คนเรามักจะมีช่วงเวลาหรือระยะเวลาหนึ่งที่เรียกว่า ‘ดวงดี’ (ทำอะไรก็ดีไปหมด) ‘ดวงตก’ (ทำอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจซักอย่าง อุปสรรคมาเต็ม) ‘ดวงซวย’ (หยิบจับอะไร ทำอะไร คิดอะไรก็ผิดไปหมด เจอแต่เรื่องร้ายๆ แทบจะมองหาความโชคดีไม่เจอ) บางคนแม้จะเจอเรื่องแย่ๆ แต่ก็ยังมีสิ่งดีๆ ซ่อนอยู่ หรือที่เรามักชอบพูดกันว่า ‘ฟ้าหลังฝน’
แต่กับชายคนนี้ที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘คนที่โชคดีที่สุดในโลก’ เพราะเขารอดจากความตายมาทั้งหมด 7 ครั้ง! แต่เรื่องราวของเขามัน ‘โชคดี’ จริงๆ หรอ?
ชายผู้โชค (ไม่) ดีที่สุดในโลก?
ชายคนนี้นามว่า ‘ฟราโน เซลัค’ หรือ ‘เฟรน เซลัค’ ชาวโครเอเชียที่มีชื่อเสียงจากเรื่องราวเล่าขานว่าเป็น ‘ผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลก’ หรือโชคร้ายกันแน่? ว่ากันว่าเขาเป็นผู้โกงความตายมาตั้ง 7 ครั้งที่ทั้งรอดชีวิตจากอุบัติเหตุเกี่ยวกับการคมนาคมแทบจะทุกรูปแบบ (ยกเว้นทางเรือ) ไม่ว่าจะเป็นเหตุรถไฟตก เครื่องบินตก และอุบัติเหตุรถชน ซึ่งนั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเรื่องโชคๆ ของเขาเท่านั้น!
เซลัคเกิดที่โครเอเชียในปี 1929 และมีชีวิตที่เรียบง่ายค่อนข้างธรรมดาในฐานะครูสอนดนตรี ซึ่งแทบจะไม่เคยได้พบเจอเหตุบ้าระห่ำสักครั้งเลย จนกระทั่งการเดินทางด้วยรถไฟแห่งโชคชะตาในปี 1962 นำพาเขาไปเจอเหตุการณ์ที่น่าเหลือเชื่อและเปลี่ยนแปลงชีวิตเขาไปตลอดกาล
เรื่องราวสุด ‘Impossible!’ ของชายผู้นี้เริ่มต้นขึ้นในวัย 33 ปี…
ใครจะไปรู้ว่าการนั่งรถไฟจากเมืองซาราเยโวไปยังเมืองดูโบรฟนิกในวันนั้นจะทำให้เซลัคเผชิญกับเส้นทางแห่งโชคชะตาที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เพราะจู่ๆ ขบวนรถไฟของเขาก็เกิดอุบัติเหตุจนทำให้รถไฟพุ่งตกแม่น้ำเนเรตวาซึ่งเป็นน้ำแข็งเป็นเหตุให้ผู้โดยสาร 17 คนเสียชีวิต ส่วนเซลัคนั้นพยายามพังหน้าต่างห้องโดยสารและออกจากรถไฟได้ ทั้งยังช่วยชีวิตคนรู้จักที่ร่วมเดินทางมากับเขาได้ด้วย จากนั้นพวกเขาทั้ง 2 ก็ถูกชาวบ้านในหมู่บ้านใกล้เคียงดึงขึ้นจากแม่น้ำ โดยเซลัคไม่ได้บาดเจ็บอะไรเลยนอกจากแขนหักและอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติ (hypothermia)
แต่นี่ยังแค่จิ๊บๆ เพราะเหตุการณ์ต่อๆ ไปที่เซลัคต้องเผชิญนั้นน่าสะพรึงกว่านี้อีก ขนาดที่ต้องตั้งคำถามว่าสรุปแล้วเขา ‘โชคดี’ หรือ ‘ดวงซวย’ กันแน่?
ปีต่อมาเซลัคกำลังบินจากเมืองซาเกร็บไปยังเมืองริเยกาเพื่อไปเยี่ยมแม่ของเขาที่ล้มป่วย ทว่าเมื่อใกล้ถึงสนามบินปลายทาง เครื่องบินก็ประสบปัญหาขัดข้องทางเทคนิคและเริ่มสูญเสียระดับความสูง จนในที่สุดประตูเครื่องบินก็ระเบิดออกก่อนที่เครื่องบินจะไปชนเข้ากับก้อนหิน ในเวลานั้นเซลัคถูกดูดออกจากเครื่องบินที่ความสูง 800 เมตรตกลงไปในกองหญ้า และตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาลไม่กี่วันต่อมาด้วยอาการบาดเจ็บเล็กน้อยซึ่งมีแค่เขาและพนักงานต้อนรับชื่อ ‘โรซิกา’ เท่านั้นที่รอดชีวิตมาได้ ส่วนผู้โดยสารคนอื่นๆ ทั้งหมด 19 รายเสียชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนี้
ในปี 1966 ชายผู้โชค (ไม่) ดีก็ประสบอุบัติเหตุร้ายแรงอีกครั้ง เมื่อรถบัสที่เขาขับอยู่ตกลงไปในแม่น้ำอีกครั้ง จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย แต่เขากลับรอดมาได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บมากมายเท่าใดนัก
กระทั่งเวลาผ่านเลยไปจนปี 1970 ก็เกิดเรื่องกับเซลัคขึ้นอีกครั้งระหว่างที่ขับรถอยู่ แต่จู่ๆ รถของเขาก็เกิดไฟไหม้ แต่โชคดีที่เขาลงจากรถไปยังระยะปลอดภัยเพียงไม่กี่วินาทีก่อนที่เปลวไฟจะถึงถังน้ำมันเชื้อเพลิงและระเบิดบนมอเตอร์เวย์ ต่อมาในปี 1973 ขณะที่เซลัคกำลังขับรถอยู่นั้น ปั๊มเชื้อเพลิงก็ทำงานผิดปกติจนทำให้น้ำมันเบนซินรั่วไหลเข้าไปในเครื่องยนต์จนเกิดเปลวไฟลุกลาม ซึ่งแน่นอนว่าเขารอดชีวิตมาได้อีกครั้งโดยไม่มีอาการบาดเจ็บสาหัสใดๆ
…20 ปีต่อมากับ ‘ความซวย’ ที่มาเยือนอีกครั้ง…
ในปี 1995 เซลัคก็เจอเหตุไม่คาดฝันอีกครั้งเมื่อเขาถูกรถบัสชนในเมืองซาเกร็บ แต่เขาก็รอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์อีกครั้งโดยบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และในปี 1996 ที่เชื่อกันว่าเป็นเหตุการณ์ร้ายๆ ครั้งสุดท้ายแล้ว (ครั้งที่ 7) ที่เกิดขึ้นกับเซลัค เมื่อรถบรรทุกคันหนึ่งพุ่งเข้าหาใส่รถยนต์ของเขาขณะที่กำลังขับรถไปตามถนนบนภูเขา แต่เขาหักหลบในวินาทีสุดท้ายและชนเข้ากับราวกั้น จนรั้วหลุดกระเด็นออกไป ทำให้รถของเขาตกลงไปในหุบเขาลึกลงไปประมาณ 100 เมตร แต่ระหว่างนั้นเซลัคกระโดดออกจากหน้าต่างรถไปเกาะบนต้นไม้ก่อนที่รถจะพลิกคว่ำและระเบิด
หรือเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นแค่ ‘เรื่องเล่า’?
ใครที่รู้เรื่องราวอันน่าเหลือเชื่อของเซลัคอาจจะเคลือบแคลงในใจว่า ‘มันจริงหรอเนี่ย?’ ที่คนๆ นึงจะรอดตายจากอุบัติเหตุรุนแรงๆ ได้อย่างฉิวเฉียดตั้งหลายครั้ง แน่นอนว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่เป็นเรื่องจริง แต่ก็ขาดการตรวจสอบอย่างเป็นทางการ (เช่น เหตุรถไฟตกรางปี 1962 และเหตุเครื่องบินตกปี 1963) และเรื่องราวของเซลัคได้รับการแชร์ทางออนไลน์บ่อยครั้ง ซึ่งบางครั้งรายละเอียดบางอย่างอาจมีการกล่าวเกินจริงไปบ้างเล็กน้อย
แม้เราอาจไม่มีทางรู้ความจริงทั้งหมดของชีวิตอันน่าทึ่งของชายคนนี้เลย แต่มีสิ่งหนึ่งที่เป็นความจริงแน่ๆ และเป็นความโชคดีอย่างแท้จริงโดยไม่มีข้อครหาใดๆ ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงกลางทศวรรษ 2000
หลังจากเจอเรื่องเสี่ยงตายหลายครั้ง…ความ ‘โชคดี’ ก็มาเยือนสักที

ช่วงเวลาเกือบ 4 ทศวรรษ (1960-2000) ชีวิตของเซลัคเหมือนถูกแขวนอยู่บนเส้นด้ายและพบเจอกับเรื่องราวเสี่ยงชีวิตมาโดยตลอด หลายคนบอกว่าเขา ‘ดวงซวย’ แต่ก็ยัง ‘โชคดี’ ที่รอดชีวิตมาได้ทุกครั้ง หากว่าไปตามกฎแห่งกรรมอาจจะกล่าวได้ว่า ‘มันยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะตาย’ นั่นเอง
ทว่าความโชคดีแบบที่เรียกได้เต็มปากเต็มคำคงจะเป็นช่วงปี 2003 ที่เซลัคในวัย 73 ปีซึ่งถูกรางวัลแจ็กพอตคูนา (kuna jackpot) ประมาณ 900,000 ยูโร (ราว 34 ล้านบาท) เขาจึงนำเงินจำนวนนั้นมาซื้อบ้านและบ้านพักตากอากาศ จากนั้นยังแบ่งปันเงินรางวัลที่เหลือกับเพื่อนและครอบครัวอย่างไม่เห็นแก่ตัว นอกจากนี้เขายังให้ผู้คนจำนวนมากยืมเงิน แม้จะไม่เคยได้คืนก็ตาม แต่มันก็ได้ทำให้เขารู้สึกขุ่นเคืองใจแต่อย่างใด
“เงินไม่สามารถซื้อความสุขได้…สิ่งเดียวที่ผมต้องการในวัยของผมคือ ‘คาทารินา’ (ภรรยาของเขา) ของผม เงินจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้เลย…เมื่อมีเธอ ผมรู้ทันทีว่าชีวิตของผมนั้นมีความสุขจริงๆ” เซลัคบอก
ตลอดมาทั้งชีวิตเซลัคกลายเป็นคนดังจากเรื่องราวการโกงความตายถึง 7 ครั้ง และเป็นที่กล่าวถึงอีกครั้งหลังจากที่ถูกรางวัลแจ็กพอต เรื่องราวเสี่ยงตายของเซลัคทำให้เขากลายเป็นคนดังและถูกพูดถึงมากมายบนโลกออนไลน์ นอกเหนือจากสื่อโครเอเชียแล้วที่ตีแผ่เรื่องอันน่าเหลือเชื่อนี้ ก็ยังมี BBC และ The Guardian รวมถึงบล็อกและฟอรัมขนาดเล็กจำนวนมากที่เผยแพร่เรื่องราวของเขาด้วยเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ดี ไม่ว่าระหว่างทางเซลัคต้องเจอเรื่องเสี่ยงตายหลายต่อหลายครั้ง แต่บั้นปลายชีวิตของเขาก็อบอวลไปด้วยความสุข กระทั่งในปี 2016 เซลัคก็เสียชีวิตลงในวัย 86 ปี เหลือไว้แต่เพียงตำนานกล่าวขานที่ใครๆ ก็รู้จักเขาในฐานะ ‘ชายผู้โชค (ไม่) ดีที่สุดในโลก’
แล้วคุณล่ะนิยามคำว่า ‘โชคดี’ ไว้อย่างไร? รอดตายจากอุบัติเหตุอย่างปาฏิหาริย์? ถูกลอตเตอรี่? บางคนอาจบอกว่าบางครั้งมันก็อยู่ถูกที่ถูกเวลา หรือบางทีก็อาจผิดที่ผิดเวลาไปหน่อย คุณอยากเจอ ‘ความโชคดี’ บ่อยๆ ไหม?