กำลังตกเป็นประเด็นร้อนในสหรัฐฯ เมื่อมีสมาชิกสภาคองเกรสอันทรงเกียรติ ที่เพิ่งได้รับเลือกเข้ามานั้นเป็นตัวพ่อแห่งการ ‘โกหก’ และมีส่วนร่วมในการกระทำที่เรียกได้ว่า ‘เลวร้าย’ และอาจเป็นอาชญากรด้วย
เขาคนนั้นคือ ‘จอร์จ ซานโตส’ นักการเมืองหนุ่มชาวอเมริกัน ที่พ่วงตามหลังมาด้วยวลีคำโกหกต่างๆ มากมายยาวเป็นหางว่าว ไม่เว้นแม้แต่เรื่องครอบครัวของเขาเอง
“ไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าตานี่เป็นใคร” นักวิจารณ์กล่าว แต่เขาคนนี้ก็ยังได้รับหน้าที่เข้าไปอยู่ในสภาฯ ซึ่งมันแสดงให้เห็นแล้วว่าพรรคการเมืองนี้ ‘ยืนหยัดเพื่ออะไร’
หลังจากนั้นแม่ของเขาย้ายไปยังนิวยอร์กซิตี และทำงานเป็นแม่บ้าน แม่ครัว และพี่เลี้ยงเด็ก ซานโตส อ้างว่าตนเองถือ 2 สัญชาติ ซึ่งได้แก่ สหรัฐฯ และบราซิล จนกระทั่งปี 2013 ศาลบราซิลระบุว่า เขาเป็นคนสัญชาติอเมริกัน
ซานโตสโกหกเกี่ยวกับประวัติการศึกษาและชีวประวัติต่างๆ ของเขา ปัจจุบัน ซานโตส ในวัย 34 ปี เข้าสู่เส้นทางการเมืองในนามพรรครีพับลิกัน และได้เข้ารับตำแหน่งผู้แทนสหรัฐฯ ในเขตรัฐสภาแห่งที่ 3 ของนิวยอร์กในปีนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เขาพ่ายแพ้ในการลงชิงตำแหน่งกับ โธมัส ซูออสซี ผู้ที่ได้รับตำแหน่งในปี 2020
เขาคนนั้นคือ ‘จอร์จ ซานโตส’ นักการเมืองหนุ่มชาวอเมริกัน ที่พ่วงตามหลังมาด้วยวลีคำโกหกต่างๆ มากมายยาวเป็นหางว่าว ไม่เว้นแม้แต่เรื่องครอบครัวของเขาเอง
“ไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าตานี่เป็นใคร” นักวิจารณ์กล่าว แต่เขาคนนี้ก็ยังได้รับหน้าที่เข้าไปอยู่ในสภาฯ ซึ่งมันแสดงให้เห็นแล้วว่าพรรคการเมืองนี้ ‘ยืนหยัดเพื่ออะไร’
จอร์จ ซานโตส คือใคร?
จอร์จ ซานโตส - เกิดในบราซิลเมื่อวันที่ 22 กรกฏาคม ปี 1988 โดยมีน้องสาวชื่อ ทิฟฟานี เดโวลเดอร์ ซานโตส ย้อนกลับไปในปี 1985 ครอบครัวของซานโตสอพยพไปที่ฟลอริดา และประกอบอาชีพเก็บถั่วขายหลังจากนั้นแม่ของเขาย้ายไปยังนิวยอร์กซิตี และทำงานเป็นแม่บ้าน แม่ครัว และพี่เลี้ยงเด็ก ซานโตส อ้างว่าตนเองถือ 2 สัญชาติ ซึ่งได้แก่ สหรัฐฯ และบราซิล จนกระทั่งปี 2013 ศาลบราซิลระบุว่า เขาเป็นคนสัญชาติอเมริกัน
ซานโตสโกหกเกี่ยวกับประวัติการศึกษาและชีวประวัติต่างๆ ของเขา ปัจจุบัน ซานโตส ในวัย 34 ปี เข้าสู่เส้นทางการเมืองในนามพรรครีพับลิกัน และได้เข้ารับตำแหน่งผู้แทนสหรัฐฯ ในเขตรัฐสภาแห่งที่ 3 ของนิวยอร์กในปีนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เขาพ่ายแพ้ในการลงชิงตำแหน่งกับ โธมัส ซูออสซี ผู้ที่ได้รับตำแหน่งในปี 2020

นักการเมืองคนนี้ ‘โกหก’ อะไรเราบ้าง?
- ปู่และย่ารอดชีวิตจากหายนะในปี 2021 ซานโตสกล่าวในวิดีโอหาเสียงว่า ‘ปู่และย่าของเขารอดชีวิตจากหายนะ’ ต่อมาอีกหลายเดือนเขาบอกกับองค์กรข่าวชาวยิวว่า เขาภูมิใจมากกับเรื่องราวของปู่ย่าตายาย ซึ่งเขาอ้างไปถึงเรื่องการ ‘หลบหนีฮิตเลอร์’
ต่อมาเขาให้สัมภาษณ์กับ Fox News ว่า สำหรับคนจำนวนมากที่เป็นผู้ลี้ภัยในสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือผู้รอดชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ชื่อและเอกสารจำนวนมากถูกเปลี่ยนชื่อเพื่อความอยู่รอด
แต่เรื่องราวที่เขาสร้างมันดันไม่ง่ายขนาดนั้น เนื่องจาก เมแกน สโมเลนยัค นักลำดับวงศ์ตระกูล ให้สัมภาษณ์กับ CNN ว่า ไม่มีร่องรอยของมรดกชาวยิว และ/หรือ ยูเครน และไม่มีสัญญาณบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนชื่ออีกด้วย นอกจากนี้ บันทึกข้อมูลลำดับวงศ์ตระกูลของเขายังระบุอีกว่าปู่ย่าตายายของเขาเกิดในบราซิล

- 911 เอาชีวิตแม่ของผมไป
เว็บไซต์หาเสียงของซานโตสอ้างว่าแม่ของเขาอยู่ที่สำนักงานของเธอที่เซาท์ทาวเวอร์เมื่อวันที่ 11 กันยายน และเสริมว่าเธอเสียชีวิตในไม่กี่ปีต่อมาเมื่อเธอพ่ายแพ้ให้กับโรคมะเร็ง เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ปี 2021
นอกจากนี้เขายังทวีตข้อความบนทวิตเตอร์ของเขาด้วยว่า ‘9/11 เอาชีวิตแม่ของผมไป’ เพราะในขณะนั้นมีคนจำนวนมากที่เสียชีวิตจากการสูดดมเศษซากสารพิษในวันที่เกิดเหตุ
แต่ NBC News ตั้งข้อสังเกตว่าซานโตสอ้างว่าแม่ของเขาเป็นผู้บริหารด้านการเงิน แต่บันทึกการจ้างงานสาธารณะแสดงให้เห็นว่าแม่ของซานโตสมีนายจ้างเพียงคนเดียว ซึ่งเป็นบริษัทในควีนส์ที่ปิดตัวลงในปี 1994 นอกจากนี้ยังมีเอกสารที่ระบุว่าเธออยู่ในบราซิลในวันที่เกิดการโจมตีอีกด้วย
- ดาวรุ่งวอลเลย์บอล
หนึ่งในเรื่องโกหกแรกๆ ที่ซานโตสถูกจับได้คือ ซานโตสอ้างว่าเขาจบการศึกษาจากวิทยาลัย Baruch ด้วยปริญญาด้านเศรษฐศาสตร์และการเงินในปี 2010 ซึ่งมหาวิทยาลัยดังกล่าวเป็นมหาวิทยาลัยที่เขาไม่เคยเรียนด้วยซ้ำ แต่เรื่องราวมันดันสนุกขึ้นตรงที่ มีรายงานออกมาว่า ซานโตสบอกกับหลายๆ คนว่า เขาเป็นสตาร์ของทีมวอลเลย์ Baruch เลยเชียวนะ!
การโกหกของเขาเริ่มทะยานไปสู่จุดพีคมากขึ้น จากการสัมภาษณ์ทางวิทยุในปี 2020 เขาบอกว่า เขาเข้าร่วม Baruch ในฐานะเด็กทุนวอลเลย์บอล และเป็นส่วนหนึ่งในผู้ที่สังหารทีมจากมหาวิทยาลัย Yale และ Harvard
นอกจากนี้เขายังบอกอีกว่าตัวเขา ‘เล่นบาสเก็ตบอลได้แต่ไปเล่นวอลเลย์บอลเพราะง่ายกว่า’
“เราเป็นแชมป์ทั่วทั้งตะวันออกเฉียงเหนือ ทุกโรงเรียนที่บุกเข้ามาสู้กับเรา แม้ตอนนั้นผมจะตัวสั่นไปหมดเพราะผมเป็นผู้ชายตัวเล็กที่สุดและสูงแค่ 188 ซม.เท่านั้น” ซานโตสกล่าว
ขณะที่มีรายงานของ New York Times ระบุว่า ทีมวอลเลย์บอลชายของ Baruch ไม่เคยแข่งขันกับ Yale ในช่วงที่ซานโตสอ้างว่าเคยเรียนที่นั่นเลย
เว็บไซต์หาเสียงของซานโตสอ้างว่าแม่ของเขาอยู่ที่สำนักงานของเธอที่เซาท์ทาวเวอร์เมื่อวันที่ 11 กันยายน และเสริมว่าเธอเสียชีวิตในไม่กี่ปีต่อมาเมื่อเธอพ่ายแพ้ให้กับโรคมะเร็ง เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ปี 2021
นอกจากนี้เขายังทวีตข้อความบนทวิตเตอร์ของเขาด้วยว่า ‘9/11 เอาชีวิตแม่ของผมไป’ เพราะในขณะนั้นมีคนจำนวนมากที่เสียชีวิตจากการสูดดมเศษซากสารพิษในวันที่เกิดเหตุ
แต่ NBC News ตั้งข้อสังเกตว่าซานโตสอ้างว่าแม่ของเขาเป็นผู้บริหารด้านการเงิน แต่บันทึกการจ้างงานสาธารณะแสดงให้เห็นว่าแม่ของซานโตสมีนายจ้างเพียงคนเดียว ซึ่งเป็นบริษัทในควีนส์ที่ปิดตัวลงในปี 1994 นอกจากนี้ยังมีเอกสารที่ระบุว่าเธออยู่ในบราซิลในวันที่เกิดการโจมตีอีกด้วย
- ดาวรุ่งวอลเลย์บอล
หนึ่งในเรื่องโกหกแรกๆ ที่ซานโตสถูกจับได้คือ ซานโตสอ้างว่าเขาจบการศึกษาจากวิทยาลัย Baruch ด้วยปริญญาด้านเศรษฐศาสตร์และการเงินในปี 2010 ซึ่งมหาวิทยาลัยดังกล่าวเป็นมหาวิทยาลัยที่เขาไม่เคยเรียนด้วยซ้ำ แต่เรื่องราวมันดันสนุกขึ้นตรงที่ มีรายงานออกมาว่า ซานโตสบอกกับหลายๆ คนว่า เขาเป็นสตาร์ของทีมวอลเลย์ Baruch เลยเชียวนะ!
การโกหกของเขาเริ่มทะยานไปสู่จุดพีคมากขึ้น จากการสัมภาษณ์ทางวิทยุในปี 2020 เขาบอกว่า เขาเข้าร่วม Baruch ในฐานะเด็กทุนวอลเลย์บอล และเป็นส่วนหนึ่งในผู้ที่สังหารทีมจากมหาวิทยาลัย Yale และ Harvard
นอกจากนี้เขายังบอกอีกว่าตัวเขา ‘เล่นบาสเก็ตบอลได้แต่ไปเล่นวอลเลย์บอลเพราะง่ายกว่า’
“เราเป็นแชมป์ทั่วทั้งตะวันออกเฉียงเหนือ ทุกโรงเรียนที่บุกเข้ามาสู้กับเรา แม้ตอนนั้นผมจะตัวสั่นไปหมดเพราะผมเป็นผู้ชายตัวเล็กที่สุดและสูงแค่ 188 ซม.เท่านั้น” ซานโตสกล่าว
ขณะที่มีรายงานของ New York Times ระบุว่า ทีมวอลเลย์บอลชายของ Baruch ไม่เคยแข่งขันกับ Yale ในช่วงที่ซานโตสอ้างว่าเคยเรียนที่นั่นเลย

- ตัวพ่อธุรกิจแชร์ลูกโซ่
ตามประวัติการจ้างงานของซานโตสนั้นเป็นเรื่องโกหก เนื่องจากเขาไม่ได้ทำงานที่ Goldman Sachs หรือ Citigroup ตามที่เขาได้กล่าวอ้างแต่อย่างใด โดยบริษัทดังกล่าวถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์กล่าวหาว่า ฉ้อฉลแบบพอนซี (หรือที่ไทยเรียกกันว่า ธุรกิจแชร์ลูกโซ่) และถูกปิดตัวลงในเวลาต่อมา
นอกจากนี้ ข้อมูลจาก CNN ยังระบุด้วยว่า ซานโตสยืนยันกับเหล่านักลงทุนในอนาคตว่ามัน ‘ถูกต้องตามกฏหมาย 100%’ แม้ว่าจะมีรายงานว่าบริษัทนี้ฉ้อโกงก็ตาม
- ก่ออาชญากรรมในบราซิล
ในปี 2008 ซานโตสถูกอัยการบราซิลตั้งข้อหาฉ้อโกงฐานขโมยสมุดเช็คเจ้านายของแม่เขา และใช้เงินไปเกือบ 700 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 23,000 บาท โดยใช้สมุดเช็คที่ขโมยมาและชื่อปลอม ซึ่งต่อมาเขายอมรับเรื่องนี้ในปี 2009 และอีกครั้งในปี 2010 และหายไปจากการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ หลังจากที่ย้ายไปอยู่สหรัฐฯ
เขาบอกว่าเขา ‘ไม่ใช่อาชญากรที่นี่ หรือที่ไหนๆ ในบราซิล หรือเขตอำนาจศาลใดๆ ในโลกนี้’ ขณะที่อัยการในบราซิล กล่าวว่าเขาวางแผนที่จะตั้งข้อหากับซานโตสอีกครั้ง
- จอมโจร Burberry
อดีตเพื่อร่วมห้อง หรือรูมเมทของเขา ซึ่งรู้จักซานโตสในชื่อ ‘แอนโทนี เดโวลเดอร์’ ซึ่งเป็นชื่อกลางที่เขาใช้ในปี 2019 กล่าวว่า ซานโตสขโมยของมากมายไปจากพวกเขา รวมถึงผ้าพันคอจากแบรนด์ดัง Burberry ที่เขาสวมใส่ในการชุมนุม ‘Stop the Steal’ ของสหรัฐฯ ในปี 2020
- ถูกปล้น
ซานโตสอ้างตอนสาบานตนว่าเขาถูกปล้น ขณะที่พยายามส่งเช็คสำหรับค่าเช่าย้อนหลัง ที่เขาเป็นหนี้ให้กับเจ้าของบ้านในควีนส์ และเป็นเรื่องที่น่าตกใจมากที่ไม่มีบันทึกในเรื่องนี้
- ค่าใช้จ่าย 199.99 ดอลลาร์ ที่สุดจะคลุมเครือ
ในข่าวการเงินการหาเสียงของซานโตสที่ร้านอาหารอิตาเลียน เขาใช้จ่ายมากถึง 25,640.26 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 840,000 บาท ในกองทุนหาเสียง หรือเพิ่มขึ้นครั้งละ 199.99 ดอลลาร์ (ราว 6,500 บาท) อย่างน้อย 7 ครั้งเป็นของชายผู้หนึ่งซึ่งสารภาพว่ามีการลักลอบค้ามนุษย์ และเขานำเงินที่ได้มาบริจาคจำนวน 500 ดอลลาร์ (ราว 16,000 บาท) ให้กับแคมเปญของซานโตส ซึ่งเป็นเงินบริจาคที่ Daily Beast รายงานว่า ‘ผิดกฏหมายแน่นอน’
- ระดมเงินช่วยเหลือทหารผ่านศึกไร้บ้าน เพื่อช่วยชีวิต ‘หมา’ ตัวเองที่กำลังจะตาย
Patch รายงานว่า ในปี 2016 ซานโตส ซึ่งในตอนนั้นยังใช้ชื่อ เดโวลเดอร์ เลี้ยงสุนัขที่ป่วยและตรวจพบเนื้องอกและจำเป็นจะต้องได้รับการผ่าตัด โดยมีค่าใช้จ่ายราว 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 98,000 บาท) ซานโตสจึงได้ก่อตั้งโครงการหนึ่งชื่อ ‘GoFundMe’ เพื่อขอบริจาคสำหรับสุนัข แต่ดันเขียนข้อความเพื่อจูงใจคนบริจาคว่า ‘ถึงทุกๆ คน เมื่อทหารผ่านศึกขอความช่วยเหลือ คุณจะปฏิเสธได้อย่างไร?’ ซึ่งเชื่อมโยงไปกับเรื่องของทหารผ่านศึกไร้บ้านที่ต้องการรักษาชีวิตสุนัขเซอร์วิส และจะขอระดมทุนเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
จากนั้น ซานโตสหายไปพร้อมกับเงิน และสุนัขของเขาก็ตายในปี 2017
- เคยสูญเสียพนักงานไป 4 คน
ในการให้สัมภาษณ์กับ WNYC ซานโตสอ้างว่าเขาสูญเสียพนักงาน 4 คน ในเหตุกราดยิงไนต์คลับ Pulse ในเมืองออร์แลนโดในปี 2016 ทว่าตามรายงานของ Times ระบุว่า ไม่มีเหยื่อคนใดเลยที่เคยทำงานในบริษัทเดียวกันกับเขา
- เควิน แมคคาร์ธี
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา โพสต์รายงานว่าพนักงานที่ทำงานให้กับการประมูลเลือกตั้งของซานโตสจะโทรหาผู้บริจาคที่ร่ำรวยและแสร้งทำเป็นเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ของตัวแทนเควิน แมคคาร์ธีเพื่อระดมเงิน
ตามประวัติการจ้างงานของซานโตสนั้นเป็นเรื่องโกหก เนื่องจากเขาไม่ได้ทำงานที่ Goldman Sachs หรือ Citigroup ตามที่เขาได้กล่าวอ้างแต่อย่างใด โดยบริษัทดังกล่าวถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์กล่าวหาว่า ฉ้อฉลแบบพอนซี (หรือที่ไทยเรียกกันว่า ธุรกิจแชร์ลูกโซ่) และถูกปิดตัวลงในเวลาต่อมา
นอกจากนี้ ข้อมูลจาก CNN ยังระบุด้วยว่า ซานโตสยืนยันกับเหล่านักลงทุนในอนาคตว่ามัน ‘ถูกต้องตามกฏหมาย 100%’ แม้ว่าจะมีรายงานว่าบริษัทนี้ฉ้อโกงก็ตาม
- ก่ออาชญากรรมในบราซิล
ในปี 2008 ซานโตสถูกอัยการบราซิลตั้งข้อหาฉ้อโกงฐานขโมยสมุดเช็คเจ้านายของแม่เขา และใช้เงินไปเกือบ 700 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 23,000 บาท โดยใช้สมุดเช็คที่ขโมยมาและชื่อปลอม ซึ่งต่อมาเขายอมรับเรื่องนี้ในปี 2009 และอีกครั้งในปี 2010 และหายไปจากการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ หลังจากที่ย้ายไปอยู่สหรัฐฯ
เขาบอกว่าเขา ‘ไม่ใช่อาชญากรที่นี่ หรือที่ไหนๆ ในบราซิล หรือเขตอำนาจศาลใดๆ ในโลกนี้’ ขณะที่อัยการในบราซิล กล่าวว่าเขาวางแผนที่จะตั้งข้อหากับซานโตสอีกครั้ง
- จอมโจร Burberry
อดีตเพื่อร่วมห้อง หรือรูมเมทของเขา ซึ่งรู้จักซานโตสในชื่อ ‘แอนโทนี เดโวลเดอร์’ ซึ่งเป็นชื่อกลางที่เขาใช้ในปี 2019 กล่าวว่า ซานโตสขโมยของมากมายไปจากพวกเขา รวมถึงผ้าพันคอจากแบรนด์ดัง Burberry ที่เขาสวมใส่ในการชุมนุม ‘Stop the Steal’ ของสหรัฐฯ ในปี 2020
- ถูกปล้น
ซานโตสอ้างตอนสาบานตนว่าเขาถูกปล้น ขณะที่พยายามส่งเช็คสำหรับค่าเช่าย้อนหลัง ที่เขาเป็นหนี้ให้กับเจ้าของบ้านในควีนส์ และเป็นเรื่องที่น่าตกใจมากที่ไม่มีบันทึกในเรื่องนี้
- ค่าใช้จ่าย 199.99 ดอลลาร์ ที่สุดจะคลุมเครือ
ในข่าวการเงินการหาเสียงของซานโตสที่ร้านอาหารอิตาเลียน เขาใช้จ่ายมากถึง 25,640.26 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 840,000 บาท ในกองทุนหาเสียง หรือเพิ่มขึ้นครั้งละ 199.99 ดอลลาร์ (ราว 6,500 บาท) อย่างน้อย 7 ครั้งเป็นของชายผู้หนึ่งซึ่งสารภาพว่ามีการลักลอบค้ามนุษย์ และเขานำเงินที่ได้มาบริจาคจำนวน 500 ดอลลาร์ (ราว 16,000 บาท) ให้กับแคมเปญของซานโตส ซึ่งเป็นเงินบริจาคที่ Daily Beast รายงานว่า ‘ผิดกฏหมายแน่นอน’
- ระดมเงินช่วยเหลือทหารผ่านศึกไร้บ้าน เพื่อช่วยชีวิต ‘หมา’ ตัวเองที่กำลังจะตาย
Patch รายงานว่า ในปี 2016 ซานโตส ซึ่งในตอนนั้นยังใช้ชื่อ เดโวลเดอร์ เลี้ยงสุนัขที่ป่วยและตรวจพบเนื้องอกและจำเป็นจะต้องได้รับการผ่าตัด โดยมีค่าใช้จ่ายราว 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 98,000 บาท) ซานโตสจึงได้ก่อตั้งโครงการหนึ่งชื่อ ‘GoFundMe’ เพื่อขอบริจาคสำหรับสุนัข แต่ดันเขียนข้อความเพื่อจูงใจคนบริจาคว่า ‘ถึงทุกๆ คน เมื่อทหารผ่านศึกขอความช่วยเหลือ คุณจะปฏิเสธได้อย่างไร?’ ซึ่งเชื่อมโยงไปกับเรื่องของทหารผ่านศึกไร้บ้านที่ต้องการรักษาชีวิตสุนัขเซอร์วิส และจะขอระดมทุนเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
จากนั้น ซานโตสหายไปพร้อมกับเงิน และสุนัขของเขาก็ตายในปี 2017
- เคยสูญเสียพนักงานไป 4 คน
ในการให้สัมภาษณ์กับ WNYC ซานโตสอ้างว่าเขาสูญเสียพนักงาน 4 คน ในเหตุกราดยิงไนต์คลับ Pulse ในเมืองออร์แลนโดในปี 2016 ทว่าตามรายงานของ Times ระบุว่า ไม่มีเหยื่อคนใดเลยที่เคยทำงานในบริษัทเดียวกันกับเขา
- เควิน แมคคาร์ธี
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา โพสต์รายงานว่าพนักงานที่ทำงานให้กับการประมูลเลือกตั้งของซานโตสจะโทรหาผู้บริจาคที่ร่ำรวยและแสร้งทำเป็นเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ของตัวแทนเควิน แมคคาร์ธีเพื่อระดมเงิน