Campana della Morte หรือ “ระฆังแห่งความตาย” เป็นระฆังที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในพิธีกรรมของนครรัฐวาติกัน โดยจะถูกลั่นขึ้นเพียงครั้งเดียวเมื่อสมเด็จพระสันตะปาปาสิ้นพระชนม์เท่านั้น
ระฆังใบนี้ตั้งอยู่ที่มหาวิหารนักบุญเปโตรในกรุงโรม และเสียงระฆังจะเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการสิ้นสุดของพระสันตะปาปาองค์ปัจจุบัน พร้อมกับการเข้าสู่ช่วง “Sede Vacante” หรือช่วงเวลาที่ตำแหน่งพระสันตะปาปาว่างลงก่อนการเลือกตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่
เมื่อพระสันตะปาปาสิ้นพระชนม์ แพทย์ประจำวาติกันจะยืนยันการสิ้นพระชนม์อย่างเป็นทางการ จากนั้นเจ้าพนักงานสำนักงานส่วนพระองค์ (Camerlengo) จะเรียกชื่อศีลจุ่มของพระสันตะปาปา 3 ครั้ง หากไม่มีการตอบกลับ จึงประกาศการสิ้นพระชนม์ต่อสาธารณชน หลังจากนั้นระฆัง Campana della Morte จะถูกลั่นขึ้นเพื่อแจ้งข่าวแก่ประชาชนและชาวคาทอลิกทั่วโลก
เสียงระฆังนี้มีความหมายลึกซึ้ง เป็นการระลึกถึงการจากไปของผู้นำสูงสุดของคริสตจักรโรมันคาทอลิก และเป็นสัญญาณเริ่มต้นของกระบวนการไว้อาลัยและการเลือกตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่
การถึงแก่อสัญกรรมของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ได้รับการประกาศอย่างเคร่งขรึมด้วยเสียงระฆังที่ดังก้องไปทั่วจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์และโบสถ์คาทอลิกทั่วโลก สะท้อนถึงธรรมเนียมอันยาวนานในการแจ้งข่าวการสิ้นพระชนม์ของพระสันตะปาปาด้วยการตีระฆัง ธรรมเนียมนี้หยั่งรากลึกในประวัติศาสตร์คาทอลิก ทำหน้าที่เป็นสัญญาณทั้งทางสาธารณะและทางจิตวิญญาณถึงความโศกเศร้าและการเปลี่ยนผ่านภายในพระศาสนจักร
แม้ชื่อ “Campana della Morte” จะเป็นคำที่ใช้เรียกระฆังที่ตีเพื่อประกาศการเสียชีวิต รวมถึงของพระสันตะปาปา แต่ในรายงานเกี่ยวกับการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสล่าสุดไม่ได้กล่าวถึงระฆังลูกนี้โดยตรง
อย่างไรก็ตาม นอกจากวาติกันแล้วยังมีสถานที่สำคัญอื่น ๆ เช่น มหาวิหารนอเทรอดามในปารีสที่ตีระฆัง 88 ครั้งเพื่อรำลึกถึง 88 ปีแห่งพระชนม์ชีพของพระองค์ สะท้อนถึงความสำคัญเชิงสัญลักษณ์ของระฆังในพิธีกรรมและการไว้ทุกข์ของคาทอลิก
พิธีไว้อาลัยจะจัดขึ้นเป็นเวลา 9 วัน โดยในช่วงนี้จะมีการนำร่างพระสันตะปาปาไปประดิษฐานที่มหาวิหารนักบุญเปโตรเพื่อให้ประชาชนเข้ามาเคารพศพ จากนั้นจะมีพิธีศพอย่างเป็นทางการและการสวดอุทิศแด่ดวงวิญญาณ นอกจากนี้ แหวนและตราประทับของพระสันตะปาปาจะถูกทำลายเพื่อป้องกันการปลอมแปลง