รายงานฉบับใหม่ของสถาบันคลังสมองในออสเตรเลียชี้ ประเทศที่ยากจนที่สุดในโลกต้องเผชิญกับ “กระแสหนี้มหาศาล” เนื่องจากการชำระหนี้คืนแก่จีนพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในปีนี้
การปล่อยเงินกู้ในโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative) ของจีนที่เริ่มในช่วงทศวรรษ 2010 ถูกนำมาใช้ในการก่อสร้างท่าเรือขนส่งสินค้า ทางรถไฟ ถนน และโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ตั้งแต่ในแอฟริกาไล่มาจนถึงแปซิฟิกใต้ แต่สถาบัน Lowy ของออสเตรเลียเผยว่า การปล่อยกู้ใหม่กำลังลดลง และขณะนี้ตัวเลขหนี้ที่ประเทศกำลังพัฒนาต้องชำระคืนแก่จีนสูงกว่าการปล่อยกู้ใหม่แล้ว
“ประเทศกำลังพัฒนาต้องดิ้นรนกับกระแสการชำระหนี้และดอกเบี้ยที่พุ่งสูงคืนแก่จีน ตอนนี้และตลอดช่วงที่เหลือของทศวรรษนี้ จีนจะเป็นผู้เก็บหนี้มากกว่าธนาคารสำหรับประเทศกำลังพัฒนา”
— ไรลีย์ ดยุค นักวิจัยจาก Lowy
สถาบัน Lowy ค้นหาข้อมูลจากธนาคารโลกเพื่อคำนวณภาระหนี้ที่ประเทศกำลังพัฒนาต้องจ่ายคืนจีน โดยพบว่า ประเทศที่ยากจนที่สุด 75 ประเทศกำลังจะต้อง “จ่ายหนี้คืนสูงสุดเป็นประวัติการณ์” แก่จีนในปี 2025 รวมกันทั้งหมด 22,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
“ด้วยเหตุนี้ ฐานะการให้กู้ยืมสุทธิของจีนจึงเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จากผู้ให้บริการทางการเงิน ที่จำนวนเงินที่ปล่อยกู้มากกว่าจำนวนเงินที่ได้รับชำระหนี้คืน มาเป็นเงินไหลออก เพราะการชำระหนี้คืนสูงกว่าการปล่อยกู้” ดยุคเผย
รายงานของสถาบัน Lowy พบว่า การชำหนี้เงินกู้ยืมคืนเริ่มกระทบกับการใช้จ่ายเกี่ยวกับโรงพยาบาล โรงเรียน การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
“แรงกดดันจากการกู้ยืมจากรัฐบาลจีน บวกกับการชำระหนี้เอกชนระดับนานาชาติหลายรายที่เพิ่มขึ้น กำลังสร้างความตึงเครียดทางการเงินมหาศาลให้กับประเทศกำลังพัฒนา” รายงานระบุ
รายงานยังตั้งคำถามว่าจีนอาจใช้หนี้เหล่านี้เป็น “อิทธิพลทางภูมิรัฐศาสตร์” หรือไม่ โดยเฉพาะหลังจากสหรัฐฯ ตัดลดการช่วยเหลือแก่ต่างประเทศ
แม้ว่าการปล่อยกู้ของจีนจะลดลงเกือบทั้งหมด แต่รายงานระบุว่า มี 2 กลุ่มที่แตกต่างจากเพื่อน กลุ่มแรกคือ กลุ่มประเทศ อาทิ ฮอนดูรัส หมู่เกาะโซโลมอน ที่ได้รับเงินกู้ยืมก้อนใหญ่ก้อนใหม่หลังตัดสัมพันธ์กับไต้หวันแล้วหันมาสานสัมพันธ์กับจีน อีกกลุ่มหนึ่งคือ กลุ่มประเทศ อาทิ อินโดนีเซีย บราซิล ซึ่งจีนลงนามในข้อตกลงให้กู้ยืมใหม่เพื่อซื้อแร่ธาตุและโลหะที่ใช้ในการผลิตแบตเตอรีและแร่ธาตุสำคัญอื่นๆ
Photo by Farhan ABDULLAH / MALAYSIA'S DEPARTMENT OF INFORMATION / AFP