ไม่ใช่แค่อร่อย แต่ดีต่อสมอง! งานวิจัย พบ คนที่กินอาหารญี่ปุ่นดั้งเดิมเป็นประจำ ‘สมองฝ่อ’ น้อยกว่า

19 เมษายน 2567 - 10:57

Eating-traditional-japanese-food-link-to-brain-shrinkage-in-women-SPACEBAR-Hero.jpg
  • จากการวิเคราะห์พฤติกรรมการกินของคนญี่ปุ่นพบว่า คนที่กินอาหารญี่ปุ่นเป็นประจำสมองฝ่อน้อยกว่าคนที่กินอาหารตะวันตก

  • แต่ผลนี้ พบเฉพาะในผู้หญิง ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเหตุผลใดผู้ชายจึงไม่ได้ผลแบบเดียวกัน

  • นักวิจัยวัดค่าด้วยการสแกน MRI ว่า ‘สมองฝ่อ’ หรือไม่ซึ่งเป็นภาวะที่เซลล์สมองเสื่อมลงและจำนวนลดลงเมื่ออายุมากขึ้น และเป็นเครื่องบ่งชี้ภาวะความรู้คิดบกพร่อง และโรคสมองเสื่อมที่สำคัญมาก

ภาวะความรู้คิดบกพร่อง และโรคสมองเสื่อม กำลังส่งผลกระทบต่อผู้คนกว่า 55 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งตัวเลขนี้มีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นในอีกไม่กี่ทศวรรษที่จะถึงนี้จากประชากรผู้สูงอายุทั่วโลก

แน่นอนว่ามีปัจจัยเสี่ยงที่ไม่สามารถเปลี่ยนได้ เช่น ความบกพร่องทางพันธุกรรมที่มีแนวโน้มจะเป็นโรคนี้ แต่ก็ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆที่อาจส่งผลมากกว่า จากงานวิจัยที่แสดงว่าพฤติกรรมการใช้ชีวิตแบบต่างๆ เช่น การสูบบุหรี่ โรคอ้วน และขาดการออกกำลังกาย ล้วนเพิ่มความเสี่ยงการเป็นโรคสมองเสื่อม

สำหรับบทบาทของอาหารในการป้องกันภาวะความรู้คิดบกพร่อง และโรคสมองเสื่อม นักวิทยาศาสตร์ก็ศึกษาเช่นกัน อย่างงานวิจัยก่อนหน้านี้มากมายพบว่าการกินอาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียนส่งผลดีต่อสมอง 

แม้ ‘อาหารเมดิเตอร์เรเนียน’ จะเป็นเทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพที่กำลังถูกพูดถึงมากในฝั่งตะวันตก แต่สำหรับคนไทยแล้วน่าจะคุ้นเคยกับ ‘อาหารญี่ปุ่น’ มากกว่า แน่นอนว่าในอาหารญี่ปุ่นมักมีวัตถุดิบเป็นปลาทะเล ที่มีไขมันดี มีประโยชน์ต่อสมอง และการลดน้ำหนัก

แต่งานวิจัยล่าสุด ไม่ได้พูดถึงปลาเพียงอย่างเดียว แต่หมายถึงอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่คนญี่ปุ่นกินกันเป็นประจำตามปกติ อาจมีส่วนช่วยให้พวกเขาห่างไกลจากโรคสมองเสื่อม หรือ ภาวะความรู้คิดบกพร่อง โดยเฉพาะในผู้หญิง! และดีกว่าอาหารตะวันตกด้วย

อาหารญี่ปุ่นดั้งเดิม

เคยสงสัยไหมว่า ทำไมคนญี่ปุ่นถึงมีอายุยืน อย่างเช่น จังหวัดโอกินะวะ ทางตอนใต้ของญี่ปุ่นมีคนที่มีอายุยืนเกิน 100 ปีขึ้นไปจำนวนมากอย่างน่าประหลาด และทำให้โอกินะวะถูกเรียกว่า โซนสีน้ำเงิน หรือ Blue Zone ซึ่งหมายถึงบริเวณที่ผู้คนมีอายุยืนยาวอย่างยอดเยี่ยม และอายุที่ยืนยาวของคนแถบนี้ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะอาหารดั้งเดิมนั่นเอง

ลักษณะของอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม มักจะมีข้าว ปลา หอย ผลไม้จำพวกส้ม และมีอาหารบางอย่างที่สร้างความแตกต่างและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของญี่ปุ่น เช่น มิโสะที่ทำจากถั่วเหลืองหมัก สาหร่าย ชาเขียว ของดอง ถั่วเหลือง และเห็ด เช่น ชิตาเกะ และที่สำคัญมักกินเนื้อแดง และกาแฟในปริมาณน้อย

อาหารเหล่านี้อยู่ในวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่น ไม่ได้จัดสรรขึ้นเพื่อเป้าหมายเฉพาะเจาะจง เช่น การลดน้ำหนัก ซึ่งชาวญี่ปุ่นมากมายต่างเพลิดเพลินกับการกินอาหารเหล่านี้บนโต๊ะอาหารเป็นปกติอยู่แล้ว

Eating-traditional-japanese-food-link-to-brain-shrinkage-in-women-SPACEBAR-Photo01.jpg
Photo: คนกำลังกินอาหารญี่ปุ่นที่หลากหลาย

อาหารญี่ปุ่นส่งผลดีต่อสมอง

งานวิจัยนี้ได้เผยแพร่ในวารสาร Nutrition Journal in March นักวิจัยได้วิเคราะห์กลุ่มตัวอย่างเป็นชาวญี่ปุ่น 1,636 คน อายุระหว่าง 40 ถึง 89 ปี โดยให้แต่ละคนจดบันทึกทุกอย่างที่กินและดื่มในช่วงเวลา 3 วัน และให้กล้องใช้แล้วทิ้ง เพื่อถ่ายรูปจานอาหารก่อนและหลังกินทุกมื้อ เพื่อบันทึกว่าแต่คนกินมากน้อยแค่ไหน จากนั้นนักวิจัยนำข้อมูลทั้งหมดมาคำนวณค่าเฉลี่ยอาหารที่แต่ละคนกินในแต่ละวันทำให้ทราบถึงนิสัยการกินตามปกติของผู้เข้าร่วม

จากการบันทึกอาหาร นักวิจัยพบว่าผู้เข้าร่วม 589 คนกินอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมเป็นประจำ ส่วน 697 คน กินอาหารตะวันตก ซึ่งเป็นอาหารที่มักมีคาร์โบไฮเดรตแปรรูป ไขมันสูง มีน้ำอัดลมและแอลกอฮอล์ และอีก 350 คนที่เหลือกินอาหารจากพืช (ธัญพืช ผักและผลไม้) และผลิตภัณฑ์นม สูงกว่าปริมาณเฉลี่ย ซึ่งนักวิจัยเรียกการกินแบบนี้ว่า ‘อาหารผัก ผลไม้ นม’

นอกจากนี้ นักวิจัยยังนำข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวกับวิถีชีวิตและปัจจัยด้านสุขภาพของผู้เข้าร่วมมาวิเคราะห์ด้วย ได้แก่ความบกพร่องทางพันธุกรรมที่มีแนวโน้มเป็นโรคสมองเสื่อม การสูบบุหรี่ ระดับการออกกำลังกาย หรือโรคประจำตัวที่เป็นอยู่ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวาน เพื่อให้แน่ใจว่าการค้นพบนี้เกี่ยวกับอาหารเพียงอย่างเดียว

หลังจากนั้นเมื่อผ่านไปสองปี นักวิจัยได้วิเคราะห์การเกิดสมองฝ่อ ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดขึ้นตามอายุ และเป็นเครื่องบ่งชี้ภาวะความรู้คิดบกพร่อง และโรคสมองเสื่อมที่สำคัญมาก โดยวัดสมองฝ่อด้วยการสแกน MRI

นักวิจัยพบว่าผู้หญิงที่กินอาหารญี่ปุ่นดั้งเดิมเป็นประจำสมองฝ่อน้อยกว่าผู้หญิงที่กินอาหารตะวันตกเป็นประจำในช่วงเวลาสองปีของการทำวิจัย แต่ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องผลกระทบต่อคนที่กินอาหารผัก ผลไม้ นม ซึ่งอาจเป็นเพราะจำนวนผู้เข้าร่วมที่อยู่ในกลุ่มนี้มีน้อย

แต่ที่น่าสนใจคือ ผลกระทบนี้ปรากฏเฉพาะในผู้หญิงเท่านั้น ไม่พบความแตกต่างของปริมาณสมองที่ฝ่อในผู้ชายที่กินอาหารญี่ปุ่นดั้งเดิมเป็นประจำ เมื่อเทียบกับคนที่กินอาหารประเภทอื่นๆ

อาจมีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้ได้ผลเช่นนี้ โดยอาจเกี่ยวกับความแตกต่างทางชีวภาพระหว่างเพศ ยกตัวอย่างเช่น สารอาหารบางอย่าง เช่น แมกนีเซียมและเอสโตรเจนจากพืช ที่พบในปลา หอย เห็ด ธัญพืชเต็มเมล็ด และถั่วฝัก พบว่าช่วยป้องกันสมองของผู้หญิงได้ดีกว่า 

นอกจากนี้ยังอาจเกี่ยวกับวิถีชีวิตที่แตกต่างกันของแต่ละเพศ โดยผู้ชายมักมีปัจจัยด้านลบมากกว่า เช่น การสูบบุหรี่ ที่อาจทำให้ได้ประโยชน์จากอาหารที่ดีต่อสุขภาพน้อยลง และผู้เข้าร่วมที่เป็นผู้ชายไม่ค่อยกินอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม มักกินบะหมี่ที่ทำจากคาร์โบไฮเดรตแปรรูปมากกว่า และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น สาเก มากกว่าผู้หญิงด้วย โดยปัจจัยเหล่านี้อาจนำไปสู่ภาวะสมองฝ่อได้

ประโยชน์ของอาหารญี่ปุ่น มีข้อเท็จจริงที่ว่าอาหารหลายชนิดอุดมไปด้วยวิตามิน โพลีฟีนอล สารพฤษเคมี และกรดไขมันไม่อิ่มตัว โดยสารเหล่านี้เป็นที่ทราบดีว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ ซึ่งหมายความว่าพวกมันช่วยคงการทำงานของสมองและเซลล์ประสาทให้ดีที่สุด

Eating-traditional-japanese-food-link-to-brain-shrinkage-in-women-SPACEBAR-Photo02.jpg
Photo: อาหารญี่ปุ่นหลากหลาย

ชู ซัง นักวิจัยแห่งสถาบันเวชศาสตร์และพฤฒิวิทยาผู้สูงอายุแห่งชาติ ประเทศญี่ปุ่น (National Center for Geriatrics and Gerontology : NCGG) กล่าวว่า “การค้นคว้าเพิ่มเติมเป็นสิ่งที่สำคัญมากในขณะนี้ ไม่ใช่เพียงเพื่อยืนยันการค้นพบของเรา แต่เพื่อสำรวจเหตุผลว่าทำไมจึงพบความแตกต่างระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง จากอาหารที่พวกเขาชอบกินกับสุขภาพของสมอง”

“และเพื่อยอมรับว่าอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ที่มีทั้งปลา อาหารทะเล ถั่วเหลือง มิโสะ สาหร่ายและเห็ดชิตาเกะ ไม่ได้แค่ช่วยฟื้นฟูการทำงานของกระบวนการรู้คิด แต่ดีต่อสุขภาพโดยรวมด้วย”

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์