ระบาดอีกแล้ว! ผู้เชี่ยวชาญเตือนไข้หวัดนก ‘H5N1’ อาจร้ายแรงกว่าโควิด 100 เท่า

5 เมษายน 2567 - 09:08

bird-flu-scientists-say-half-of-infections-with-h5n1-in-people-are-fatal-SPACEBAR-Hero.jpg
  • “ใกล้มากๆ แล้วที่ไข้หวัดนกสายพันธุ์ ‘H5N1’ จะทำให้เกิดการระบาดใหญ่ การติดเชื้อหลายกรณีในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิด รวมถึงวัว แมว และล่าสุดคือมนุษย์ ล้วนเพิ่มความเสี่ยงที่ไวรัสจะกลายพันธุ์และแพร่เชื้อได้มากขึ้น”

  • “ไข้หวัดนก ‘H5N1’ อาจก่อให้เกิดการระบาดใหญ่ที่เลวร้ายยิ่งกว่าโควิด สิ่งนี้ดูเหมือนจะเลวร้ายกว่าโควิด 100 เท่า…”

ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า “การระบาดใหญ่ของไข้หวัดนกอาจเลวร้ายกว่าโควิด 100 เท่า และคร่าชีวิตทุกคนที่ติดเชื้อถึงครึ่งหนึ่ง” ขณะที่ทำเนียบขาวบอกว่า “กำลังติดตามสถานการณ์” 

นักวิจัยด้านไวรัสกล่าวในการบรรยายสรุปว่า “ใกล้มากๆ แล้วที่ไข้หวัดนกสายพันธุ์ ‘H5N1’ จะทำให้เกิดการระบาดใหญ่ การติดเชื้อหลายกรณีในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิด รวมถึงวัว แมว และล่าสุดคือมนุษย์ ล้วนเพิ่มความเสี่ยงที่ไวรัสจะกลายพันธุ์และแพร่เชื้อได้มากขึ้น” 

แต่คนอื่นๆ ที่เข้าร่วมการบรรยายสรุปกล่าวว่า “ยังเร็วเกินไปที่จะตื่นตระหนก เนื่องจากเรายังไม่ทราบข้อมูลเกี่ยวกับไข้หวัดนกสายพันธุ์นี้มากพอที่จะส่งสัญญาณเตือน” 

ขณะที่ตัวแทนของทำเนียบขาวกล่าวว่า  “กำลังติดตามไข้หวัดนกในสหรัฐฯ เราให้ความสำคัญกับสุขภาพและความปลอดภัยของชาวอเมริกันอย่างจริงจัง” 

การประชุมดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วหลังได้รับข่าวว่า “คนงานฟาร์มโคนมรายหนึ่งในเท็กซัสถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัส รวมทั้งฟาร์มวัว 12 แห่งใน 6 รัฐ และแมว 3 ตัวในเท็กซัสที่เสียชีวิตในเวลาต่อมา ทั้งนี้ พบว่าไวรัสของผู้ป่วยได้กลายพันธุ์แพร่กระจายได้ง่ายขึ้น และศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐฯ (CDC) ระบุว่า “มีการบันทึกการกลายพันธุ์นี้มาก่อน ความเสี่ยงต่ำ และไม่มีสัญญาณของการแพร่เชื้อจากคนสู่คน” 

ในการบรรยายสรุป ดร.สุเรช คูชิปูดี นักวิจัยโรคไข้หวัดนกในเมืองพิตต์สเบิร์ก เตือนว่า “ไวรัสชนิดนี้อยู่ในอันดับต้นๆ ของรายการโรคระบาดมาหลายปี และอาจหลายทศวรรษด้วยซ้ำ และตอนนี้เรากำลังเข้าใกล้ไวรัสนี้จนเป็นอันตรายซึ่งอาจก่อให้เกิดการระบาดใหญ่…ไวรัส ‘H5N1’ ได้แสดงให้เห็นลักษณะสำคัญหลายประการของไวรัสที่อาจเกิดการระบาดใหญ่” 

“ไวรัสเหล่านี้แพร่กระจายไปทั่วโลกแล้ว และโดยเฉพาะอย่างยิ่งไวรัสนี้ที่มักถูกมองว่าเป็น ‘ไวรัสในนก’ มันได้แสดงให้เห็นแล้วว่า มันสามารถแพร่เชื้อไปยังสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมได้หลายชนิด รวมถึงมนุษย์ด้วย…เราไม่ได้กำลังพูดถึงไวรัสที่ยังไม่แพร่กระจาย แต่เรากำลังพูดถึงไวรัสที่มีอยู่ทั่วโลก ซึ่งแพร่ระบาดในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิดแล้วและกำลังแพร่กระจายอยู่…” ดร.คูชิปูดีกล่าวเสริม 

มันอาจร้ายแรงกว่า ‘โควิด’ 100 เท่า…

จอห์น ฟุลตัน ที่ปรึกษาอุตสาหกรรมยาสำหรับวัคซีนและเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทยาไบโอไนแอการา (BioNiagara) ในแคนาดาแสดงความกังวลของเขา โดยเตือนว่า “ไข้หวัดนก ‘H5N1’ อาจก่อให้เกิดการระบาดใหญ่ที่เลวร้ายยิ่งกว่าโควิด สิ่งนี้ดูเหมือนจะเลวร้ายกว่าโควิด 100 เท่า…” 

องค์การอนามัยโลก (WHO) ประมาณการอัตราการเสียชีวิตของเชื้อ ‘H5N1’ อยู่ที่ 52% โดยอิงจากผู้เสียชีวิต 462 รายนับตั้งแต่ปี 2003 ในกลุ่มผู้ป่วย 887 รายที่ได้รับการวินิจฉัยว่า ‘ติดเชื้อไวรัส’ 

เมื่อเทียบกับโควิดในปัจจุบันพบว่า มันคร่าชีวิตผู้คนที่ติดเชื้อไปไม่ถึง 0.1% แม้ว่าในช่วงเริ่มต้นของการระบาดจะอยู่ที่ประมาณ 20% ก็ตาม แต่ตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา ไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่ได้อุบัติขึ้นและแพร่กระจายไปทั่วโลก โดยพบว่าผู้ติดเชื้อ ‘H5N1’ 7 ใน 26 รายเสียชีวิตไปแล้ว หรือเกือบ 30% 

ผู้เชี่ยวชาญบางคนเตือนว่าในกรณีที่ร้ายแรงกว่าแต่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก เชื้อ ‘H5N1’ อาจติดเชื้อทางเดินหายใจที่ทำให้เกิดโรคปอดบวม นอกจากนี้ยังสามารถแพร่เชื้อไปยังบริเวณอื่นๆ เช่น ดวงตา ซึ่งทำให้เกิดการอักเสบได้ 

ดร.กาเบรียล ชิรูอาร์ด นักจุลชีววิทยาในรัฐนิวบรันสวิก แคนาดา เตือนว่า “ปัจจุบันอัตราการเสียชีวิตของเชื้อ ‘H5N1’ อยู่ที่ประมาณ 50% แม้ว่าจะมีผู้ป่วยเพียงไม่กี่รายก็ตาม” แต่เขาบอกว่าหากไวรัสเริ่มแพร่กระจายระหว่างผู้คน สถานการณ์นี้น่าจะ ‘ลดลง’ แต่ยังคง ‘อยู่ในระดับสูง’ 

โรคติดเชื้อที่อุบัติขึ้นใหม่มีอัตราการเสียชีวิตสูงเนื่องจากผู้คนยังไม่มีการป้องกัน ทำให้ไวรัสสามารถหลบเลี่ยงระบบภูมิคุ้มกันและทำให้เกิดการติดเชื้อรุนแรงขึ้นได้ 

แต่ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ แย้งว่า ‘อย่าเพิ่งตื่นตระหนก!’ 

เดวิด สเวน ซึ่งทำงานเกี่ยวกับการติดเชื้อไข้หวัดนกในสัตว์มานานหลายทศวรรษบอกว่า “ตอนนี้ สำหรับกรณีวัว เรายังไม่มีข้อมูล จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะมีการแจ้งเตือน เรายังขาดข้อมูลอย่างมาก เรามาดูข้อเท็จจริงและดูด้วยเหตุผลกันดีกว่า วันนี้เราไม่ค่อยรู้อะไรมากนักเพราะช่องว่างของข้อมูลที่เราต้องหาต่อไป”

ดร.ฟรองซัวส์ บัลลูซ์ นักระบาดวิทยาในสหราชอาณาจักรกล่าวเสริมบน X “การที่จะกลายเป็นโรคระบาด ไวรัสจะต้องสามารถแพร่เชื้อไปยัง ‘มนุษย์’ หรือ ‘สัตว์’ ได้ง่ายและแพร่กระจายระหว่างพวกมันได้ แต่นักวิจัยยังไม่ได้พิสูจน์ว่าขณะนี้ไวรัสสามารถแพร่กระจายจาก ‘สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม’ สู่ ‘สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม’ ได้หรือไม่ โดยอยู่ระหว่างการศึกษาเกี่ยวกับวัวที่ติดเชื้อ” 

เคสฟาร์มวัวสหรัฐฯ กำลังเป็นกรณีศึกษา

bird-flu-scientists-say-half-of-infections-with-h5n1-in-people-are-fatal-SPACEBAR-Photo01.jpg

จนถึงตอนนี้ ฟาร์ม 12 แห่งใน 6 รัฐที่รายงานว่ามีการติดเชื้อ ‘H5N1’ ในวัว ซึ่งรวมถึงฟาร์ม 5 แห่งในรัฐเท็กซัส เช่นเดียวกับฟาร์มในนิวเม็กซิโก รัฐมิชิแกน รัฐโอไฮโอ รัฐไอดาโฮ และรัฐแคนซัส ขณะที่วัวในรัฐไอโอวาก็กำลังถูกทดสอบด้วยเช่นกัน 

ทั้งนี้ วัวที่ติดเชื้อจะมีอาการเซื่องซึม กินอาหารน้อยลง และผลิตนมน้อยลง แต่พวกมันไม่ได้ตายจากการติดเชื้อ ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าวัวติดเชื้อได้อย่างไร ไม่ว่าจะเกิดจากการสัมผัสกับมูลสัตว์ที่ติดเชื้อ ซากนก หรืออื่นๆ และยังไม่ชัดเจนว่าไวรัสแพร่กระจายระหว่างสัตว์หรือติดเชื้อจากแหล่งเดียว เช่น อาหารของพวกมัน เคสส่วนใหญ่ทั่วประเทศเชื่อมโยงกลับไปยังฟาร์มในเท็กซัส 

แต่สำหรับเคสของมนุษย์ ยังมีสิ่งที่ไม่ทราบอีกมากมาย รวมถึงวิธีที่ผู้ป่วยติดเชื้อด้วย อาจเกิดจากการสัมผัสวัวโดยตรง หรือจากการสัมผัสพื้นผิวที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัส 

แม้ว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจำนวนมากจะติดเชื้อ แต่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่ามีชนิดหนึ่งที่พวกเขาให้ความสนใจเป็นพิเศษ นั่นก็คือ ‘หมู’ เนื่องจากมันมีอวัยวะรับสัมผัสในปอดเหมือนกับมนุษย์ ซึ่งหมายความว่า ‘การระบาดในสัตว์เหล่านี้สามารถทำนายเหตุการณ์ที่คล้ายกันในมนุษย์ได้’ แต่ขณะนี้ยังไม่มีการบันทึกการติดเชื้อใน ‘หมู’ 

อย่างไรก็ตาม มีบุคคลหนึ่งในรัฐเพนซิลเวเนียได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อไข้หวัดจากหมูเมื่อต้นปีนี้ และต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล แต่เขาก็หายดีแล้ว บุคคลดังกล่าวมีการสัมผัสใกล้ชิดกับหมูและติดเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ ‘H1N2’ ซึ่งแตกต่างจาก ‘H5N1’ เล็กน้อย 

เจ้าหน้าที่กล่าวว่ามีความเสี่ยงต่ำมากที่จะติดไข้หวัดนกจากนมวัว เนื่องจากนมเกือบทั้งหมดผ่านการพาสเจอร์ไรส์ ซึ่งจะช่วยยับยั้งไวรัสและแบคทีเรียก่อนที่นมจะถูกส่งไปยังร้านค้า 

โรคไข้หวัดนกเริ่มระบาดในปี 2020 และแพร่กระจายอย่างรวดเร็วผ่านนกอพยพ จนในเดือนพฤษภาคมปี 2021 ได้รับการยืนยันว่า ไวรัสได้ระบาดข้ามสายพันธุ์ระหว่างนกและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเป็นครั้งแรก หลังจากที่ลูกสุนัขจิ้งจอก 2 ตัวในเนเธอร์แลนด์มีผลการทดสอบเป็นบวก ซึ่งนักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าน่าจะเกิดจากการกินซากนกที่ติดเชื้อ 

กระทั่งเดือนมกราคม 2022 ก็พบว่า อลัน กอสลิ่ง ชาวอังกฤษวัย 79 เป็นผู้ป่วยที่เป็น ‘มนุษย์’ รายแรก

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์