สหราชอาณาจักรกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการดื่มแอลกอฮอล์ในเด็กที่ ‘เลวร้าย’ ที่สุดทั่วโลก และเด็กมากกว่าครึ่งหนึ่งในอังกฤษ สกอตแลนด์ และเวลส์ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เมื่ออายุเพียง 13 ปีเท่านั้น
การศึกษาครั้งนี้ซึ่งเป็นหนึ่งในการศึกษาที่ใหญ่ที่สุดโดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ศึกษาข้อมูลในปี 2021-2022 ของเด็กอายุ 11, 13 และ 15 ปีจำนวน 280,000 คนจาก 44 ประเทศและภูมิภาคที่ถูกถามเกี่ยวกับการดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ และบุหรี่ไฟฟ้า
ผลการวิเคราะห์พบว่า
- สหราชอาณาจักรมีปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการดื่มแอลกอฮอล์ในทางที่ผิด (alcohol abuse) ทั้งที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
- ในจำนวนนี้พบว่าเป็นเด็กผู้ชายมากกว่า 1 ใน 3 ราว 35%
- เด็กผู้หญิงที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เมื่อตอนอายุ 11 ปี 34%
- ส่วนเด็กผู้หญิงที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตอนอายุ 13 ปี 57%
- ขณะที่เด็กผู้ชาย 50% ในอังกฤษก็ดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดที่รวมอยู่ในการวิเคราะห์
- เด็กผู้หญิงมากกว่าครึ่งราว 55% และเด็กผู้ชาย 56% ในอังกฤษที่มาจากครอบครัวที่มีรายได้สูงกล่าวว่าพวกเขาดื่มแอลกอฮอล์ตลอดช่วงชีวิต เมื่อเทียบกับเด็กผู้หญิง 50% และเด็กผู้ชาย 39% ที่มาจากครอบครัวที่มีรายได้น้อย
- เด็กผู้หญิงอายุ 13 และ 15 ปีในสหราชอาณาจักรดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ และสูบบุหรี่ไฟฟ้ามากกว่าเด็กผู้ชายในวัยเดียวกัน
- เด็กผู้หญิง 40% ในอังกฤษและสกอตแลนด์เคยสูบบุหรี่ไฟฟ้าก่อนอายุ 15 ปี และสูบในอัตราที่สูงกว่าประเทศอื่นอย่างฝรั่งเศสและเยอรมนี
- ราว 30% ของเด็กผู้หญิงอายุ 15 ปี และ 17% ของเด็กผู้ชายอายุเท่ากันเคยสูบบุหรี่ไฟฟ้าในช่วง 30 วันที่ผ่านมาในอังกฤษ และในอัตราที่สูงกว่าประเทศอื่นๆ รวมถึงไอร์แลนด์ แคนาดา เดนมาร์ก นอร์เวย์ และโปรตุเกส
การศึกษานี้รวมข้อมูลจากเด็กมากกว่า 4,000 คนในอังกฤษ และประมาณ 4,000 คนในสกอตแลนด์และเวลส์
“การใช้สารอันตรายอย่างแพร่หลายในหมู่เด็กในหลายประเทศทั่วภูมิภาคยุโรป และที่อื่นๆ ถือเป็นภัยคุกคามร้ายแรงด้านสาธารณสุข…เมื่อพิจารณาว่าสมองยังคงพัฒนาได้ดีจนถึงช่วงอายุ 20 กลางๆ วัยรุ่นจำเป็นต้องได้รับการปกป้องจากผลกระทบของผลิตภัณฑ์ที่เป็นพิษและเป็นอันตราย น่าเสียดายที่เด็กๆ ในปัจจุบันต้องเผชิญกับการตลาดออนไลน์แบบกำหนดเป้าหมายของผลิตภัณฑ์ที่เป็นอันตรายอยู่ตลอดเวลา…” ดร.ฮานส์ คลูเกอ ผู้อำนวยการภูมิภาคยุโรปของ WHO กล่าว
ดร.โจ อินช์ลีย์ ผู้ประสานงานระหว่างประเทศสำหรับการศึกษาวิจัยจากมหาวิทยาลัยกลาสโกว์กล่าวว่า “ผลการศึกษานี้ ‘น่ากังวล’ เนื่องจากแสดงให้เห็นว่าสหราชอาณาจักรมีอัตราการดื่มและสูบบุหรี่ในหมู่เด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเลวร้ายที่สุดแห่งหนึ่งทั่วโลก”
“เราเห็นการเริ่มต้นดื่มตั้งแต่เนิ่นๆ ในหมู่เด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงในอังกฤษในระดับที่สูงมาก ทำไมมันถึงสูงกว่าประเทศอื่นๆ มาก ฉันไม่รู้จริงๆ แต่แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่เราต้องพิจารณาและแก้ไข ข้อกังวลใหญ่คือการสูบบุหรี่ไฟฟ้า แต่ก็มีหลักฐานบางอย่างที่แสดงว่าการดื่มแอลกอฮอล์อาจกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะในหมู่เด็กผู้หญิงในอังกฤษ”
ดร.อินช์ลีย์กล่าว
ขณะที่ ดร.แคเธอรีน เซเวรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสถาบันศึกษาแอลกอฮอล์กล่าวว่า “แม้ว่าการดื่มของเยาวชนจะลดลง แต่สหราชอาณาจักรเป็นประเทศที่ดื่มหนักที่สุดประเทศหนึ่งในโลก และเห็นได้ชัดว่าอังกฤษมีอัตราของเด็กดื่มแอลกอฮอล์สูงที่สุดในยุโรป”
“ผู้คนมักจะมีการรับรู้ว่าการให้เด็กดื่มในปริมาณปานกลางเป็นวิธีที่ดีในการสอนนิสัยการดื่มที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นแก่พวกเขา สิ่งนี้ไม่เป็นความจริง ยิ่งเด็กดื่มเร็วเท่าไร พวกเขาก็จะมีปัญหาเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงบั้นปลายชีวิตมากขึ้นเท่านั้น”
ดร.เซเวรี กล่าว
โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า “คำแนะนำด้านสุขภาพมีความชัดเจน การสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่ไฟฟ้า และการดื่มสุราทั้งที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ อาจส่งผลเสียต่อเยาวชนและพัฒนาการของพวกเขาได้ นั่นคือสาเหตุว่าทำไมการขายผลิตภัณฑ์เหล่านี้จึงมีข้อจำกัดด้านอายุ”
“ในฐานะรัฐบาล เรากำลังสร้างคนรุ่นใหม่ที่ ‘ปลอดบุหรี่’ (smoke-free generation) แห่งแรกของสหราชอาณาจักร เราร่างกฎหมายยาสูบและบุหรี่ไฟฟ้า และจะถือเป็นความผิดหากมีการขายผลิตภัณฑ์ยาสูบให้กับใครก็ตามที่เกิดหลังวันที่ 1 มกราคม 2009 รวมถึงอำนาจในการจำกัดรสชาติ และบรรจุภัณฑ์ของบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อลดความน่าดึงดูดใจต่อเด็ก”
