รวยมากจ่ายมาก! เศรษฐีฟินแลนด์ถูกปรับ 4.5 ล้าน ฐานขับรถเร็ว

9 มิ.ย. 2566 - 07:22

  •  ฟินแลนด์และบางประเทศแถบนอร์ดิกใช้ระบบคำนวณค่าปรับการทำผิดกฎหมายจราจรตามรายได้ของผู้กระทำผิด

driver-in-finland-fined-121000-euro-for-speeding-SPACEBAR-Thumbnail
การขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดอาจจะมีค่าปรับหลักพันหลักหมื่นบาทในบ้านเรา แต่ที่ฟินแลนด์ตัวเลขนี้ต่างกันหลายเท่าตัว อย่างในกรณีของ อันเดอร์ส วิคลอฟ มหาเศรษฐีชาวฟินแลนด์เจ้าของบริษัทโฮลดิงที่ทำรายได้ปีละกว่า 350 ล้านยูโร หรือ 13,080 ล้านบาท ต้องจ่ายค่าปรับในการละเมิดกฎหมายครั้งนี้ถึง 121,000 ยูโร หรือราว 4,519,257 บาท 

นักธุรกิจวัย 76 ปีรายนี้ขับรถโดยใช้ความเร็ว 82 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเขตที่จำกัดความเร็วไว้ที่ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยเจ้าตัวอ้างว่าพยายามชะลอความเร็วแล้วแต่ไม่ทันเพราะเขตจำกัดความเร็ว “เปลี่ยนกะทันหัน” จาก 70 กิโลเมตรต่อชัวโมงเป็น 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จึงถูกปรับไปหลายล้านบาท 

ที่ค่าปรับสูงแบบนี้ก็เพราะฟินแลนด์และประเทศอื่นๆ ในแถบนอร์ดิกจะคำนวณค่าปรับเกี่ยวกับการทำผิดกฎจราจรตามรายได้ของผู้กระทำผิดโดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ ซึ่งตำรวจจะตรวจสอบรายได้ของผู้กระทำผิดจากฐานข้อมูลผู้เสียภาษีของรัฐบาลแล้วจึงคำนวณค่าปรับออกมา 

ในระบบของฟินแลนด์นั้นโทษปรับรายวัน (day fine-ไม่ระบุค่าปรับเป็นจำนวนเงินตายตัว แต่ระบุเป็นจำนวนวัน ตามระดับความรุนแรงของฐานความผิด) จะคำนวณจากรายได้รายวันหลังหักภาษีของผู้กระทำผิด ยิ่งขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดเท่าไร day fine ก็จะยิ่งมากขึ้น 

สำหรับกรณีของวิคลอฟค่าปรับของเขาเทียบเท่ากับครึ่งหนึ่งของรายได้ต่อวันหลังหักภาษีเป็นเวลา 14 วัน 

ครั้งนี้ก็ไม่ช่ครั้งแรกที่มหาเศรษฐีรายนี้ขับรถเร็วเกินกำหนด เมื่อปี 2018 เขาถูกปรับ 63,680 ยูโร (2,378,109 บาท) และ 5 ปีก่อนหน้านั้นถูกปรับ 95,000 ยูโร (3,547,748 บาท) ในข้อหาเดียวกัน  

และเขาก็ไม่ใช่คนรวยคนแรกในฟินแลนด์ที่ถูกปรับเป็นเงินมหาศาล เมื่อปี 2002 อันซี วานโยกิ ผู้บริหารระดับสูงของโนเกีย ถูกปรับ 116,000 ยูโร (4,330,707 บาท) หลังจากใช้ความเร็ว 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเขตที่ห้ามใช้ความเร็วเกิน 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 

ขณะที่สวิตซอร์แลนด์ซึ่งใช้ระบบคล้ายๆ กันนี้เป็นเจ้าของสถิติสั่งปรับในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการจราจรสูงที่สุดคือ ราว 1.1 ล้านยูโร (41,084,196 บาท)

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์