การยิงวัตถุบินได้ลึกลับที่มีขนาดเท่ากัน 3 ลูก หลังจากยิงบอลลูนสอดแนมของจีนร่วงแล้ว จุดประเด็นทำให้เกิดข้อสันนิษฐานว่า การปรากฏของวัตถุบินได้เหล่านี้ อาจเป็นการสมคบคิดกันของศัตรูสหรัฐฯ ที่ต้องการทสดสอบระบบที่ล้าสมัยของกระทรวงกลาโหม แต่อีกกลุ่มหนึ่งคิดว่านี่อาจไม่ใช่ฝีมือมนุษย์แต่เป็นเพื่อนจากต่างดาว
สก็อตต์ แคลนซี อดีตผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการป้องกันอวกาศแห่งทวีปอเมริกาเหนือ หรือ NORAD ให้ความเห็นว่า การที่มีวัตถุบินได้ไม่สามารถระบุได้ว่าคืออะไร หรือ UFO มีขึ้นอย่างต่อเนื่องเหนือน่านฟ้าสหรัฐฯ และแคนาดา หรือแม้กระทั่งในจีนและในเดือนนี้กองทัพสหรัฐฯ ก็ยิงวัตถุบินได้ล่วงลงมาแล้ว 4 ลำ (รวมบอลลูนสอดแนมของจีน)
วัตถุบินได้ทั้ง 3 ลำที่ถูกยิงตกในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมามีขนาดและรูปร่างแตกต่างกัน เริ่มจากวัตถุบินได้ที่มีขนาดเท่ารถยนต์ขนาดเล็ก ที่ถูกพบบินอยู่ที่ระดับความสูง 40,000 ฟุต (12,000 เมตร) ในทิศทางที่มุ่งสู่ขั้วโลกเหนือ ไม่มีระบบขับเคลื่อน หรือควบคุม ซึ่งเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า ยิงวัตถุดังกล่าวตกขณะบินเหนือรัฐอะแลสกาเมื่อ 10 ก.พ.
วัตถุที่ 2 เป็นวัตถุรูปทรงกระบอก ถูกตรวจพบครั้งแรกเหนือดินแดนยูคอน ประเทศแคนาดา ช่วงค่ำวันที่ 10 ก.พ. ก่อนจะถูกยิงตกในวันถัดมา และวัตถุที่ 3 รูปทรงแปดเหลี่ยม ตรวจพบครั้งแรกช่วงบ่ายวันที่ 11 ก.พ.ในแคนาดา บริเวณเหนือพรมแดนสหรัฐฯ ซึ่งกองทัพสหรัฐฯ ได้ส่งเครื่องบินขับไล่จากรัฐออริกอนเข้าสกัด แต่วัตถุดังกล่าวหลุดรอดการตรวจจับไปในช่วงพลบค่ำ
จนกระทั่งในวันถัดมา ก็ตรวจพบวัตถุนี้อีกครั้งในรัฐมอนแทนา จากนั้นก็บินข้ามรัฐวิสคอนซิน ก่อนจะยิงมันตกในบริเวณทะเลสาบฮิวรอน ในรัฐมิชิแกน
สก็อตต์ แคลนซี อดีตผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการป้องกันอวกาศแห่งทวีปอเมริกาเหนือ หรือ NORAD ให้ความเห็นว่า การที่มีวัตถุบินได้ไม่สามารถระบุได้ว่าคืออะไร หรือ UFO มีขึ้นอย่างต่อเนื่องเหนือน่านฟ้าสหรัฐฯ และแคนาดา หรือแม้กระทั่งในจีนและในเดือนนี้กองทัพสหรัฐฯ ก็ยิงวัตถุบินได้ล่วงลงมาแล้ว 4 ลำ (รวมบอลลูนสอดแนมของจีน)
วัตถุบินได้ทั้ง 3 ลำที่ถูกยิงตกในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมามีขนาดและรูปร่างแตกต่างกัน เริ่มจากวัตถุบินได้ที่มีขนาดเท่ารถยนต์ขนาดเล็ก ที่ถูกพบบินอยู่ที่ระดับความสูง 40,000 ฟุต (12,000 เมตร) ในทิศทางที่มุ่งสู่ขั้วโลกเหนือ ไม่มีระบบขับเคลื่อน หรือควบคุม ซึ่งเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า ยิงวัตถุดังกล่าวตกขณะบินเหนือรัฐอะแลสกาเมื่อ 10 ก.พ.
วัตถุที่ 2 เป็นวัตถุรูปทรงกระบอก ถูกตรวจพบครั้งแรกเหนือดินแดนยูคอน ประเทศแคนาดา ช่วงค่ำวันที่ 10 ก.พ. ก่อนจะถูกยิงตกในวันถัดมา และวัตถุที่ 3 รูปทรงแปดเหลี่ยม ตรวจพบครั้งแรกช่วงบ่ายวันที่ 11 ก.พ.ในแคนาดา บริเวณเหนือพรมแดนสหรัฐฯ ซึ่งกองทัพสหรัฐฯ ได้ส่งเครื่องบินขับไล่จากรัฐออริกอนเข้าสกัด แต่วัตถุดังกล่าวหลุดรอดการตรวจจับไปในช่วงพลบค่ำ
จนกระทั่งในวันถัดมา ก็ตรวจพบวัตถุนี้อีกครั้งในรัฐมอนแทนา จากนั้นก็บินข้ามรัฐวิสคอนซิน ก่อนจะยิงมันตกในบริเวณทะเลสาบฮิวรอน ในรัฐมิชิแกน

แต่ก็ไม่ได้มีเฉพาะในสหรัฯ ฐเท่านั้น กองทัพโคลอมเบียรายงานว่าพบบอลลูนลูกหนึ่งเหนือน่านฟ้า และเชื่อว่ามันบินผ่านหลายประเทศในแถบลาตินอเมริกา
จึงทำให้เกิดคำถามว่า ในช่วงที่ผ่านมามีวัตถุลักษณะนี้บินล่วงล้ำน่านฟ้าประเทศต่างๆ มากขึ้น หรือเป็นเพราะเทคโนโลยีการตรวจจับที่ทันสมัยมากขึ้นช่วยให้มีการตรวจพบวัตถุบินได้เหลานี้ได้มากขึ้น
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร สหรัฐฯ ก็ระบุถึงกรณีที่บอลลูนจากจีนถูกกองทัพสหรัฐฯ ยิงตกในมหาสมุทรแอตแลนติกว่าเป็นส่วนหนึ่งของโครงการสอดแนมโลกของจีน ส่งผลให้ประเทศต่างๆ พากันเฝ้าระวังและตื่นตัวกับเรื่องนี้ไปด้วย อย่างเช่น รัฐบาลสหราชอาณาจักร ที่ประกาศว่าจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องประเทศจากภัยของบอลลูนสอดแนม
ส่วนจีน ยอมรับว่าบอลลูนลูกแรกที่ถูกพบในสหรัฐเมื่อต้นเดือน ก.พ. รวมทั้งที่พบในลาตินอเมริกาเป็นของตัวเอง แต่ไม่ยอมรับเรื่องการสอดแนม ระบุว่าเป็นเพียงเรือเหาะตรวจสภาพอากาศที่ถูกลมพัดออกนอกเส้นทาง
แคลนซี จาก NORAD ให้ความเห็นว่า “เป็นเรื่องน่าสงสัยว่ายูเอฟโอที่เห็นอาจจะเป็นความพยายามร่วมกันของศัตรูของสหรัฐฯ ที่ต้องการทดสอบระบบที่ล้าสมัยของกระทรวงกลาโหม แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถเข้าถึงวัตถุที่ถูกยิงตกเมื่อวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ได้เพราะสภาพอากาศ โดยเฉพาะลูกที่ถูกยิงตกเหนือทะเลสาบฮิวรอนจมอยู่ใต้น้ำ ต้องทำทุกวิถีทางเท่าที่จะทำได้เพื่อกู้ซากมันขึ้นมา”
จึงทำให้เกิดคำถามว่า ในช่วงที่ผ่านมามีวัตถุลักษณะนี้บินล่วงล้ำน่านฟ้าประเทศต่างๆ มากขึ้น หรือเป็นเพราะเทคโนโลยีการตรวจจับที่ทันสมัยมากขึ้นช่วยให้มีการตรวจพบวัตถุบินได้เหลานี้ได้มากขึ้น
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร สหรัฐฯ ก็ระบุถึงกรณีที่บอลลูนจากจีนถูกกองทัพสหรัฐฯ ยิงตกในมหาสมุทรแอตแลนติกว่าเป็นส่วนหนึ่งของโครงการสอดแนมโลกของจีน ส่งผลให้ประเทศต่างๆ พากันเฝ้าระวังและตื่นตัวกับเรื่องนี้ไปด้วย อย่างเช่น รัฐบาลสหราชอาณาจักร ที่ประกาศว่าจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องประเทศจากภัยของบอลลูนสอดแนม
ส่วนจีน ยอมรับว่าบอลลูนลูกแรกที่ถูกพบในสหรัฐเมื่อต้นเดือน ก.พ. รวมทั้งที่พบในลาตินอเมริกาเป็นของตัวเอง แต่ไม่ยอมรับเรื่องการสอดแนม ระบุว่าเป็นเพียงเรือเหาะตรวจสภาพอากาศที่ถูกลมพัดออกนอกเส้นทาง
แคลนซี จาก NORAD ให้ความเห็นว่า “เป็นเรื่องน่าสงสัยว่ายูเอฟโอที่เห็นอาจจะเป็นความพยายามร่วมกันของศัตรูของสหรัฐฯ ที่ต้องการทดสอบระบบที่ล้าสมัยของกระทรวงกลาโหม แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถเข้าถึงวัตถุที่ถูกยิงตกเมื่อวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ได้เพราะสภาพอากาศ โดยเฉพาะลูกที่ถูกยิงตกเหนือทะเลสาบฮิวรอนจมอยู่ใต้น้ำ ต้องทำทุกวิถีทางเท่าที่จะทำได้เพื่อกู้ซากมันขึ้นมา”

จอห์น เคอร์บี ผู้ประสานงานสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ยืนยันว่าวัตถุเหล่านี้อาจไม่เป็นพิษเป็นภัยและพยายามสร้างความมั่นใจให้ชาวอเมริกันว่า อาจมีเหตุผลที่อธิบายได้ทั้งหมดว่าเหตุใดวัตถุเหล่านี้ถึงบินไปทั่ว และน่าจะมีองค์กรที่อยู่เบื้องหลัง เพียงแต่ยังไม่รู้จนกว่าจะได้ซากมันมาและจะแบ่งปันข้อมูล ซึ่งไม่คิดว่าผลที่ออกมาจะเลวร้าย
แต่คำพูดของเคอร์บีไม่ได้ช่วยสยบเสียงเรียกร้องขอคำตอบที่ชัดเจนมากกว่านี้จากพรรครีพับลิกันและชาวอเมริกัน โดยเฉพาะคำถามที่ว่า “เป็นไปได้หรือไม่ที่วัตถุเหล่านี้เป็นฝีมือของสิ่งมีชีวิตนอกโลก” ซึ่งพลเอกเกลน แวนเฮิร์ค บอกว่า ขอปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายข่าวกรองพิจารณา แต่ก็ไม่ได้ตัดข้อสงสัยในประเด็นนี้
มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ไม่สามารถตรวจจับได้ว่าวัตถุดังกล่าวบินอยู่ในอากาศได้อย่างไร เนื่องจากไม่พบพลังงานขับเคลื่อน ขณะที่สำนักข่าวเอบีซี นิวส์ รายงานว่า นักบินหลายคนที่ถูกส่งขึ้นไปยิงวัตถุนี้บอกว่า วัตถุนี้มีรูปทรงกระบอกสีเทาอมเงิน และ NORAD ก็ต้องปรับความไวของเรดาร์ให้เทียบเท่าความเร็วของวัตถุเหล่านี้ด้วย
ส่วนเว็บไซต์ newscientist รายงานว่า กองทัพสหรัฐฯ และอังกฤษได้เพิ่มทุนสนับสนุนโครงการต่างๆ เพื่อสร้างบอลลูนสำรวจที่ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยสุดๆ ซึ่งสามารถบินอยู่ระดับชั้นบรรยากาศ สูงกว่าพื้นดินถึง 20 กิโลเมตร ถึงแม้ทางการจีนจะยืนยันว่า ภารกิจบอลลูนนี้ทำขึ้นมาเพื่อสำรวจสภาพอากาศไม่ใช่สอดแนม แต่จีนก็ยังให้ความสำคัญกับบอลลูนลาดตระเวน
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานโดยอ้างกระทรวงการต่างประเทศของจีนว่า ได้ตรวจสอบพบว่าสหรัฐฯ ทำการส่งบอลลูนมากกว่า 10 ลูกเข้าสู่น่านฟ้าของจีนตั้งแต่เดือน ม.ค.ปีที่แล้วด้วยเหมือนกัน
แม้ตอนนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า วัตถุบินได้ลึกลับที่ถูกยิงตกเป็นยานอวกาศจากนอกโลก หรือเป็นทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดของศัตรูของสหรัฐฯ ซึ่งน่าจะมีมากอยู่ ที่ต้องการทดสอบระบบการป้องกันประเทศของสหรัฐฯ สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นแล้วในตอนนี้คือ ความรู้สึกหวาดระแวงซึ่งกันและกันของประเทศต่างๆ โดยเฉพาะประเทศที่เต็มไปด้วยความลับ
แต่คำพูดของเคอร์บีไม่ได้ช่วยสยบเสียงเรียกร้องขอคำตอบที่ชัดเจนมากกว่านี้จากพรรครีพับลิกันและชาวอเมริกัน โดยเฉพาะคำถามที่ว่า “เป็นไปได้หรือไม่ที่วัตถุเหล่านี้เป็นฝีมือของสิ่งมีชีวิตนอกโลก” ซึ่งพลเอกเกลน แวนเฮิร์ค บอกว่า ขอปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายข่าวกรองพิจารณา แต่ก็ไม่ได้ตัดข้อสงสัยในประเด็นนี้
มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ไม่สามารถตรวจจับได้ว่าวัตถุดังกล่าวบินอยู่ในอากาศได้อย่างไร เนื่องจากไม่พบพลังงานขับเคลื่อน ขณะที่สำนักข่าวเอบีซี นิวส์ รายงานว่า นักบินหลายคนที่ถูกส่งขึ้นไปยิงวัตถุนี้บอกว่า วัตถุนี้มีรูปทรงกระบอกสีเทาอมเงิน และ NORAD ก็ต้องปรับความไวของเรดาร์ให้เทียบเท่าความเร็วของวัตถุเหล่านี้ด้วย
ส่วนเว็บไซต์ newscientist รายงานว่า กองทัพสหรัฐฯ และอังกฤษได้เพิ่มทุนสนับสนุนโครงการต่างๆ เพื่อสร้างบอลลูนสำรวจที่ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยสุดๆ ซึ่งสามารถบินอยู่ระดับชั้นบรรยากาศ สูงกว่าพื้นดินถึง 20 กิโลเมตร ถึงแม้ทางการจีนจะยืนยันว่า ภารกิจบอลลูนนี้ทำขึ้นมาเพื่อสำรวจสภาพอากาศไม่ใช่สอดแนม แต่จีนก็ยังให้ความสำคัญกับบอลลูนลาดตระเวน
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานโดยอ้างกระทรวงการต่างประเทศของจีนว่า ได้ตรวจสอบพบว่าสหรัฐฯ ทำการส่งบอลลูนมากกว่า 10 ลูกเข้าสู่น่านฟ้าของจีนตั้งแต่เดือน ม.ค.ปีที่แล้วด้วยเหมือนกัน
แม้ตอนนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า วัตถุบินได้ลึกลับที่ถูกยิงตกเป็นยานอวกาศจากนอกโลก หรือเป็นทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดของศัตรูของสหรัฐฯ ซึ่งน่าจะมีมากอยู่ ที่ต้องการทดสอบระบบการป้องกันประเทศของสหรัฐฯ สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นแล้วในตอนนี้คือ ความรู้สึกหวาดระแวงซึ่งกันและกันของประเทศต่างๆ โดยเฉพาะประเทศที่เต็มไปด้วยความลับ