ศาลจีนพิจารณาคดีต่อสมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ฉาวโฉ่ในเมียนมาจำนวน 23 ราย ซึ่งถูกกล่าวหาว่าก่ออาชญากรรมหลากหลายรูปแบบ
สถานีวิทยุและโทรทัศน์ของรัฐ CCTV รายงานว่า ผู้ต้องสงสัยเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องกับแก๊งตระกูลหมิงและถูกตั้งข้อกล่าวหา 11 กระทง ซึ่งรวมถึงการฉ้อโกงทางโทรคมนาคม การฆาตกรรม การทำร้ายร่างกายโดยเจตนา การกักขังหน่วงเหนี่ยวที่ผิดกฎหมาย การกรรโชก การเปิดบ่อนการพนัน การจัดการค้าประเวณี และการค้ายาเสพติด
อัยการเมืองเวินโจว มณฑลเจ้อเจียงทางตะวันออกของจีนกล่าวหาว่าตระกูลหมิง “ใช้อิทธิพลและกองกำลังติดอาวุธเพื่อจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม และสมคบคิดกับผู้ให้การสนับสนุนทางการเงินในคดีอาชญากรรมต่างๆ ตั้งแต่ปี 2015 ส่งผลให้ชาวจีนเสียชีวิต 14 ราย บาดเจ็บ 6 ราย และสูญเสียเงินหลายพันล้านหยวนจากการฉ้อโกง”
อัยการกล่าวหาว่าปฏิบัติการของแก๊งอาชญากรนี้มีศูนย์กลางอยู่ที่โกก้าง รัฐฉานทางตอนเหนือของเมียนมาซึ่งมีพรมแดนติดกับมณฑลยูนนานทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน
แก๊งนี้สร้างเครือข่ายเขตอุตสาหกรรมและสถานที่ต่างๆ ที่มีนักต้มตุ๋นหลายพันคนอาศัยอยู่ และใช้วิธีการต่างๆ มากมายเพื่อกำหนดเป้าหมายเหยื่อของพวกเขา รวมถึงแผนการลงทุนปลอม การหลอกลวงทางฟิชชิ่ง และการกรรโชกทรัพย์
นอกจากนี้ อัยการยังบอกอีกว่ามีหลักฐานว่าในเดือนตุลาคม 2023 แก๊งของหมิงได้สังหารเหยื่อชาวจีนที่พยายามหลบหนีขณะที่พวกเขาถูกย้ายไปยังสถานที่อื่น
แก๊งอาชญากรหมิงนำโดย หมิง เสวียฉาง ชาวจีนเชื้อสายเมียนมา สมาชิกรัฐสภารัฐฉานของเมียนมา และอดีตสมาชิกคณะกรรมการผู้นำโกก้าง ซึ่งเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2023 หลังจากถูกตำรวจจีนควบคุมตัว
ขณะเดียวกัน หมิง กัวผิง บุตรชายของเขา และผู้นำกองกำลังรักษาชายแดนโกก้าง, หมิง จูหลาน บุตรสาว และ หมิง เจินเจิน หลานสาว ถูกส่งมอบให้กับทางการจีน
ศาลประชาชนกลางเวินโจวได้พิจารณาคดีที่เกี่ยวข้องกับตระกูลหมิงตั้งแต่วันศุกร์ (14 ก.พ.) ถึงวันพุธ (19 ก.พ.) ก่อนที่จะปิดการพิจารณา ส่วนคำตัดสินจะประกาศในภายหลัง
คดีนี้เป็นความพยายามล่าสุดของจีนในการปราบปรามเครือข่ายโทรคมนาคมข้ามพรมแดนที่จีนอ้างว่าก่อให้เกิดความทุกข์ยากทางการเงินและทางจิตใจอย่างมากแก่ชาวจีนจำนวนนับไม่ถ้วน โดยมีเป้าหมายที่ฐานที่มั่นของพวกเขาในพื้นที่ที่เรียกว่า ‘สามเหลี่ยมทองคำ’
ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2023 กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีนได้ดำเนินการปราบปรามการฉ้อโกงโทรคมนาคมทั่วประเทศ โดยกำหนดเป้าหมายไปที่พลเมืองจีน และกำลังร่วมมือกับเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงเมียนมา กัมพูชา และไทย
ในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว เจ้าหน้าที่เมียนมาได้ส่งมอบตัวผู้ต้องสงสัยมากกว่า 53,000 รายให้กับจีน โดยรายงานของ CCTV ระบุว่า “สามารถยุติปฏิบัติการหลอกลวงในต่างประเทศจำนวนมากได้ และยับยั้งกิจกรรมของแก๊งอาชญากรได้อย่างมีนัยสำคัญ”
เมื่อวันอังคาร (18 ก.พ.) ตำรวจไทยเปิดเผยว่าได้จับกุมผู้ต้องหา 10 ราย รวมถึงชาวจีนด้วย ซึ่งเกี่ยวข้องกับกลุ่มฉ้อโกงข้ามชาติมูลค่า 187 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.2 พันล้านบาท) กลุ่มคนร้ายถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกงเงินหลายล้านดอลลาร์จากเหยื่อด้วยสกุลเงินดิจิทัล และเชื่อว่ามีความเชื่อมโยงกับศูนย์สแกมในกัมพูชาและเมียนมา
การดำเนินการดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่คณะผู้แทนจากกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีนได้เดินทางมาเยือนประเทศไทยเมื่อเดือนที่แล้ว เพื่อหารือเกี่ยวกับปฏิบัติการร่วมและการจัดตั้งศูนย์ประสานงานเพื่อปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์
Photo by Xinhua (สำนักข่าวซินหัว)
