ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ อนุมัติประกาศสถานการณ์ไฟป่าแคลิฟอร์เนียเป็น ‘ภาวะฉุกเฉิน’ เมื่อวันพุธ (8 ม.ค.) พร้อมจัดสรรเงินและทรัพยากรเพื่อต่อสู้กับไฟป่า “เราเตรียมพร้อมที่จะทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อควบคุมไฟป่า และช่วยฟื้นฟูเมืองให้กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง ซึ่งเป็นหนทางที่ยาวไกลมาก มันต้องใช้เวลา” ไบเดน กล่าว
ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงพยายามควบคุมเพลิง แต่ยังไม่สามารถคุมได้เนื่องจากลมค่อนข้างแรงทำให้ไฟลามหนัก ทั้งนี้คาดว่าลมจะเบาลงในคืนนี้ แต่นักพยากรณ์อากาศเตือนว่าสถานการณ์จะยังคงวิกฤตอย่างน้อยไปจนถึงวันศุกร์นี้ (10 ม.ค.)
ตามการวิเคราะห์ของศูนย์สภาพอากาศโลกของบริษัท ‘AccuWeather’ ระบุว่า มูลค่าความเสียหายทั้งหมดจากไฟป่าอาจสูงถึง 52,000 - 57,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.8-1.97 แสนล้านบาท) หรือมากกว่านั้น
ไฟป่าที่กำลังโหมกระหน่ำรอบๆ ลอสแอนเจลิสได้ลุกลามไปถึงย่านฮอลลีวูดฮิลส์ในวันพุธ อีกทั้งไฟป่าที่กำลังลุกไหม้ถึง 5 จุดในพื้นที่ดังกล่าวเผาอาคารไปแล้วกว่า 1,100 หลัง รวมถึงคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 5 ราย และอพยพร่วมแสนคน
“พื้นที่หลายพันเฮกตาร์ถูกเผาไหม้ และไฟยังคงลุกลาม เปอร์เซ็นต์การควบคุมไฟป่ายังเป็น 0” แอนโธนี มาร์โรน หัวหน้าดับเพลิงของเทศมณฑลลอสแอนเจลิส กล่าวเมื่อวันพุธ
เจ้าหน้าที่ได้เตือนให้ประชาชนใส่ใจคำสั่งอพยพและออกจากพื้นที่เมื่อได้รับคำสั่ง ขณะเดียวกัน ทางการก็ส่งสมาชิกกองกำลังป้องกันชาติ 2,000 คนไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ดับเพลิงในพื้นที่ด้วย
ไฟป่าที่ลุกไหม้ ‘แปซิฟิกพาลิเซดส์’ (Pacific Palisades) ย่านพักฮาศัยคนรวย ถือเป็นไฟไหม้ที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของลอสแอนเจลิส โดยมีอาคารถูกไฟไหม้เป็นพันๆ หลัง ซึ่งมากกว่าไฟไหม้เขตเซย์เออร์เมื่อปี 2008 ที่ทำลายอาคาร 604 หลังในเขตชานเมืองทางตอนเหนือของลอสแอนเจลิส
ตามรายงานของ PowerOutage.us ระบุว่า บ้านเรือนและสถานประกอบการเกือบ 1 ล้านแห่งในลอสแอนเจลิสไม่มีไฟฟ้าใช้ อีกทั้งโรงเรียนทั่วทั้งลอสแอนเจลิสก็ปิดอย่างน้อยไปจนถึงวันพฤหัสบดีนี้ี
“ลมกระโชกแรงขึ้น เปลวไฟอยู่สูงประมาณ 9-12 เมตร และคุณจะได้ยินเสียง ‘ป๊อก ป๊อก ป๊อก’ มันฟังดูเหมือนเขตสงคราม” เควิน วิลเลียมส์ ผู้เสียหายบอกกับสำนักข่าว Reuters พร้อมเล่าเหตุการณ์ที่กระป๋องแก๊สในบ้านของเพื่อนบ้านเริ่มระเบิดขึ้นจากความร้อนของเปลวไฟ
ส่วนหนึ่งที่เพลิงไหม้ลามง่ายเพราะ...พื้นที่เมือง ‘ขาดน้ำ’

ไฟป่าเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่แคลิฟอร์เนียตอนใต้กำลังเปราะบางเป็นพิเศษ เนื่องจากไม่มีฝนตกหนักนับตั้งแต่เดือนตุลาคม พอลมซานตาอานา (หรือลมปีศาจ) พัดเข้ามาอย่างรุนแรง พร้อมทั้งเอาอากาศแห้งจากทะเลทรายจากทางทิศตะวันออกมุ่งหน้าสู่เทือกเขาชายฝั่ง ทำให้เกิดไฟป่าในขณะที่กำลังพัดผ่านยอดเขา และพัดลงมาตามหุบเขา
นักวิทยาศาสตร์เผยว่า ไฟป่าที่เกิดขึ้นนอกฤดูไฟป่า ถือเป็นสภาพอากาศสุดขั้วครั้งล่าสุดที่มีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากอุณหภูมิโลกยังคงเพิ่มสูงขึ้นในทศวรรษหน้า
Photo by JOSH EDELSON / AFP