เมื่อวันพุธ (20 ก.ย.) อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวกับผู้นำโลกว่า วิกฤตสภาพภูมิอากาศได้ ‘เปิดประตูสู่นรกแล้ว’ ในระหว่างการประชุมสุดยอด ซึ่งผู้ก่อมลพิษชั้นนำอย่างจีนและสหรัฐฯ ไม่ได้ปรากฏตัว
แม้ว่าเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วจะเพิ่มมากขึ้นและอุณหภูมิโลกที่ทำลายสถิติ แต่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเชื้อเพลิงฟอสซิลยังคงได้รับการอุดหนุนถึง 7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี
กูเตอร์เรสเรียกประชุม Climate Ambition Summit ว่าเป็นเวทีไร้สาระ โดยระบุชัดเจนว่ามีเพียงผู้นำที่ได้วางแผนอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อให้บรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์เท่านั้นที่จะได้รับเชิญ
ในคำปราศรัยเปิดงาน เขากล่าวถึง ความร้อนอันน่าสยดสยองและไฟป่าครั้งประวัติศาสตร์ในปี 2023 แต่ย้ำว่า เรายังคงจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกไว้ที่ 1.5 องศา โดยหมายถึงเป้าหมายที่เห็นตามความจำเป็นเพื่อหลีกเลี่ยงภัยพิบัติทางสภาพอากาศในระยะยาว
“มนุษยชาติได้เปิดประตูสู่นรกแล้ว” กูเตอร์เรสเตือน
หลังจากได้รับใบสมัครเข้าร่วมมากกว่า 100 รายการ สหประชาชาติได้เปิดเผยรายชื่อวิทยากร 41 คน ซึ่งไม่รวมจีน สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น และอินเดีย
ผู้นำสำคัญๆ หลายคนไม่สนใจที่จะเดินทางไปนิวยอร์กเพื่อเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในปีนี้ รวมถึงประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งจีน และนายกรัฐมนตรี ริชี ซูนัค จากสหราชอาณาจักร
ซูนัคยังเลือกในวันพุธเพื่อประกาศว่าเขาใช้แนวทางเชิงปฏิบัติ มากขึ้นเพื่อบรรลุการปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 รวมถึงการผลักดันการห้ามขายรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลอย่างเต็มรูปแบบ และผ่อนคลายเป้าหมายประสิทธิภาพการใช้พลังงานสำหรับอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่พรรคอนุรักษ์นิยมของซูนัคตามหลังการเลือกตั้งตามหลังพรรคฝ่ายค้าน ท่ามกลางวิกฤตค่าครองชีพ
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ซึ่งกล่าวปราศรัยต่อสมัชชาใหญ่เมื่อวันอังคาร ได้ส่งทูตผู้แทนด้านสภาพอากาศ จอห์น เคอร์รี เข้าร่วมการประชุม แม้ว่าเคอร์รีจะไม่ได้รับอนุญาตให้พูดในส่วนระดับสูงก็ตาม
แคทเธอรีน อาบรู กรรมการบริหาร Destination Zero ที่ไม่แสวงหาผลกำไรกล่าวว่า อาจเป็นข่าวดีที่เราเห็นว่าไบเดนไม่ได้รับโอกาสพูดในการประชุมสุดยอด เนื่องจากสหรัฐฯ กำลังขยายโครงการเชื้อเพลิงฟอสซิลอย่างจริงจัง แม้ว่าจะมีการลงทุนครั้งประวัติศาสตร์ก็ตาม ในพลังงานทดแทน
ความโกรธกำลังก่อตัวขึ้นในหมู่นักเคลื่อนไหวด้านสภาพอากาศ โดยเฉพาะคนหนุ่มสาว ที่มาร่วมกิจกรรม March to End Fossil Fuels ในนิวยอร์กเป็นจำนวนหลายหมื่นคนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
