ว่ากันว่า ‘ภัยพิบัติธรรมชาติ’ หากเกิดขึ้นที่ใดที่หนึ่งแล้วก็จะสร้างหายนะ และความเสียหายแก่ที่แห่งนั้น เมื่อใดก็ตามที่ธรรมชาติโกรธ เมื่อนั้นโลกจะเดือดร้อน เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นพายุ สึนามิ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด บางเหตุการณ์อาจคาดเดาได้ล่วงหน้า แต่ในหลายๆ เหตุการณ์ก็เกินกว่าที่จะควบคุม และคาดการณ์
จะดีแค่ไหนกันถ้าไม่ต้องประสบกับภัยพิบัติธรรมชาติเลย แล้วบนโลกนี้ก็มีอยู่จริงๆ ประเทศที่แทบไม่เคยเผชิญกับภัยพิบัติธรรมชาติเลย
“สถานที่เหล่านี้ไม่เพียงแต่ห่างไกลจากความเสี่ยงของภัยพิบัติเท่านั้น แต่ยังเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นอีกด้วย”
รายงานความเสี่ยงโลก ‘WorldRiskIndex’ (WRI) เมื่อปี 2024 ระบุ
SPACEBAR พาสำรวจว่ามีประเทศไหนบ้าง ‘ที่ปลอดภัยที่สุด’ จากภัยพิบัติธรรมชาติ :
1. อันดอร์รา / 0.22 คะแนน

‘อันดอร์รา’ ประเทศขนาดเล็กอันดับ 16 ของโลกแห่งนี้ตั้งอยู่บนคาบสมุทรไอบีเรียห่างจากโมนาโกไปราว 643 กิโลเมตร มีประชากรน้อยกว่า 80,000 คน เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล แต่มีความมั่งคั่งเนื่องจากมีภาคการธนาคารที่แข็งแกร่งและภาษีต่ำ ทำให้เศรษฐกิจแข็งแกร่งและมีเสถียรภาพ
ด้วยปัจจัยหลายประการเหล่านี้รวมกันทำให้ทางการอันดอร์ราสามารถจัดการกับภัยพิบัติทางธรรมชาติได้ หากเศรษฐกิจแข็งแกร่ง ประเทศก็จะสามารถรับมือกับความเสียหายทางการเงินได้ แถมประชากรที่มีจำนวนน้อยยังทำให้ง่ายต่อการจัดการยามเกิดภัยพิบัติอีกด้วย
กล่าวได้ว่าอันดอร์ราไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับภัยพิบัติธรรมชาติมากเกินไปนัก เนื่องจากพบว่าประเทศนี้มีความเสี่ยงต่อภัยธรรมชาติร้ายแรงเพียงเล็กน้อย หรือแทบไม่มีเลย อันดอร์ราไม่มีประวัติการเกิดแผ่นดินไหวที่สร้างความเสียหาย และอยู่ห่างจากแหล่งน้ำเปิด (open water) หลายไมล์ ทำให้ภัยพิบัติประเภทใดๆ ก็ตามเกิดขึ้นได้ยาก
ด้วยเหตุนี้ อันดอร์ราจึงมีดัชนีความเสี่ยงจากภัยพิบัติ (WRI) อยู่ที่ 0.22 คะแนน ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมในด้านความเสี่ยง ความสามารถในการรับมือ และความอ่อนไหวต่อสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย หากคุณต้องการหลีกหนีจากภัยพิบัติธรรมชาติ อันดอร์ราเป็นหนึ่งตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมทีเดียวล่ะ
2. โมนาโก / 0.24 คะแนน

‘โมนาโก’ เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ได้ชื่อว่า ‘ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด’ จากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ตั้งอยู่บริเวณ ‘เฟรนช์ริวีเอรา’ ชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส มีพรมแดนติดกับฝรั่งเศสทั้ง 3 ด้าน และมีแนวชายฝั่งยาวน้อยกว่า 4 กิโลเมตร
ดินแดนแห่งนี้ไม่ได้ตั้งอยู่ใกล้กับแนวขอบของแผ่นเปลือกโลก หรือภูเขาไฟ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้โมนาโกเจอความเสี่ยงต่อภัยพิบัติธรรมชาติน้อย นอกจากนี้ ยังตั้งอยู่ริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนซึ่งถูกล้อมรอบด้วยชายฝั่งของทวีปยุโรปใต้ อิตาลี สเปน ฝรั่งเศส และแอฟริกาตอนเหนือ แต่โมนาโกแยกจากมหาสมุทรหลัก ทำให้โอกาสในการเกิดสึนามิและน้ำท่วมในภูมิภาคนี้ต่ำ ดังนั้น โมนาโกจึงมีความเสี่ยงต่อภัยพิบัติทางธรรมชาติทุกประเภทในดัชนีที่ ‘ต่ำมาก’
หากเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติขึ้น โมนาโกก็จะเป็นประเทศที่รับมือและปรับตัวได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน เนื่องจากเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและความมั่งคั่งมหาศาลของประเทศ มักได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก อีกทั้งยังมีจำนวนเศรษฐีและมหาเศรษฐีต่อหัวมากที่สุดในโลก
ความมั่งคั่งที่มากมายนี้ได้ถูกแปลงเป็นบริการคุณภาพสูง ตั้งแต่การศึกษาที่ยอดเยี่ยมไปจนถึงการคมนาคมที่สะดวกสบาย ประกอบกับโมนาโกเองก็ได้รับการสนับสนุนจากฝรั่งเศส ซึ่งบริหารจัดการด้านการป้องกันและความปลอดภัยของรัฐขนาดเล็ก ดังนั้น หากเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ ประเทศนี้ก็จะสามารถบริหารจัดการได้ดี
3. ซานมารีโน / 0.36 คะแนน

ประเทศขนาดเล็กอันดับ 5 ของโลกอย่าง ‘ซานมารีโน’ มีประชากรเพียงไม่ถึง 34,000 คน ตั้งอยู่ในคาบสมุทรอิตาลี พลเมืองส่วนใหญ่มักเป็นนักธุรกิจที่ร่ำรวยซึ่งหลงใหลในระบบสาธารณสุข การท่องเที่ยว และบริการที่ยอดเยี่ยมของประเทศ ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ซานมารีโนมีความสามารถในการรับมือกับภัยธรรมชาติได้ดี
ตัวอย่างเช่น ประเทศนี้มีโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณสุขที่มีคุณภาพสูง ลักษณะเฉพาะเหล่านี้ทำให้ซานมารีโนมีอุปกรณ์พร้อมรับมือกับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ นอกจากนี้ ประเทศยังมีแผนรับมือภัยพิบัติสำหรับการบรรเทาอันตราย การปฏิบัติการฉุกเฉิน และรายการตรวจสอบเพื่อให้ประชาชนทุกคนปลอดภัย
ทว่าบริการเหล่านี้แทบไม่จำเป็นต้องใช้ เนื่องจากซานมารีโนเป็นหนึ่งใน ‘ประเทศที่ปลอดภัยที่สุด’ จากการเผชิญกับภัยธรรมชาติ แผ่นดินไหวในประเทศเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก ขณะที่การเคลื่อนตัวของแผ่นดินไหวส่วนใหญ่มักเกิดจากแรงสั่นสะเทือนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบริเวณใกล้เคียง นอกจากนี้ ซานมารีโนยังถูกล้อมรอบด้วยอิตาลีและทะเลเอเดรียติก ซึ่งช่วยบรรเทาความเสี่ยงจากคลื่นสึนามิ หรือน้ำท่วมใหญ่
4. สิงคโปร์ / 0.63 คะแนน

หากคุณกำลังมองหาจุดหมายปลายทางสำหรับการพักผ่อนที่ปลอดภัยจากภัยธรรมชาติ ‘สิงคโปร์’ ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ประเทศแห่งนี้ตั้งอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีดินแดนติดกับทะเล เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่มีผู้มาเยือนมากกว่า 6 ล้านคนต่อปี
พลเมืองที่นี่จะไม่ค่อยกังวลเกี่ยวกับภัยธรรมชาติซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก เนื่องจากสิงคโปร์ไม่ได้ตั้งอยู่บนรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกจึงไม่เคยเกิดแผ่นดินไหว และรับรู้ได้เพียงแรงสั่นสะเทือนเล็กน้อยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในที่อื่นๆ เท่านั้น นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังโชคดีที่ได้รับการปกป้องจากน่านน้ำเปิด เนื่องจากดินแดนมาเลเซียทางตอนเหนือและเกาะบาตัมทางตอนใต้ของอินโดนีเซียทำหน้าที่เป็นกันชนในยามเกิดคลื่นสึนามิ ซึ่งน้ำจะไหลไปถึงสิงคโปร์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
นอกจากความเสี่ยงต่ออันตรายจากธรรมชาติที่ต่ำแล้ว สิงคโปร์ยังเก่งในเรื่องการรับมือภัยพิบัติอีกด้วย เช่น ระบบเตือนภัยสาธารณะ สายด่วน และโครงการเตรียมความพร้อมรับมือเหตุการณ์ฉุกเฉินในชุมชน (CEPP) หนึ่งในโครงการที่สร้างสรรค์ที่สุดซึ่งสอนทักษะการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานและขั้นตอนฉุกเฉินให้กับผู้เข้าร่วม
5. ลักเซมเบิร์ก / 0.64 คะแนน

สำหรับประเทศที่มีอิทธิพลทางการเงินในยุโรปครองอันดับหนึ่งด้านผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ต่อหัวของโลกอย่าง ‘ลักเซมเบิร์ก’ โดยมี GDP ต่อหัวประมาณ 143,304 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.8 ล้านบาท) ถือเป็นประเทศชั้นนำด้านการพัฒนามนุษย์ นวัตกรรม รายได้ และการศึกษา
ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ลักเซมเบิร์กเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมในการอยู่อาศัย และสามารถรับมือ ปรับตัวต่อภัยพิบัติทางธรรมชาติ ลักเซมเบิร์กยังโชคดีที่ตั้งอยู่ในยุโรปตะวันตก ซึ่งห่างไกลจากภัยธรรมชาติ ไม่มีรอยเลื่อนขนาดใหญ่ในบริเวณใกล้เคียง ประเทศจึงปลอดภัยจากแผ่นดินไหว ทั้งยังเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล จึงค่อนข้างห่างไกลจากภัยพิบัติสึนามิ
6. เซาตูเมและปรินซิปี / 0.67 คะแนน

‘เซาตูเมและปรินซิปี’ ตั้งอยู่บนแผ่นเปลือกโลกแอฟริกา เป็นประเทศเกาะในอ่าวกินีนอกชายฝั่งเส้นศูนย์สูตรตะวันตกของแอฟริกากลางประกอบด้วยหมู่เกาะ 2 แห่ง ซึ่งเป็นบริเวณที่ปลอดภัยจากแผ่นดินไหว พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศประกอบด้วยไร่นา สภาพแวดล้อมจึงเหมาะสำหรับการเกษตรโดยเฉพาะการผลิตโกโก้และน้ำตาล
ถึงกระนั้น เซาตูเมและปรินซิปีก็ยังเผชิญกับพายุและน้ำท่วมเป็นครั้งคราวเนื่องจากตั้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำ ยกกรณีตัวอย่าง เมื่อเดือนพฤษภาคม 2022 มีฝนตกน้ำท่วมจนทำให้ที่ดินกว่าสิบแห่งได้รับความเสียหาย
เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก นั่นจึงทำให้เซาตูเมและปรินซิปีได้รับคะแนนความเสี่ยงจากภัยพิบัติธรรมชาติค่อนข้างต่ำ แต่ว่าประเทศยังขาดความสามารถในการรับมือและการปรับตัวต่อสถานการณ์ภัยพิบัติ
7. ลิกเตนสไตน์ / 0.72 คะแนน

สำหรับประเทศเล็กๆ อันดับ 6 ของโลกอย่าง ‘ลิกเตนสไตน์’ นั้นตั้งอยู่ระหว่างออสเตรียและสวิตเซอร์แลนด์ในยุโรป มีประชากรเพียง 40,000 คน แม้จะมีขนาดเล็ก แต่ลิกเตนสไตน์ก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก มีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ต่อหัวสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลกจากภาคการเงินที่แข็งแกร่งและภาษีต่ำ
ประเทศแห่งนี้ไม่มีทางออกสู่ทะเลทำให้ลิกเตนสไตน์ไม่ต้องเผชิญกับภัยพิบัติทางน้ำ แต่ก็เคยประสบกับเหตุแผ่นดินไหวขนาด 5 ทุกๆ 2-3 เดือน บางครั้งก็ทำให้เกิดโคลนถล่มและดินถล่มเล็กน้อยในพื้นที่ภูเขา แต่โชคดีที่ลิกเตนสไตน์ตอบสนองต่อสถานการณ์ภัยพิบัติได้อย่างรวดเร็ว
