เวียดนามเน้นพัฒนาคน! นักเรียนทุกคนต้องพูดภาษาอังกฤษได้ภายในปี 2035

14 มี.ค. 2568 - 09:02

  • กระทรวงศึกษาธิการและการฝึกอบรม (MoET) ของเวียดนามตั้งเป้าหมายให้ ‘วิชาศึกษาทั่วไป’ (GenEd) เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง 100% ภายในปี 2035

  • ร่างโครงการระบุว่าภาษาอังกฤษจะถูกสอนในโรงเรียนที่ใช้ภาษาเวียดนามเป็นภาษาทางการ และภาษาอังกฤษจะถูกใช้อย่างแพร่หลาย โดยจะดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไปตั้งแต่ปี 2025-2035

english_to_be_second_language_for_all_students_by_2035_SPACEBAR_Hero_6a24db8244.jpg

กระทรวงศึกษาธิการและการฝึกอบรม (MoET) ของเวียดนามตั้งเป้าหมายให้ ‘วิชาศึกษาทั่วไป’ (GenEd) เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง 100% ภายในปี 2035 

กระทรวงฯ กำลังพัฒนาและสรุปโครงการระดับชาติเพื่อให้ ‘ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง’ ในโรงเรียนอย่างค่อยเป็นค่อยไปตั้งแต่ปี 2025-2035 โดยมีวิสัยทัศน์ถึงปี 2045 ร่างโครงการระบุว่าภาษาอังกฤษจะถูกสอนในโรงเรียนที่ใช้ภาษาเวียดนามเป็นภาษาทางการ และภาษาอังกฤษจะถูกใช้อย่างแพร่หลาย 

ร่างดังกล่าวได้กำหนดระดับภาษาอังกฤษไว้ 6 ระดับสำหรับการสอนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองในโรงเรียน โดยมีเป้าหมายโดยรวมคือ ใช้ภาษาอังกฤษอย่างแพร่หลายและใช้สม่ำเสมอในการสื่อสาร การศึกษา การวิจัย การทำงาน และจะค่อยๆ ค่อยๆ กลายเป็นภาษาที่สองในโรงเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป้าหมายของการศึกษาระดับก่อนวัยเรียนคือภายในปี 2035 โรงเรียนอนุบาลทุกแห่งจะมีเงื่อนไขในการสอนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองให้กับเด็กๆ ครอบคลุมถึงเด็กอนุบาลอายุระหว่าง 3-5 ขวบ 100% 

สำหรับการเรียนการสอนวิชาศึกษาทั่วไป ภายในปี 2035 นักเรียนทุกคนจะเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่ชั้น ป.1 ถึงชั้น ม.6 โดยจะเรียนระดับ 1, 2 และ 3 ของหลักสูตรภาษาอังกฤษ และภายในปี 2045 ทุกโรงเรียนจะดำเนินการจัดหลักสูตรภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองในระดับบ 4, 5 และ 6 

สำหรับในระดับมหาวิทยาลัย ทุกสถานศึกษาจะต้องสอนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองในระดับ 4, 5 และ 6 ส่วนสถาบันอาชีวศึกษาทุกแห่งจะต้องจัดหลักสูตรตามการศึกษาที่เน้นการประกอบอาชีพนอกจากนี้ สถาบันอาชีวศึกษา 50% จะดำเนินการสอนวิชาอื่นๆ หรือบางส่วนของวิชาที่เรียนก็เรียนเป็นภาษาอังกฤษควบด้วย 

นอกจากนี้ ร่างโครงการยังดำเนินการวิจัยเพื่อปรับปรุงกรอบสถาบัน การพัฒนาฝึกอบรมครูและอาจารย์ใหม่ การพัฒนาหลักสูตร ตำราเรียน สื่อการเรียนรู้ รวมถึงการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ เป็นต้น 

“การดำเนินโครงการนี้ถือเป็นข่าวดีและเป็นโอกาสสำหรับภาคการศึกษา การพูดและการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศโดยเฉพาะภาษาอังกฤษ เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการบูรณาการที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับโลกภายนอก...บทบาทของการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการสอน ซึ่งสามารถลดช่องว่างในระดับภูมิภาค ประหยัดเวลา และลดความต้องการแรงงาน” ฝั่มหง็อกตวง รองรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการและวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าว   

รองศาสตราจารย์ เหงียนวันเตรา รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยการศึกษาแห่งชาติฮานอย กล่าวว่า “โครงการนี้จะต้องกำหนดบทบาทและการวางแผนของระบบการศึกษาระดับอุดมศึกษาอย่างชัดเจน โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยด้านศึกษาศาสตร์” 

ดร.เหงียนทันห์บิ่ญ จากมหาวิทยาลัยการศึกษานครโฮจิมินห์กล่าวว่า “โครงการนี้ควรสร้างความมั่นใจในเรื่องการเข้าถึงสำหรับนักเรียนในพื้นที่ห่างไกลและบนภูเขา แก้ไขปัญหาความไม่เท่าเทียมกันในคุณสมบัติของครูในพื้นที่ต่างๆ และรวบรวมแหล่งทุนทางสังคม รวมถึงแหล่งทุนต่างๆ เพื่อพัฒนาบริการที่ปรึกษาและเครื่องมือสนับสนุน” 

(Photo by HOANG DINH NAM / AFP)

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์