กัมพูชาและจีนเริ่มการฝึกซ้อมทางทหาร ‘Golden Dragon’ ร่วมกันครั้งใหญ่ที่สุดเมื่อวันพุธที่ 14 พฤษภาคม โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารจีนเกือบ 900 นาย และทหารกัมพูชากว่า 1,300 นายเข้าร่วมการฝึกซ้อม ซึ่งจะดำเนินการไปจนถึงวันที่ 28 พฤษภาคมนี้
การฝึกซ้อมครั้งนี้ใช้ยุทโธปกรณ์ทหารจีนขั้นสูง เช่น รถหุ้มเกราะ เฮลิคอปเตอร์ เรือรบ โดรนลาดตระเวน และหุ่นยนต์สุนัขนักรบ
กัมพูชาเป็นพันธมิตรที่มั่นคงของจีนมาช้านาน ซึ่งได้รับเงินลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ ขณะที่สหรัฐฯ แสดงความกังวลว่าจีนกำลังใช้ฐานทัพเรือกัมพูชาที่ปรับปรุงใหม่ในอ่าวไทยเพื่อขยายอิทธิพลในภูมิภาคนี้
กองทัพระบุว่าการซ้อมรบประจำปีดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นระหว่างกองทัพทั้งสองประเทศ “การซ้อมรบครั้งนี้มีกำลังพลและอุปกรณ์มากกว่าปีที่แล้ว...เรือรบขนาดใหญ่ของจีน ‘ฉางไป๋ซาน’ ได้จอดเทียบท่าที่ฐานทัพเรือเรียมที่ได้รับการปรับปรุงโดยจีน พร้อมกับอุปกรณ์ทางทหารสำหรับการซ้อมรบ” ทอง โซลิโม โฆษกกองทัพอากาศกัมพูชา กล่าว
อู วีรัก นักวิเคราะห์การเมืองชาวกัมพูชากล่าวกับสำนักข่าว AFP ว่า “จีนต้องการแสดงพลัง และต้องการส่งสัญญาณว่า ‘จีนเป็นมหาอำนาจ’ ผ่านการซ้อมรบดังกล่าว...แน่นอนว่าจีนกำลังพยายายขยายอิทธิพลภายในภูมิภาค”
“นอกจากแสดงพลังแล้ว จีนยังต้องสร้างความเชื่อมั่นในหมู่พันธมิตรเพื่อบอกกับพันธมิตรว่า จีนกำลังเติบโต จีนกำลังขยายตัว จีนยังแข็งแกร่งขึ้นทั้งในด้านขนาดและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี รวมถึงกำลังทหารด้วย” อู วีรัก กล่าวเสริม
ทั้งนี้ คาดว่ากัมพูชาจะได้รับเรือรบจากจีน 2 ลำด้วย อย่างไรก็ดี ทั้งสองประเทศเคยฝึกซ้อมรบ ‘Golden Dragon’ ครั้งแรกในปี 2016 และในช่วงต้นปี 2017 กัมพูชาได้ยกเลิกการฝึกซ้อมรบร่วมที่คล้ายคลึงกันนี้ซึ่งเรียกว่า ‘Angkor Sentinel’ ที่จัดขึ้นร่วมกับกองกำลังสหรัฐฯ เป็นเวลา 7 ปีก่อนหน้านั้น
การฝึกซ้อมรบดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนเดินทางเยือนกัมพูชาเป็นเวลา 2 วันในเดือนเมษายน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ
(Photo by TANG CHHIN SOTHY and TANG CHHIN SOTHY / AFP)