ผู้นำเอกวาดอร์ประกาศทำสงครามกับแก๊งยาเสพติดหลังก่อเหตุป่วนทั้งประเทศ

11 มกราคม 2567 - 04:34

ecuador-president-says-country-is-at-war-with-drug-gangs-SPACEBAR-Hero.jpg
  • “เรากำลังอยู่ในภาวะสงคราม และเราไม่สามารถยอมแพ้เมื่อเผชิญกับกลุ่มก่อการร้ายเหล่านี้”

  • ขณะที่รัฐบาลกล่าวว่า “ความรุนแรงระลอกล่าสุดเป็นการตอบสนองต่อแผนของโนโบอาในการสร้างเรือนจำที่มีความปลอดภัยสูงแห่งใหม่สำหรับหัวหน้าแก๊ง”

เอกวาดอร์กำลัง ‘ทำสงคราม’ กับแก๊งยาเสพติด

ประธานาธิบดีดาเนียล โนโบอา ของเอกวาดอร์กล่าวเมื่อวันพุธ (10 ม.ค.) ว่า เอกวาดอร์กำลัง ‘ทำสงครามกับแก๊งค้ายา’ ซึ่งจับผู้คุมเป็นตัวประกัน ท่ามกลางความรุนแรงที่เพิ่มขึ้น ทั้งการที่กลุ่มมือปืนเข้าควบคุมการถ่ายทอดสดทางทีวีช่วงสั้นๆ และเกิดเหตุระเบิดในหลายเมือง 

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โนโบอาระบุให้แก๊ง 22 กลุ่มนี้เป็น ‘องค์กรก่อการร้าย’ ทำให้แก๊งเหล่านี้ตกเป็นเป้าหมายทางทหารอย่างเป็นทางการ “เรากำลังอยู่ในภาวะสงคราม และเราไม่สามารถยอมแพ้เมื่อเผชิญกับกลุ่มก่อการร้ายเหล่านี้” โนโบอาบอกกับสถานีวิทยุ ‘Canela Radio’ โดยคาดว่าสมาชิกแก๊งอาชญากรรมราว 20,000 คนยังคงปฏิบัติการอยู่ในเอกวาดอร์

ถนนในเมืองหลวงกรุงกีโตและเมืองท่ากัวยากิลต่างก็เงียบสงบกว่าปกติในวันพุธที่ผ่านมา โดยธุรกิจหลายแห่งต้องปิดหรือทำงานจากที่บ้าน ขณะที่โรงเรียนต่างๆ ก็ปิดด้วย 

การจับกุมตัวประกันและเจ้าหน้าที่เรือนจำมากกว่า 130 คนเมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันจันทร์ (8 ม.ค.) ที่ผ่านมา และการหลบหนีออกจากเรือนจำของ ‘อดอลโฟ มาเซียส’ ผู้นำแก๊ง ‘ลอส โชเนรอส’ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาส่งผลให้โนโบอาประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นเวลา 60 วัน 

เจมี เวล่า ผู้บัญชาการกองทัพแถลงเมื่อเย็นวันพุธว่า “มีประชาชนราว 329 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสมาชิกของแก๊ง เช่น แก๊งลอส โชเนรอส แก๊งลอสโลบอส และแก๊งลอส ติเกโรเนส ถูกจับกุมนับตั้งแต่การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเริ่มขึ้น” พร้อมเสริมว่า “ไม่มีตัวประกันคนไหนที่ถูกฆาตกรรม” หลังถูกถามเกี่ยวกับวิดีโออันน่าสะเทือนใจที่เผยแพร่บนโซเชียลมีเดียซึ่งแสดงให้เห็นเจ้าหน้าที่เรือนจำถูกกระทำด้วยความรุนแรง รวมถึงการถูกยิงและแขวนคอ  

ขณะที่รัฐบาลกล่าวว่า “ความรุนแรงระลอกล่าสุดเป็นการตอบสนองต่อแผนของโนโบอาในการสร้างเรือนจำที่มีความปลอดภัยสูงแห่งใหม่สำหรับหัวหน้าแก๊ง” โดยโนโบอาบอกกับสถานีวิทยุว่า “การออกแบบสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ 2 แห่งจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะในวันพรุ่งนี้ (ศุกร์ 12 ม.ค.) 

Photo by STRINGER / AFP

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์