทางมาเป็นแขกของประธานาธิบดีเซเลนสกีมีผู้นำจากอินโดนีเซีย ออสเตรเลีย กัวเตมาลา แคนาดา และกินี-บิสเซา และเนื่องจากยูเครนยังคงปิดน่านฟ้า ผู้มาเยือนทุกคนจึงต้องเดินทางมากรุงเคียฟด้วยรถไฟ     

แต่ใช่ว่าจะมีเฉพาะผู้นำประเทศเท่านั้นที่ประธานาธิบดีเซเลนสกีให้การต้อนรับ เขาให้การรับรองบรรดาตัวแทนจากต่างชาติจากหลายองค์กรทั้งที่เกี่ยวเนื่องกับการเมือง เศรษฐกิจ หรือด้านมนุษยธรรม ส่วนรองประธานาธิบดีและทีมงานในคณะรัฐบาลยูเครนคนอื่นๆ ก็ต้อนรับผู้มาเยือนจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกด้วยเช่นกัน 

อย่างกรณีแนนซี เพโลซี สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ ลินด์ซีย์ แกรมห์, มิทช์ แมคคอนเนลล์, อีริก สวอลเวล และวุฒิสมาชิกเอมี โคลบูชาร์ ที่ล้วนเดินทางมากรุงเคียฟเพื่อให้กำลังใจผู้นำยูเครนในช่วงปีที่ผ่านมา 

นอกจากนี้ ยังมี ฌอน เพนน์, เบน สติลเลอร์, ริชาร์ด แบรนสัน และอเล็กซ์ คาร์ป ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัท Palantir 

นอกจากต้อนรับแขกต่างประเทศแล้ว ประธานาธิบดีเซเลนสกี ซึ่งแทบไม่เคยทิ้งประเทศไปไหน นับตั้งแต่กองทัพรัสเซียเริ่มบุกโจมตี ยังปรากฏตัวผ่านการประชุมทางวิดีโอนับครั้งไม่ถ้วนกับที่ประชุมรัฐสภาประเทศต่างๆ องค์กรระหว่างประเทศเพื่อนำเสนอภาพ ตลอดจนความเคลื่อนไหวของการสู้รบกับรัสเซียให้แก่บรรดาคณะผู้แทนประเทศต่างๆ นักวิชาการ และนักเรียน นักศึกษา หรือแม้กระทั่งในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ 

ในปีที่ผ่านมา เซเลนสกีเดินทางเยือนต่างประเทศ 1 ครั้ง คือไปปรากฏตัวที่การประชุมสภาคองเกรสของสหรัฐในเดือนธ.ค. และมีกำหนดการเดินทางไปสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เบลเยียม และโปแลนด์ในเดือนก.พ.นี้ 
 
การต้อนรับแขกต่างประเทศแบบ “คิวแน่น” ของประธานาธิบดีเซเลนสกี เป็นตัวบ่งชี้ที่ชัดเจนว่า โลกที่แบ่งขั้วในยุคที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ตอนนี้ถือหางข้างใครมากกว่ากันระหว่างรัสเซียกับยูเครน

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์