เศรษฐกิจที่ตกต่ำของจีนไม่ได้ทำให้ความอยากท่องเที่ยวของผู้คนลดลง มีนักท่องเที่ยวเดินทางสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงวันหยุดยาว (Golden Week) ประจำปีนี้ แม้ว่าจะมีการเติบโตของเศรษฐกิจช้า อัตราการว่างงานของเยาวชนสูง และตลาดอสังหาริมทรัพย์อยู่ในภาวะวิกฤติก็ตาม
หน่วยงานกำกับดูแลการบินพลเรือนของจีนระบุว่า ผู้คนมากกว่า 21 ล้านคนจะเดินทางในช่วงหยุดยาว 10 วัน ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันศุกร์
ซึ่งรวมถึงเที่ยวบินภายในประเทศ 14,000 เที่ยวต่อวัน ขณะที่คนหนุ่มสาวชาวจีนที่มีงบประมาณจำกัดมองหาการท่องเที่ยวใกล้บ้านมากขึ้น
สัปดาห์หยุดยาวนี้เป็นช่วงที่เทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วงประจำปีซึ่งตรงกับการเฉลิมฉลองวันชาติ กลายเป็นช่วงหยุดยาวที่สุดของปี ปีนี้ถือเป็นวันหยุดครั้งที่ 2 ของปีนี้ หลังจากวันหยุดยาวครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม แต่เนื่องจากเศรษฐกิจของจีนไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวที่สำคัญนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ธุรกิจต่างๆ จึงมีความหวังแต่ก็ยังคงต้องระมัดระวัง
เหล่านักเดินทางต่างพากันประหยัดมากขึ้น
คนหนุ่มสาวชาวจีนที่กระตือรือร้นที่จะ ‘ออกเที่ยวอย่างบ้าคลั่ง’ มากขึ้นหลังจากการล็อกดาวน์ในช่วงโควิด-19 ที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลานาน ได้ใช้โซเชียลมีเดียเพื่อแลกเปลี่ยนคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีใช้เวลาวันหยุดให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น ‘เกาหยาง’ วางแผนที่จะเดินทางไปใน 9 เมืองของจีน ซึ่งเป็นระยะทางรวมทั้งหมด 6,000 กม. ในเวลา 8 วัน ซึ่งเขามองว่าตัวเองเป็น ‘นักเดินทางพิเศษ’ ที่สามารถใช้ชีวิตตามตารางที่อัดแน่นในวันหยุดและแน่นอนว่าใช้เงินน้อยได้ ซึ่งแผนของเขาคือการปีนภูเขาถึง 4 ลูก
ขณะที่คนอื่นๆ แชร์แผนการเดินทาง รายละเอียดงบประมาณ และคำแนะนำสำหรับร้ายอาหารราคาย่อมเยา รวมถึงเกิดเป็นแฮชแท็กสุดท้าทาย #เดินป่าจากใต้สู่เหนือของจีน ที่ได้รับการพูดถึงอย่างกว้างขวางบนเวยป๋อ (Weibo) โดยมีแฮชแท็กอื่นๆ ด้วยเช่นกัน เช่น #การเดินทางแบบประหยัด #การเดินทางตามใจฉัน เป็นต้น
การรถไฟแห่งชาติของจีนกล่าวว่า มีแผนที่จะให้บริการรถไฟ 12,000 ขบวนต่อวันในช่วงวันหยุด หรือเพิ่มขึ้น 20% โดยเฉลี่ยต่อวัน เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น
เว็บไซต์ Trip.com บริษัทท่องเที่ยวออนไลน์เปิดเผยว่า ยอดจองการเดินทางภายในประเทศ เช่น ตั๋วเครื่องบินรถไฟ โรงแรม และแพ็คเกจทัวร์ สำหรับช่วงวันหยุดยาว เพิ่มขึ้น 88% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน และเพิ่มขึ้นมากกว่า 4 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ซึ่งจุดหมายปลายทางในประเทศยอดนิยม ได้แก่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เฉิงตู และหางโจว ซึ่งปัจจุบันเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ เมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือที่ขึ้นชื่อเรื่องทิวทัศน์ฤดูใบไม้ร่วงที่สวยงามในซินเจียง ก็คาดหวังว่าจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเช่นกัน
อ่านเรื่องนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มเติม
‘แต่การใช้จ่ายเฉลี่ยต่อนักท่องเที่ยวอาจไม่ขยับไปพร้อมกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น’
แกรี่ โบเวอร์แมน ผู้อำนวยการบริษัทการตลาดการท่องเที่ยว Check-in Asia เตือนโดยกล่าวว่า การใช้จ่ายต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ในช่วงวันหยุดยาวครั้งล่าสุดในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงที่การเดินทางภายในประเทศดีดตัวขึ้นสู่ระดับก่อนการแพร่ระบาด
ขณะที่ธุรกิจท้องถิ่นที่กำลังทำเงินจากนักท่องเที่ยวตระหนักดีถึง ‘เงิน’ ที่ลดลง โดยบริษัทตัวแทนท่องเที่ยวบางแห่งกำลังโฆษณาการทัวร์แบบกลุ่มที่ ‘สนุกสุดๆ และไม่มีการชอปปิง’ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าจะไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง ด้านแอปฯ จัดส่งอาหารจีนและอีคอมเมิร์ซ กำลังสนับสนุนให้ผู้คนทัวร์ชิมอาหารจากทั่วประเทศ โดยใช้สโลแกนบนเวยป๋อว่า ‘แผ่นดินนี้มันช่างกว้างใหญ่ มาหาอะไรกินกันเถอะ!’
แซลลี่ ผู้บริหารฝ่ายประชาสัมพันธ์ วัย 30 ปี กล่าวว่า เธอตัดสินใจพักต่อในช่วงวันหยุดยาวนี้แทนที่จะออกเดินทางวันเดียวกับคนอื่นๆ เพื่อไปชานเมืองปักกิ่งที่เธออาศัยอยู่ โดยให้เหตุผลว่ามีอะไรให้สำรวจมากมายในจีน แน่นอนว่าเราทุกคนอยากสนุกไปกับมัน แม้จะมีความคิดเรื่องการใช้เงิน และความรู้สึกผิดที่มาพร้อมกับความคิดนี้ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เธอสนใจ
สตีฟ แซกซัน ผู้นำบริษัทที่ปรึกษาด้านการท่องเที่ยวของ McKinsey ในเอเชีย กล่าวว่า แม้ว่าการเดินทางภายในประเทศจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซา แต่ยังไม่ชัดเจนว่านี่ยังคงเป็นผลมาจาก ‘ความต้องการหลังจากข้อจำกัดการเดินทาง’ ที่บังคับใช้มาเป็นเวลา 3 ปีแล้วหรือ ‘ความต้องการในระยะยาว’
อย่างไรก็ตาม คนจีนส่วนใหญ่ยังคงมีข้อจำกัดบางประการเกี่ยวกับการเดินทางออกนอกประเทศ โดยข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์การเดินทาง ForwardKeys แสดงให้เห็นว่า การเดินทางออกนอกประเทศลดลง 40% เมื่อเทียบกับปี 2019 แต่ดูเหมือนว่าจะมีแรงผลักดันเพิ่มขึ้น โดยมาเลเซีย ไทย และเกาหลีใต้ คาดว่าจะเห็นนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวนมากขึ้นในสัปดาห์นี้ เมื่อเทียบกับช่วงวันหยุดยาวในปี 2019
