ผู้คนนับหมื่นรวมตัวกันปั่นจักรยานกลางคืนระหว่างเมืองเจิ้งโจวไปยังเมืองไคเฟิงในภาคกลางของจีน เพื่อไปกินเกี๊ยวซุป (เสี่ยวหลงเปา) อันโด่งดังของเมือง หรือที่คนในท้องถิ่นเรียกกันว่า “ทังเปา” ส่งผลให้การจราจรติดขัดและทำให้บริษัทเช่าจักรยานต้องปิดร้านชั่วคราว
การปั่นจักรยานกลางคืนกลายเป็นกระแสนิยมในโซเชียลมีเดียของจีนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากนักศึกษาหญิง 4 คนปั่นจักรยานจากเมืองเจิ้งโจวไปยังเมืองไคเฟิงเป็นระยะทาง 48 กม. เพื่อลิ้มลองเสี่ยวหลงเปา
“คุณจะไม่มีโอกาสครั้งที่สองในวัยหนุ่มสาว ดังนั้นคุณต้องออกไปเที่ยวกับเพื่อนแบบไม่ได้วางแผนล่วงหน้า” นักปั่น 1 ใน 4 คนกล่าวกับสื่อท้องถิ่น
ข้อความดังกล่าวสะกิดใจคนหนุ่มสาวในเมืองที่มีประชากร 12.6 ล้านคน ซึ่งพวกเขามักบ่นถึงภาวะหมดไฟในการทำงานจากตลาดงานที่มีการแข่งขันกันสูงและกดดันมากเกินไป ทำให้เกิดกระแสโซเชียลมีเดีย ‘ปั่นจักรยานกลางคืนไปไคเฟิง’ ขึ้นมา
กิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของกระแสที่ชาวจีนรุ่นใหม่เดินทางท่องเที่ยวในราคาถูกในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังซบเซาและโอกาสการจ้างงานมีน้อย
สื่อของรัฐยกย่องว่านี่เป็นการแสดงให้เห็นถึง ‘ความหลงใหลของคนรุ่นใหม่’ และรัฐบาลท้องถิ่นมองว่านี่เป็นโอกาสที่จะสร้างความโด่งดังเหมือนกับเมืองจือปั๋วเมื่อปีที่แล้ว หลังมีผู้คนนับล้านเดินทางมาเพื่อชิมบาร์บีคิวของเมือง
“ทุกคนต่างมีชีวิตชีวาและมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนรอบข้าง รู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสมัยเรียนมหาวิทยาลัย” หลี่ หญิงสาววัย 27 ปี บอกกับสำนักข่าวว BBC พร้อมเล่าว่า เมื่อคืนวันศุกร์ (8 พ.ย.) เธอได้ปั่นจักรยานไปเมืองไคเฟิงพร้อมกับกลุ่มนักศึกษา เธอตัดสินใจที่จะเข้าร่วมเพราะอยากใช้ชีวิตเหมือนคนหนุ่มสาวสักครั้ง
หลี่เล่าต่อว่า ระหว่างทางมีตำรวจประจำการอยู่หนาแน่นตลอดทาง “คุณจะเห็นรถพยาบาลและรถตำรวจจราจรอยู่สองข้างทางค่อนข้างเยอะ และยังมีโดรนบินเพื่อคอยตรวจสอบการจราจรอีกด้วย”
ทว่าความนิยมของกิจกรรมปั่นจักรยานกลางคืนกลับสร้างผลกระทบ...
เนื่องจากมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวจำนวนมากจนทำให้ผู้เข้าร่วมบางคนต้องลงจากจักรยานและเดินฝ่าฝูงชน ขณะที่นักศึกษาคนหนึ่งโพสต์ในโซเชียลมีเดียว่า ตัวเขาได้เข้าร่วมกิจกรรมปั่นจักรยาน แต่ไม่สามารถหาห้องพักโรงแรมหรือแท็กซี่ในไคเฟิงได้เนื่องจากมีผู้หลั่งไหลเข้ามา
บรรยากาศแห่งความสุขก็เปลี่ยนไปเมื่อถนนในเมืองเจิ้งโจวเริ่มเต็มไปด้วยจักรยานหลายพันคัน หลังมีการเผยแพร่ภาพทางออนไลน์เผยให้เห็นการจราจรติดขัดอย่างหนักบนถนนสายหลักตั้งแต่เมืองเจิ้งโจวไปจนถึงเมืองไคเฟิง
พยานคนหนึ่งบอกกับสำนักข่าว Jimu News ในท้องถิ่นว่า การขับรถบนเส้นทางดังกล่าวซึ่งปกติใช้เวลา 1 ชั่วโมง กลับใช้เวลานานถึง 3 ชั่วโมง
อย่างไรก็ดี ยังไม่มีการประมาณการอย่างเป็นทางการว่ามีจำนวนจักรยานบนถนนเมื่อคืนวันศุกร์กี่คัน แต่รายงานจากโซเชียลมีเดียระบุว่า มีจักรยานประมาณ 100,000-200,000 คัน และดูเหมือนว่าผู้ที่ปั่นไปถึงไคเฟิงหลายคนจะไม่สนุกกับประสบการณ์ดังกล่าวเท่าใดนัก
“ฉันเสียใจจริงๆ ที่ตัดสินใจไป” นักศึกษาคนหนึ่งโพสต์หลังใช้เวลาปั่นจักรยานนานกว่า 7 ชั่วโมง
“ตอนที่ฉันนั่งทานอาหารในร้านอาหาร ฉันได้ยินเจ้าของร้านตำหนิเหล่านักศึกษาว่าไม่มีอะไรทำแล้วหรอ...ฉันขอโทษจริงๆ ที่ทำให้ผู้คนในไคเฟิงได้รับผลกระทบ” นักศึกษาอีกคนโพสต์
บางคนวิจารณ์นักปั่นจักรยานว่า “มีพฤติกรรมที่ไร้ความรับผิดชอบ เช่น ทิ้งขยะ”
Photo by STRINGER / AFP