จีนกล่าวเมื่อวันพุธ (23 เม.ย.) ว่าประตูสำหรับการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ยัง ‘เปิดกว้างอย่างเต็มที่’ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ใน ‘การลดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน’ ลงอย่างมีนัยสำคัญ
ทรัมป์กล่าวเมื่อวันอังคาร (22 เม.ย.) ว่าไม่มีเจตนาจะปลด เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เพื่อบรรเทาความวิตกของตลาดโลกที่หวาดกลัวนโยบายการค้าที่ก้าวร้าวของทรัมป์
ตั้งแต่กลับเข้ามาดำรงตำแหน่งอีกครั้งในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทรัมป์ได้กำหนดภาษีเพิ่มเติม 145% กับสินค้าจากจีนหลายรายการ รวมถึงภาษีที่กล่าวหาว่าจีนมีส่วนเกี่ยวข้องในห่วงโซ่อุปทานยาเฟนทานิล และภาษีที่เรียกเก็บจากการปฏิบัติที่สหรัฐฯ มองว่าไม่เป็นธรรม ขณะที่จีนตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษี 125% กับสินค้าสหรัฐฯ แต่ยืนยันอีกครั้งเมื่อวันพุธว่า ‘พร้อมเจรจาการค้า’
“จีนชี้แจงตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่มีผู้ชนะในสงครามภาษีและสงครามการค้า ประตูสำหรับการเจรจายังคงเปิดกว้าง”
กัวเจียคุน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าว
ตามรายงานของสื่อรัฐระบุว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ยังเตือนว่าสงครามการค้าจะ “บ่อนทำลายสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของทุกประเทศ ทำร้ายระบบการค้าพหุภาคี และส่งผลกระทบต่อระเบียบเศรษฐกิจโลก”
ทรัมป์ยอมรับว่าภาษี 145% เป็นระดับที่ ‘สูงมาก’ และจะ ‘ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ’ โดยกล่าวว่า “จีนจะไม่เข้าใกล้ตัวเลขนั้น แต่ก็จะไม่ใช่ศูนย์ สุดท้ายแล้ว พวกเขาต้องทำข้อตกลง เพราะไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถค้าขายในสหรัฐฯ ได้”
ถ้อยแถลงนี้มีขึ้นหลัง สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า “ภาษีเหล่านี้เปรียบเสมือนการคว่ำบาตรทางการค้าตอบโต้ และคาดว่าจะมีการคลี่คลายในเร็วๆ นี้ ซึ่งน่าจะช่วยบรรเทาความตึงเครียดในตลาดได้”
- ความวิตกกังวลของตลาดโลก -
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์เคยวิจารณ์พาวเวลล์อย่างรุนแรงจนทำให้เกิดความกังวลว่า พาวเวลล์อาจถูกปลดจากตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งผลให้ตลาดการเงินที่วิตกกับนโยบายการค้าก้าวร้าวของทรัมป์เกิดความปั่นป่วน
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์กล่าวเมื่อวันอังคารว่า “ผมไม่มีเจตนาที่จะไล่เขาออก ผมอยากเห็นเขาแสดงความกระตือรือร้นมากขึ้นในการดำเนินนโยบายลดอัตราดอกเบี้ย เพราะนี่เป็นเวลาที่เหมาะสม แต่ถ้าเขาไม่ทำ แล้วมันจะเป็นจุดจบหรือเปล่า? ก็ไม่”
หลังจากมีรายงานคำพูดของเบสเซนต์ เกี่ยวกับการเจรจาการค้ากับจีนออกไป ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วอลล์สตรีทก็พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นทั่วภูมิภาค อีกทั้งดัชนีหลักในฮ่องกงและโตเกียวเพิ่มขึ้นประมาณ 2% ขณะที่ราคาทองคำลดลงหลังแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันพุธ
เบสเซนต์กล่าวว่า “ยังมีงานต้องทำร่วมกับจีนอีกมาก แต่เน้นความจำเป็นของการค้าอย่างเป็นธรรมและการปรับสมดุลเศรษฐกิจจีน” โดยย้ำว่า “เป้าหมายไม่ใช่การแยกตัวจากจีน” แม้ว่าการจองตู้คอนเทนเนอร์ระหว่างสองประเทศจะลดลงในช่วงที่ความตึงเครียดทางการค้าเพิ่มขึ้น
“สหรัฐฯ ทำได้ดีมากในเรื่องการเจรจาข้อตกลงการค้ากับจีน” แคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าว
ในสัปดาห์นี้ รัฐมนตรีคลังและผู้ว่าธนาคารกลางทั่วโลกจะมารวมตัวกันที่วอชิงตัน โดยทุกฝ่ายต่างจับตาความคืบหน้าการเจรจาการค้าในช่วงการประชุมกองทุนการเงินระหว่างประเทศและธนาคารโลก
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หวังอี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน ได้โทรศัพท์หารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษและออสเตรีย โดยเรียกร้องให้ร่วมมือกับจีนในการปกป้องการค้าระหว่างประเทศ
ขณะเดียวกัน ญี่ปุ่นก็กำลังพิจารณาการเยือนวอชิงตันของ เรียวเซย์ อากาซาวะ ทูตพิเศษด้านภาษีศุลกากรเป็นครั้งที่ 2 ในสัปดาห์หน้า ซึ่งอาจยอมทำข้อตกลงเพื่อลดความตึงเครียดกับทรัมป์
(Photo by Noel CELIS / AFP)