ขณะนี้โลกได้เปลี่ยนผ่านจากยุค ‘โลกร้อน’ ไปสู่ ‘โลกเดือด’ แล้ว
หลังจากอุณหภูมิโลกร้อนได้ทำลายสถิติในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานั้นก็แสดงให้เห็นอย่างแน่นอนแล้วว่า ขณะนี้โลกของเราได้ผ่านจาก ‘ยุคโลกร้อน’ ไปสู่ ‘ยุคโลกเดือด’ แล้วขณะที่ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (UN) ออกมาขอให้ทุกฝ่ายดำเนินการอย่างเข้มงวดทันทีต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยกล่าวว่า “ความร้อนที่รุนแรงทั่วซีกโลกเหนือเป็น ‘ฤดูร้อนที่โหดร้าย’ …สำหรับทั้งโลก มันคือหายนะ…การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศนั้นน่ากลัว และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ยุคโลกร้อนสิ้นสุดลงแล้ว แต่ยุคโลกเดือดก็มาถึงแล้วเช่นกัน”
“ผลกระทบที่รุนแรงของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนั้นสอดคล้องกับ ‘การคาดการณ์และคำเตือนซ้ำๆ ของนักวิทยาศาสตร์…สิ่งเดียวที่น่าประหลาดใจคือ ‘ความเร็วของการเปลี่ยนแปลง’ เมื่อเผชิญกับผลที่ตามมาแล้ว มันน่าสลดใจ” กูเตอร์เรสกล่าวพร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการดำเนินการที่รวดเร็วและกว้างขวาง โดยมุ่งเป้าหมายไปที่ภาคส่วนเชื้อเพลิงฟอสซิลอีกครั้ง
กูเตอร์เรสเสริมอีกว่า “อากาศที่ทำให้เราเริ่มหายใจไม่ออก ความร้อนที่ไม่สามารถทนได้ ประกอบกับระดับกำไรจากเชื้อเพลิงฟอสซิลและการเฉยเมยต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศก็เป็นสิ่งที่รับไม่ได้…ผู้นำต้องลงมือทำได้แล้ว อย่าได้ลังเล และหาข้ออ้าง หรือต้องรอให้ใครคนใดคนหนึ่งเคลื่อนไหวก่อนอีกต่อไป”
อย่างไรก็ดี ก่อนการประชุมสุดยอดสภาพภูมิอากาศ (Climate Ambition Summit) ในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ กูเตอร์เรสยังเรียกร้องให้ประเทศที่พัฒนาแล้วมุ่งมั่นที่จะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2040 ให้ได้มากที่สุด และสำหรับประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ (emerging economies) ให้บรรลุภายในปี 2050
“‘การทำลายล้าง’ ต้องไม่กระตุ้นให้เกิดความสิ้นหวัง แต่ควรกระตุ้นให้เกิดการกระทำ…เพื่อป้องกันผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดของมนุษยชาติ เราต้องเปลี่ยน ‘ปีแห่งความร้อนระอุ’ ให้เป็น ‘ปีแห่งความทะเยอทะยานที่จะดำเนินการอย่างจริงจังเสียที’” กูเตอร์เรสกล่าวทิ้งท้าย
