เมื่อวันฉลองแชมป์ของแฟนบอลลิเวอร์พูลต้องกลับกลายเป็นวันที่มืดมนที่สุดวันหนึ่งของพวกเขา หลังเกิดเหตุไม่คาดฝันที่รถคันหนึ่งพุ่งชนใส่ขบวนฉลองแชมป์บนถนนวอเตอร์สตรีททำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 47 ราย ในจำนวนนี้มีเด็กด้วย 4 ราย
เหตุการณ์ ณ ห้วงเวลานั้นเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้อง ทุกอย่างโกลาหล และคนต่างก็พากันวิ่งหนี แม้ชายวัย 53 ปีที่กอเหตุจะถูกจับกุม แต่ตำรวจก็ตัดประเด็น ‘ก่อการร้าย’ ออกไป ไม่มีใครทราบแรงจูงใจ หรือความตั้งใจเบื้องหลังการตัดสินใจของชายคนนี้
ดารากห์ ลีวี แฟนบอลลิเวอร์พูลตัวยง ขับรถมาจากไอร์แลนด์พร้อมกับมาร์ก พี่ชายของเขา เมื่อวันเสาร์ (24 พ.ค.) ในวันเกิดเหตุ พวกเขายืนอยู่บนถนนวอเตอร์สตรีทตอน 19.45 น.(ตามเวลาท้องถิ่น) ท่ามกลางความหลอนและความหวาดผวา
“เราโชคดีที่ยังมีชีวิตอยู่...เราเห็นรถคันนั้น มันขับไปตามถนนด้วยความเร็วโดยอ้อมรถตู้ตำรวจ มันชนคนหลายคน และมีคนติดอยู่ใต้รถหลายคน มีคนประมาณ 20-30 คนที่กำลังพยายามช่วยพวกเขาออกมาจากใต้ท้องรถ...มันแย่มาก” ดารากห์ เล่า มาร์กเสริมว่า “ผมไม่มีวันลืมสีหน้าของตำรวจและเครื่องแบบที่เปื้อนเลือด โอ้ พระเจ้า...”
คริส โจนส์ จากเมืองเฮสวอลล์ เขตเวียร์รัล เล่าว่าเขาสังเกตเห็นรถคันหนึ่งมุ่งหน้าไปยังถนนวอเตอร์สตรีท โดยมีแฟนๆ ต่างล้อมรอบรถและตำหนิคนขับ “รถคันนั้นฝ่าสิ่งกีดขวางเข้าไป รถถอยหลังแล้วมุ่งหน้าไปยังศาลากลาง ขณะที่ผู้คนต่างไล่ตามรถไปตามถนน ตะโกนใส่คนขับที่ขับมาผิดทาง พร้อมกับทุบกระจกหน้าต่างรถ”
แพทริก มิลลิแกน วัย 25 ปี จากเมืองวีแกน เล่าว่า “พวกเราทุกคนมีวันที่ดีที่สุดในชีวิตหลังจากชมขบวนพาเหรด จากนั้นก็เกิดคลื่นยักษ์ซัดเข้ามาภายในเวลาประมาณ 5 นาทีหลังจากขบวนพาเหรดสิ้นสุดลง มันช่างเลวร้ายมาก รถพุ่งเข้าใส่ฝูงชนด้วยความเร็วสูงจนทุกคนต่างก็กรีดร้อง”
เจนนี่ ซิมส์ ผู้ช่วยหัวหน้าตำรวจแห่งกรมตำรวจเมอร์ซีย์ไซด์ ยืนยันว่าคนขับรถยนต์ถูกจับกุมแล้ว พร้อมเน้นย้ำว่า “เหตุการณ์นี้ไม่ถือว่าเป็น ‘การก่อการร้าย’ และตำรวจไม่ได้กำลังตามหาใครอื่นที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุครั้งนี้”
ซอนนี่ ซิงห์ วัย 40 ปี ซึ่งมาพร้อมกับลูกชาย 2 คนอายุ 9 ขวบ และ 13 ขวบ บอกกับ The Guardian ว่า “ผู้คนวิ่งไปกรีดร้องไป ผมเห็นเด็กชายคนหนึ่ง อายุน่าจะประมาณ 15 ปี กำลังจับขาตัวเอง แล้วก็มีเลือดออก มีคนจำนวนมากอยู่ที่นั่น”
แฮร์รี่ ราชิด วัย 48 ปี อยู่บริเวณขบวนพาเหรดพร้อมกับภรรยาและลูกสาว 2 คน เล่าว่า “เหตุการณ์เกิดขึ้นห่างจากเราไปประมาณ 10 ฟุต พวกเราอยู่ท่ามกลางฝูงชน...รถคันดังกล่าวมาทางขวาของเรา มันโผล่ออกมาจากข้างๆ รถพยาบาล...มันเร็วมาก ตอนแรกเราได้ยินแค่เสียงปลัก ปลัก ปลัก ซึ่งเป็นเสียงคนที่กระแทกกับฝากระโปรงรถ...มันแย่มาก ผมเห็นคนนอนอยู่บนพื้นหมดสติ มันน่ากลัวมาก”
เชลซี หยวน บอกกับ Sky News ว่า “คนมันแน่นขนัดไปหมด เราเหมือนปลาซาร์ดีน จากนั้นเราก็ได้ยินเสียงบี๊บและเสียงกรีดร้อง เรามองเห็นรถคันหนึ่งตรงมาหาเรา...รถน่าจะวิ่งด้วยความเร็ว 30 ไมล์ต่อชั่วโมง พวกเราตกใจมาก ลูกสาวของเพื่อนเราร้องไห้ขณะที่เราเข้าใกล้ผู้คนที่นอนอยู่บนพื้นถนน”
ขณะที่ แมตต์ โคล นักข่าว BBC ที่เข้าร่วมขบวนพาเหรดฉลองแชมป์กับครอบครัวเล่าว่า “ผมอยู่ที่นั่นกับครอบครัวของผม เราเพิ่งดูพลุเฉลิมฉลองเพียงไม่กี่นาทีก่อนหน้า แต่หลังจากนั้น เราก็ได้ยินเสียงกรีดร้องอยู่ข้างหน้าเรา และทันใดนั้นก็มีรถคันหนึ่งวิ่งฝ่าฝูงชนมา มันไม่หยุดเลย ผมคว้าตัวลูกสาว และกระโดดหลบออกไป รถเฉียดผมและครอบครัวไปเพียงไม่กี่นิ้ว จากนั้นเราหันกลับไปดูสิ่งที่เกิดขึ้นเบื้องหลังเราชั่วขณะหนึ่ง ก่อนจะวิ่งหนี”
เครก สจ๊วร์ด วัย 52 ปี บอกกับ The Telegraph ว่า “มันเป็นฉากที่เลวร้ายมาก รถพุ่งชนฝูงชน เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเพียง 20 วินาทีเท่านั้น และผู้คนไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วมันเกิดอะไรขึ้น มันน่าตกใจมาก ผมไม่รู้ว่าทำไมตำรวจไม่ปิดถนน ทั้งๆ ที่ที่นั่นมีคนมากมาย”
ส่วน แดเนียล โจนส์ วัย 28 ปี ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุออกไปเพียงไม่กี่ฟุตบอกกับ The Sun ว่า “โชคดีที่ภรรยาของผมเพิ่งกลับไปที่โรงแรมกับลูกชายวัย 3 ขวบของผม...มีเจ้าหน้าที่พยาบาลฉุกเฉินรักษาผู้บาดเจ็บมากมาย มันเป็นภาพที่น่าสยดสยองมาก”
ด้าน ปีเตอร์ โจนส์ วัย 44 ปี เล่าเหตุการณ์นี้ว่า “พวกเรากำลังเดินไปตามถนนวอเตอร์สตรีท มีคนนับพันอยู่ล้อมรอบพวกเรา เราได้ยินเสียงบี๊บดังลั่น มีรถคันหนึ่งขับผ่านผมกับเพื่อนไป ผู้คนไล่ตามและพยายามหยุดรถ กระจกด้านหลังถูกทุบแตก จากนั้นรถก็พุ่งชนผู้คน...มีคนได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก มันน่าตกใจมาก”
(Photo by Darren Staples / AFP)