การสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ดำเนินมานานกว่า 300 วันนั้น ตอนนี้รัสเซียกลับมาเป็นฝ่ายรุกอีกครั้ง หลังจากกองทัพรัสเซียเคลื่อนพลประชิด 2 เมืองในภูมิภาคซาโปริซเซียทางภาคใต้ของยูเครนคือเมืองคือโอริคิฟ (Orikhiv) และเมืองฮูลิไอโพล (Hulyaipole)
การสู้รบในแนวหน้าของทั้งสองเมืองนี้เป็นไปอย่างดุเดือด และทหารรัสเซียสามารถควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ ถือเป็นครั้งที่ 2 ที่กองทัพรัสเซียอ้างว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบในปฏิบัติการรุกคืบในภูมิภาคซาโปริซเซีย 1 ใน 4 ภูมิภาคของยูเครนที่รัสเซียประกาศผนวกเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตัวเองตั้งแต่เดือน ก.ย.ปีที่แล้ว
ด้านกองทัพยูเครน ระบุในรายงานสถานการณ์ประจำวันว่า ชุมชน 15 แห่งในภูมิภาคซาโปริซเซียได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการยิงโจมตีด้วยปืนใหญ่
เมื่อยูเครนเป็นฝ่ายเสียเปรียบในการสู้รบ รัฐบาลยูเครนจึงเรียกร้องขอการสนับสนุนรถถังเล็ปเพิร์ด 2 ซึ่งเป็นอาวุธชั้นนำระดับโลกที่มีการใช้งานในกว่า 10 ประเทศจากเยอรมนี เพราะเห็นว่ารถถังเป็นส่วนสำคัญอีกอย่างหนึ่งในการป้องกันกองกำลังของรัสเซีย ที่สำคัญเคยมีการใช้รถถังเล็ปเพิร์ดในการต่อสู้ในอัฟกานิสถานและซีเรียอย่างเห็นผลมาแล้ว
การสู้รบในแนวหน้าของทั้งสองเมืองนี้เป็นไปอย่างดุเดือด และทหารรัสเซียสามารถควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ ถือเป็นครั้งที่ 2 ที่กองทัพรัสเซียอ้างว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบในปฏิบัติการรุกคืบในภูมิภาคซาโปริซเซีย 1 ใน 4 ภูมิภาคของยูเครนที่รัสเซียประกาศผนวกเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตัวเองตั้งแต่เดือน ก.ย.ปีที่แล้ว
ด้านกองทัพยูเครน ระบุในรายงานสถานการณ์ประจำวันว่า ชุมชน 15 แห่งในภูมิภาคซาโปริซเซียได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการยิงโจมตีด้วยปืนใหญ่
เมื่อยูเครนเป็นฝ่ายเสียเปรียบในการสู้รบ รัฐบาลยูเครนจึงเรียกร้องขอการสนับสนุนรถถังเล็ปเพิร์ด 2 ซึ่งเป็นอาวุธชั้นนำระดับโลกที่มีการใช้งานในกว่า 10 ประเทศจากเยอรมนี เพราะเห็นว่ารถถังเป็นส่วนสำคัญอีกอย่างหนึ่งในการป้องกันกองกำลังของรัสเซีย ที่สำคัญเคยมีการใช้รถถังเล็ปเพิร์ดในการต่อสู้ในอัฟกานิสถานและซีเรียอย่างเห็นผลมาแล้ว
อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้รัฐบาลยูเครนต้องการรถถังนี้มากเป็นพิเศษคือ รถถังรุ่นนี้ที่ได้รับการผลิตออกมาจำนวนเกือบ 2 ใน 3 ยังคงอยู่ในยุโรป เพราะฉะนั้นการนำรถถังเล็ปเพิร์ดมาใช้ในการสู้รบจึงสามารถทำได้โดยไม่ยุ่งยาก แถมการบำรุงรักษาและการซ่อมแซมก็ทำได้ง่ายขึ้นด้วย
ด้านเยอรมนี กำลังจะส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศที่มีความสำคัญให้แก่ยูเครนหลายระบบ อย่างเช่น ไอริส-ที (IRIS-T) และขีปนาวุธแพทริออตที่ยิงจากภาคพื้นดินสู่อากาศ รวมถึงรถลำเลียงพลหุ้มเกราะ
เมื่อวันอังคารที่ 24 ม.ค. ‘แดร์ ชปีเกล’ (Der Spiegel) สื่อชั้นนำของเยอรมนี รายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า “โอลาฟ ชอลซ์” นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ตัดสินใจที่จัดส่งรถถังเล็ปเพิร์ด 2 ให้ยูเครน และอาจให้ประเทศอื่นๆ ส่งรถถังรุ่นนี้ให้รัฐบาลเคียฟด้วยในอนาคตอันใกล้
เยอรมนีเป็นผู้ผลิตรถถังเล็ปเพิร์ด 2 และการที่ประเทศที่ 3 จะส่งออกรถถังรุ่นนี้จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากรัฐบาลเบอร์ลินก่อน
ที่ผ่านมาเยอรมนีลังเลใจที่จะส่งรถถังนี้แก่ยูเครนด้วยตัวเองหรืออนุญาตประเทศอื่นๆ ส่งออกรถถังรุ่นนี้ด้วยความกังวลว่าจะทำให้ความขัดแย้งกับรัสเซียรุนแรงขึ้น เป็นเหตุให้โปแลนด์กับฟินแลนด์ ซึ่งสัญญากับยูเครนว่าจะส่งรถถังรุ่นนี้แก่รัฐบาลเคียฟ ยังไม่สามารถดำเนินการได้
แต่ล่าสุดสื่อในเยอรมนีรายงานว่า นายกรัฐมนตรีชอลซ์ ตัดสินใจส่งเล็ปเพิร์ด 2 ให้ยูเครนอย่างน้อย 14 คัน เท่ากับจำนวนรถถัง เล็ปเพิร์ด 2 ที่โปแลนด์ต้องการส่งให้ยูเครน และเท่ากับจำนวนรถถังชาเลนเจอร์ 2 ที่สหราชอาณาจักรสัญญาว่าจะจัดให้รัฐบาลเคียฟ
แต่ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเรื่องนี้จากรัฐบาลเยอรมนีแต่อย่างใด
ยูเครนมองว่ารถถังเป็นอาวุธสำคัญสำหรับการฝ่าแนวป้องกันของรัสเซีย และจำเป็นต้องการเอาชนะการโจมตีครั้งใหญ่ระลอกใหม่ของรัสเซีย ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในฤดูใบไม้ผลิ และประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนเชื่อมั่นว่า รถถังเล็ปเพิร์ด 2 จำนวน 300 คันจะช่วยให้ยูเครนเอาชนะรัสเซียได้
ด้านบริษัท ไรน์เมทัล ผู้ผลิตยานพาหนะทางทหารสัญชาติเยอรมัน ให้สัมภาษณ์สื่อท้องถิ่นว่าสามารถส่งมอบรถถังเลปเพิร์ด 2ให้ยูเครนได้ถึง 139 คัน หากมีความจำเป็น
โฆษกของไรน์เมทัล ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถถังเล็ปเพิร์ด 2 ให้สัมภาษณ์สื่อว่า บริษัทสามารถที่จะส่งรถถังรุ่นเลปเพิร์ด 2A4 ให้ยูเครนได้ 29 คัน ภายในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.ปีนี้ และจะส่งให้ได้อีก 22 คันในช่วงสิ้นปีนี้ หรือต้นปี 2024
ด้านเยอรมนี กำลังจะส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศที่มีความสำคัญให้แก่ยูเครนหลายระบบ อย่างเช่น ไอริส-ที (IRIS-T) และขีปนาวุธแพทริออตที่ยิงจากภาคพื้นดินสู่อากาศ รวมถึงรถลำเลียงพลหุ้มเกราะ
เมื่อวันอังคารที่ 24 ม.ค. ‘แดร์ ชปีเกล’ (Der Spiegel) สื่อชั้นนำของเยอรมนี รายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า “โอลาฟ ชอลซ์” นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ตัดสินใจที่จัดส่งรถถังเล็ปเพิร์ด 2 ให้ยูเครน และอาจให้ประเทศอื่นๆ ส่งรถถังรุ่นนี้ให้รัฐบาลเคียฟด้วยในอนาคตอันใกล้
เยอรมนีเป็นผู้ผลิตรถถังเล็ปเพิร์ด 2 และการที่ประเทศที่ 3 จะส่งออกรถถังรุ่นนี้จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากรัฐบาลเบอร์ลินก่อน
ที่ผ่านมาเยอรมนีลังเลใจที่จะส่งรถถังนี้แก่ยูเครนด้วยตัวเองหรืออนุญาตประเทศอื่นๆ ส่งออกรถถังรุ่นนี้ด้วยความกังวลว่าจะทำให้ความขัดแย้งกับรัสเซียรุนแรงขึ้น เป็นเหตุให้โปแลนด์กับฟินแลนด์ ซึ่งสัญญากับยูเครนว่าจะส่งรถถังรุ่นนี้แก่รัฐบาลเคียฟ ยังไม่สามารถดำเนินการได้
แต่ล่าสุดสื่อในเยอรมนีรายงานว่า นายกรัฐมนตรีชอลซ์ ตัดสินใจส่งเล็ปเพิร์ด 2 ให้ยูเครนอย่างน้อย 14 คัน เท่ากับจำนวนรถถัง เล็ปเพิร์ด 2 ที่โปแลนด์ต้องการส่งให้ยูเครน และเท่ากับจำนวนรถถังชาเลนเจอร์ 2 ที่สหราชอาณาจักรสัญญาว่าจะจัดให้รัฐบาลเคียฟ
แต่ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเรื่องนี้จากรัฐบาลเยอรมนีแต่อย่างใด
ยูเครนมองว่ารถถังเป็นอาวุธสำคัญสำหรับการฝ่าแนวป้องกันของรัสเซีย และจำเป็นต้องการเอาชนะการโจมตีครั้งใหญ่ระลอกใหม่ของรัสเซีย ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในฤดูใบไม้ผลิ และประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนเชื่อมั่นว่า รถถังเล็ปเพิร์ด 2 จำนวน 300 คันจะช่วยให้ยูเครนเอาชนะรัสเซียได้
ด้านบริษัท ไรน์เมทัล ผู้ผลิตยานพาหนะทางทหารสัญชาติเยอรมัน ให้สัมภาษณ์สื่อท้องถิ่นว่าสามารถส่งมอบรถถังเลปเพิร์ด 2ให้ยูเครนได้ถึง 139 คัน หากมีความจำเป็น
โฆษกของไรน์เมทัล ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถถังเล็ปเพิร์ด 2 ให้สัมภาษณ์สื่อว่า บริษัทสามารถที่จะส่งรถถังรุ่นเลปเพิร์ด 2A4 ให้ยูเครนได้ 29 คัน ภายในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.ปีนี้ และจะส่งให้ได้อีก 22 คันในช่วงสิ้นปีนี้ หรือต้นปี 2024
ขณะที่การสู้รบดำเนินไปโดยไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุดเมื่อใด พลเอกอีริค คริสตอฟเฟอร์สัน ผู้บัญชาการทหารบกของนอร์เวย์ ให้สัมภาษณ์ในรายการของสถานีโทรทัศน์ช่อง TV2 เมื่อวันอาทิตย์ (22 ม.ค.) โดยคาดการณ์เกี่ยวกับความสูญเสียในสงครามยูเครน นับตั้งแต่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย เริ่มทำสงครามในยูเครน เมื่อ 24 ก.พ. ปี 2022 ว่า มีทหารรัสเซียเสียชีวิตหรือบาดเจ็บไปแล้วราว 180,000 นาย ขณะที่ฝ่ายยูเครนมีทหารเสียชีวิตหรือบาดเจ็บประมาณ 100,000 นาย และมีพลเรือนในยูเครน เสียชีวิตแล้วประมาณ 30,000 คน
“ทหารรัสเซียที่เสียชีวิตหรือบาดเจ็บมีจำนวนใกล้ 180,000 นาย” พลเอกคริสตอฟเฟอร์สันกล่าว โดยไม่ได้ระบุว่าตัวเลขทหารรัสเซียและยูเครนที่เสียชีวิตหรือบาดเจ็บจากสงครามนี้คำนวนด้วยวิธีใด
แต่ถึงแม้รัสเซียสูญเสียอย่างหนักจากสงครามนี้ ผู้บัญชาการทหารบกของนอร์เวย์ก็มั่นใจว่า กองทัพรัสเซียสามารถทำสงครามต่อไปได้อีกนาน เนื่องจากรัสเซียสามารถระดมกำลังพลและผลิตอาวุธได้เอง สิ่งที่สร้างความกังวลมากที่สุดในตอนนี้คือ ยูเครนจะสามารถตั้งรับการโจมตีจากรัสเซียได้นานแค่ไหน
เมื่อเดือนก.ย.ปีที่แล้ว วาเลรี ซาลูจนี ผู้บัญชาการกองทัพบกยูเครน ร่วมกับ มิคาอิโล ซาโบรดสกี รองประธานคณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติ กลาโหม และข่าวกรองของรัฐสภายูเครน ได้เขียนบทความประเมินสถานการณ์ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครนว่าจะมีทิศทางอย่างไรต่อไป รวมถึงคำถามสำคัญคือ ‘จะจบ
เมื่อไร’
ทั้งสองคนประเมินว่า มีเหตุผลหลายประการที่ทำให้เชื่อได้ว่าสงครามจะไม่สิ้นสุดภายในปี 2022 แน่นอน
ซาลูจนีและซาโบรดสกีเห็นตรงกันว่า ยูเครนยังคงต้องการอาวุธเพิ่มเติมเพื่อต่อสู้กับกองกำลังรัสเซีย หากยูเครนประสบความสำเร็จในการจัดหาอาวุธที่เหมาะสม แนวโน้มการต่อสู้และยุทธศาสตร์การรบในปี 2023 จะแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
“ทหารรัสเซียที่เสียชีวิตหรือบาดเจ็บมีจำนวนใกล้ 180,000 นาย” พลเอกคริสตอฟเฟอร์สันกล่าว โดยไม่ได้ระบุว่าตัวเลขทหารรัสเซียและยูเครนที่เสียชีวิตหรือบาดเจ็บจากสงครามนี้คำนวนด้วยวิธีใด
แต่ถึงแม้รัสเซียสูญเสียอย่างหนักจากสงครามนี้ ผู้บัญชาการทหารบกของนอร์เวย์ก็มั่นใจว่า กองทัพรัสเซียสามารถทำสงครามต่อไปได้อีกนาน เนื่องจากรัสเซียสามารถระดมกำลังพลและผลิตอาวุธได้เอง สิ่งที่สร้างความกังวลมากที่สุดในตอนนี้คือ ยูเครนจะสามารถตั้งรับการโจมตีจากรัสเซียได้นานแค่ไหน
เมื่อเดือนก.ย.ปีที่แล้ว วาเลรี ซาลูจนี ผู้บัญชาการกองทัพบกยูเครน ร่วมกับ มิคาอิโล ซาโบรดสกี รองประธานคณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติ กลาโหม และข่าวกรองของรัฐสภายูเครน ได้เขียนบทความประเมินสถานการณ์ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครนว่าจะมีทิศทางอย่างไรต่อไป รวมถึงคำถามสำคัญคือ ‘จะจบ
เมื่อไร’
ทั้งสองคนประเมินว่า มีเหตุผลหลายประการที่ทำให้เชื่อได้ว่าสงครามจะไม่สิ้นสุดภายในปี 2022 แน่นอน
ซาลูจนีและซาโบรดสกีเห็นตรงกันว่า ยูเครนยังคงต้องการอาวุธเพิ่มเติมเพื่อต่อสู้กับกองกำลังรัสเซีย หากยูเครนประสบความสำเร็จในการจัดหาอาวุธที่เหมาะสม แนวโน้มการต่อสู้และยุทธศาสตร์การรบในปี 2023 จะแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
