สนามบิน ‘ดอนเมือง’ เป็นหนึ่งในสนามบินที่อันตรายที่สุดในโลก

29 มิ.ย. 2566 - 09:02

  • เว็บไซต์ The Boutique Adventurer ซึ่งเป็นบล็อกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเพิ่งระบุว่า สนามบินดอนเมืองของไทยเป็นหนึ่งใน 29 สนามบินที่อันตรายมากที่สุดในโลก

don-muang-one-of-the-most-dangerous-airport-in-the-world-SPACEBAR-Hero
จากเหตุการณ์ทางเดินเลื่อนของสนามบินดอนเมืองดูดขาผู้โดยสารเข้าไปจนขาขาดจนกลายเป็นข่าวใหญ่ในบ้านเรานั้น Spacebar พบว่าเมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ The Boutique Adventurer ซึ่งเป็นบล็อกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเพิ่งระบุว่า สนามบินดอนเมืองของไทยเป็นหนึ่งใน 29 สนามบินที่อันตรายมากที่สุดในโลก 

The Boutique Adventurer พูดถึงสนามบินดอนเมืองไว้ว่า เป็นหนึ่งในสนามบินที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกในหลายๆ แง่ และจัดให้สนามบินดอนเมืองอยู่ในกลุ่ม “พื้นที่ขนส่งทางอากาศเชิงพาณิชย์เพื่อลงจอดทั่วไป” แต่ด้วยความที่มีสนามกอล์ฟตั้งอยู่ระหว่างรันเวย์ 2 รันเวย์ของสนามบินดอนเมือง อาจเพิ่มความรู้สึกอันตรายให้นักกอล์ฟเข้าไปอีก 

นอกจากนี้ The Boutique Adventurer ยังบอกอีกว่า น้ำท่วมรันเวย์ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาของสนามบินดอนเมืองในอดีต โดยเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อปี 2011 ทำให้เที่ยวบินในประเทศหลายเที่ยวไม่สามารถขึ้นบินหรือลงจอด เนื่องจากหลายรันเวย์เต็มไปด้วยน้ำ 

ทั้งนี้ The Boutique Adventurer อธิบายถึงปัจจัยที่ทำให้สนามบินอันตรายไว้ดังนี้  
  • ตั้งอยู่ในที่สูง สภาวะอากาศมีส่วนสำคัญกับการขึ้นลงของเครื่องบินค่อนข้างมาก หากสนามบินตั้งอยู่ในที่สูง ความเร็วในการลงจอดจะเพิ่มขึ้น ทำให้เครื่องบินเคลื่อนที่อยู่บนรันเวย์เป็นระยะทางยาวขึ้น 
  • สภาพลม การเกิดลมขวางไปจนถึงลมส่งท้ายเครื่องล้วนเป็นอุปสรรคทำให้เครื่องบินส่ายได้ แม้ว่าระหว่างบินนั้นจะเกิดการตกหลุมอากาศซึ่งเป็นเรื่องธรรมชาติอยู่แล้ว แต่กระแสลมต่างๆ นี้จะส่งผลกระทบโดยตรงกับการขึ้นและลงของเครื่องบิน 
  • ความยาวของรันเวย์ สำหรับสนามบินทั่วไปนั้นความยาวของรันเวย์ที่เพียงพอจะอยู่ที่ราว 1,800-2,400 เมตร แต่สนามบินที่ตั้งอยู่ในที่สูงๆ จำเป็นต้องมีรันเวย์ที่ยาวกว่านั้น นอกจากนี้ขนาดของเครื่องบินก็มีส่วน พราะเครื่องบินใหญ่ๆ ต้องใช้พื้นที่ในการลงจอดมากกว่าเครื่องบินเล็ก 
  • ที่ตั้งรันเวย์ โดยปกติ สนามบินตั้งอยู่ให้ห่างจากสิ่งกีดขวางบนบกมากๆ เพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องบินจะลงจอดอย่างปลอดภัยโดยไม่มีสิ่งกีดขวางจากภายนอก แต่ถึงอย่างนั้นก็มีหลายสนามบินที่ไม่เป็นไปตามเกณฑ์นี้ ช่น ตั้งอยู่ใกล้กับชายหาดหรือตัวเมือง ซึ่งนักบินต้องใช้ทักษะพิเศษในการขึ้นลงในพื้นที่ที่ไม่ปกติเหล่านี้ 
  • ความวุ่นวายทางการเมือง/สังคม ความไม่มั่นคงของประเทศส่งผลกระทบในชิงลบหลายประการต่อสถานะทางเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงความเสียหายต่อสนามบิน ตั้งแต่การโจมตีทางอากาศไปจนถึงการประท้วงที่รุนแรง เหตุการณ์ที่น่ากังวลเหล่านี้อาจทำให้เที่ยวบินล่าช้าได้  
นอกจากสนามบินดอนเมืองของไทยแล้วยังมีสนามบินอื่นๆ อยู่ในการจัดอันดับนี้ด้วย อาทิ สนามบินนานาชาติคันไซของญี่ปุ่น The Boutique Adventurer ให้เหตุผลไว้ว่า แม้ว่าสนามบินแห่งนี้จะสวยงามเมื่อมองลงมาจากบนฟ้าเพราะอยู่ท่ามกลางน้ำทะเลสีคราม แต่สนามบินนานาชาติคันไซก็มีปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมหลายอย่างที่อาจเป็นอันตราย ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินไหว ไปจนถึงการตั้งอยู่แทบจะระดับเดียวกับน้ำทะเล ซึ่งสนามบินแห่งนี้เคยดีเลย์หลายครั้งเนื่องจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ 

เมื่อปี 2018 สนามบินนานาชาติคันไซต้องปิดถึง 10 วันเนื่องจากเกิดน้ำท่วมจากพายุไต้ฝุ่นเจได นักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่หลายพันคนต้องติดอยู่ในสนารมบินค้างคืน เนื่องจากเรือถูกพายุไต้ในซัดมาชนกับสะพานที่เชื่อมสนามบินกับเมืองโอซากา 

สนาบินนานาชาติเวลลิงตันของนิวซีแลนด์ ด้วยความที่มีรันเวย์ค่อนข้างสั้นคือราว 1,828-2,012 เมตร และสภาพลมที่ค่อนข้างแย่ การนำเครื่องบินลงจอดที่สนามบินนี้จึงถือเป็นเรื่องท้าทาย เมืองเวลลิงตันยังเป็นหนึ่งในเมืองที่ลมแรงมากที่สุดเมืองหนึ่งของโลก ดังนั้นจึงอาจเกิดการตกหลุมอากาศระหว่างบินและอาจทำให้การลงจอดไม่นิ่ม 

สนามบินลูคลา หรือเทนซิง- ฮิลลาเรียของเนปาล สนามบินเล็กๆ แห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาเอเวอเรสต์และอยู่ใกล้กับเบสแคมป์ของภูเขาที่สูงที่สุดในโลก ดังนั้นจึงไม่ต้องพูดถึงความอันตรายหากวัดจากปัจจัยข้างต้นเพราะทั้งตั้งอยู่มนที่สูงและมีรันเวย์สั้น ทำให้ทางสนามบินต้องกำหนดคุณสมบัติพิเศษสำหรับนักบินที่จะลงจอดที่นั่น ซึ่งรวมถึงผ่านการทำงานในสภาวะที่มีความเสี่ยงสูงเช่นเดียวกันเป็นเวลา 1 ปีในเนปาล และการบินขึ้นและลงจอดบนรันเวย์ระยะสั้น 100 เที่ยวบิน 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์