ทางการอียิปต์ประกาศการค้นพบสุสานฟาโรห์ทุตโมสที่ 2 ซึ่งเป็นสุสานสุดท้ายที่ยังไม่ถูกค้นพบของกษัตริย์ราชวงศ์ที่ 18 ของอียิปต์ที่ปกครองอียิปต์กว่า 2 ศตวรรษระหว่าง 1550-1292 ปีก่อนศริสต์ศักราช นับเป็นการค้นพบสุสานกษัตริย์อียิปต์ครั้งแรกในรอบ 103 ปีนับตั้งแต่การค้นพบสุสานของฟาโรห์ตุตันคามุนเมื่อปี 1922
ภารกิจร่วมระหว่างนักโบราณคดีอียิปต์และอังกฤษพบสุสานของฟาโรห์ทุตโมสที่ 2 บริเวณเมืองธีบส์ทางตะวันตกของเมืองลักซอร์ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “หุบเขาแห่งกษัตริย์” ทีมนักโบราณคดีและกระทรวงการท่องเที่ยวและโบราณวัตถุสถานอียิปต์ระบุว่า มีการค้นพบหลักฐานที่บ่งชี้ชัดเจนว่าเป็นหลุมฝังศพของกษัตริย์ทุตโมสที่ 2 ในระหว่างการขุดค้นบริเวณที่แต่ก่อนรู้จักกันในชื่อสุสานหมายเลข C4
ทางเข้าและทางเดินหลักเข้าไปสู่โครงสร้างถูกพบเมื่อปี 2022 หลังจากนั้นก็มีการขุดค้นพื้นที่ภายในอย่างประณีตต่อเนื่องเรื่อยมา
โมฮาเหม็ด อิสมาอิล คาลิด เลขาธิการสภาสูงด้านโบราณวัตถุของอียิปต์เผยว่า ตอนที่ทีมพบทางเข้าสุสานและทางเดินหลักครั้งแรกเมื่อเกือบ 3 ปีก่อน ทีมเชื่อว่าอาจเป็นสุสานของหนึ่งในมเหสีของกษัตริย์ เนื่องจากอยู่ใกล้เคียงกับสุสานของมเหสีของฟาโรห์ทุตโมสที่ 3 และสุสานของราชินีแฮตเชปซุต กษัตรีของอียิปต์โบราณ ซึ่งถูกเตรียมไว้สำหรับแฮตเชปซุตในฐานะมเหสีก่อนที่นางจะขึ้นเป็นฟาโรห์ของอาณาจักรโบราณแห่งนี้ ก่อนที่สุดท้ายแฮตเชปซุตจะถูกฝังในหุบเขาแห่งกษัตริย์
ขณะเดินหน้าขุดค้นและตรวจสอบสุสานดังกล่าว ทีมงานก็พบหลักฐานใหม่ที่สามารถระบุว่าสุสานปริศนาแห่งนี้เป็นของฟาโรห์ทุตโมสที่ 2 และพบด้วยว่าพิธีฝังร่างของฟาโรห์ทุตโมสที่ 2 ถูกดำเนินการโดยราชินีแฮตเชปซุตซึ่งเป็นทั้งมเหสีและพี่น้องคนละพ่อคนละแม่
คาลิดเผยว่า ชิ้นส่วนของยานพาหนะที่ทำจากเศวตศิลาที่ถูกพบในซากปรักหักพังมีการจารึกพระนามของกษัตริย์ทุสโมสที่ 2 และระบุว่าพระองค์เป็น “กษัตริย์ผู้สิ้นพระชนม์” คู่กับพระนามของราชินีแฮตเชปซุตผู้เป็นมเหสี ซึ่งคาลิดกล่าวว่าทั้งหมดนี้ช่วยยืนยันว่าสุสานนี้เป็นของกษัตริย์ทุตโมสที่ 2
คาลิดบอกว่าการค้นพบครั้งนี้เป็นการค้นพบครั้งสำคัญทางโบราณคดี การค้นพบโบราณวัตถุมีส่วนสำคัญต่อความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของบริเวณที่ค้นพบ รวมถึงการปกครองของกษัตริย์ทุตโมสที่ 2
National Museum of Egyptian Civilization ระบุว่า มัมมี่ของกษัตริย์ทุตโมสที่ 2 ถูกค้นพบระหว่างศตวรรษที่ 19 ไม่ไกลจากพื้นที่ทางโบราณคดีสุสานเดียร์ เอล-บาฮารี ซึ่งคาดว่าน่าจะถูกเคลื่อนย้ายมาหลายศตวรรษหลังถูกปล้นโดยผู้บุกรุกสุสาน ปัจจุบันนี้มัมมี่ของกษัตริย์ทุตโมสที่ 2 ถูกนำมาจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ร่วมกับมัมมี่ของราชวงศ์องค์อื่นๆ
โมฮาเหม็ด อับเดล บาดี หัวหน้าฝ่ายโบราณวัตถุอียิปต์ของสภาสูงด้านโบราณวัตถุของอียิปต์และหัวหน้าทีมอียิปต์ที่ร่วมขุดค้นครั้งนี้เผยว่า สุสานอยู่ในสภาพทรุดโทรม เนื่องจากส่วนใหญ่ถูกนำท่วมหลังการเสียชีวิตของกษัตริย์ทุตโมสที่ 2 อับเดล บาดียังเผยอีกว่า การศึกษาเบื้องต้นบ่งชี้ว่าสิ่งของดั้งเดิมภายในสุสานถูกเคลื่อนย้ายไปไว้อีกสถานที่หนึ่งหลังเกิดน้ำท่วมในสมัยโบราณ
อับเดล บาดีเล่าต่อว่า ทีมค้นพบการฉาบปูนซึ่งมีจารึกสีน้ำเงินและดาวสีเหลืองหลงเหลืออยู่ และยังพบข้อความบางส่วนจากหนังสือ Imydwat ซึ่งเป็นหนึ่งในหนังสืองานศพที่สำคัญที่พบในสุสานอียิปต์โบราณ โดยหนังสือเล่มนี้เขียนขึ้นเพื่อนำทางกษัตริย์ผู้ล่วงลับไปสู่การเดินทางในโลกแห่งความตาย
เพียร์ส ลิเธอร์แลนด์ หัวหน้าทีมฝั่งอังกฤษเผยว่า หลุมฝังศพมีลักษณะพิเศษด้วยการออกแบบสถาปัตยกรรมที่เรียบง่ายตามแบบฉบับที่ได้รับเลือกโดยผู้ปกครองที่สืบทอดต่อกันมาของอียิปต์ในยุคหลังจากกษัตริย์ทุตโมสที่ 2
ลิเธอร์แลนด์กล่าวว่า ทีมจะเดินหน้างานสำรวจต่อไปและจะพยายามค้นหาว่าสิ่งของที่เหลืออยู่จากสุสานของกษัตริย์ทุตโมสที่ 2 ถูกย้ายไปที่ไหน และจะพยายามค้นหาความลับที่อาจถูกซ่อนไว้ใต้พื้นดินมาหลายพันปี
Photo by Egyptian Ministry of Antiquities / AFP
