ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเรามักได้ยินเรื่องราวเล่าขานต่อๆ กันมาของบ้าน คฤหาสน์ หรือแม้แต่เมืองผีสิงมาโดยตลอด บางแห่งกลายเป็นที่รกร้างและกลุ่มคนบางส่วนมักชอบเข้าไปล่าท้าผี บางแห่งก็ถูกปิดตายไว้เป็นเขตหวงห้าม ทว่าเมืองแห่งหนึ่งในอเมริกาที่จะกล่าวต่อไปนี้เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันมืดมิด ซึ่งหากเข้าไปเยี่ยมชมจะถือเป็นสิ่ง ‘ผิดกฎหมาย’ อีกด้วย
ผู้คนต่างเล่าเรื่องผีเกี่ยวกับ ‘เมืองแห่งหนึ่ง’ ในรัฐคอนเนตทิคัตมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1740 แต่คำถามก็คือ ‘เรื่องราวเหล่านั้นเป็นเพียงแค่นิทานจริงหรือ?’
ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด คุณจะไม่ได้รับอนุญาตให้แม้แต่การก้าวเท้าเหยียบเข้าไปชมเมืองแห่งนี้เลยเพราะถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และอย่าได้อะไรพิเรนทร์เพื่อที่จะสำรวจเมืองนี้เชียว ***หากคุณอ่านบทความนี้แล้ว คุณอาจจะไม่กล้าย่างเท้าเข้าไปเลยด้วยซ้ำ
เรื่องมันมีอยู่ว่า…
ย้อนกลับไปในช่วงต้นทศวรรษที่ 1740 มีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งในตระกูลดัดลีย์ได้เข้ามาตั้งรกรากอยู่บริเวณหุบเขาที่เรียกว่า ‘Dark Entry Forest’ (หรือที่เรารู้จักในปัจจุบันว่าติดอันดับป่าเฮี้ยน) ในพื้นที่ส่วนหนึ่งของเมืองคอร์นวอลล์ รัฐคอนเนตทิคัต และตั้งชื่อเมืองว่า ‘ดัดลีย์ทาวน์’
จนถึงศตวรรษที่ 19 สถานที่แห่งนี้กลับถูกใช้เป็นฟาร์ม ขณะที่ชาวบ้านจำนวนมากต่างออกไปค้นหาพื้นที่ที่มีที่ดินอุดมสมบูรณ์มากกว่า นั่นอาจฟังดูแล้วมันก็ดูสมเหตุสมผลไม่เกี่ยวกับผีสักหน่อย แต่เปล่าเลยเหตุผลจริงๆที่ซ่อนอยู่ถูกเปิดเผยว่าเพราะ ‘ผู้คนในเมืองตายเป็นจำนวนมากเพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้นล่ะ?’
เมื่อ ‘นาธาเนียล คาร์เตอร์’ ผู้อยู่อาศัยคนหนึ่งย้ายไปเมืองนี้ ญาติของเขา 6 คนก็ป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคอหิวาตกโรค จนสมาชิกในครอบครัวที่เหลือต้องออกจากเมือง และจะถูกฆ่าเมื่อพวกเขานั้นตั้งรกรากบนที่ดินใหม่ในนิวยอร์ก
ส่วนเรื่องราวของชายอีกคนหนึ่งชื่อ ‘เกอร์ชอน ฮอลลิสเตอร์’ ซึ่งกำลังสร้างโรงนาให้ ‘วิลเลียม แทนเนอร์’ เพื่อนบ้านของเขา แต่ฮอลลิสเตอร์กลับเสียชีวิตกะทันหันในเมืองดัดลีย์ทาวน์ จากนั้นก็มีข่าวลือว่าแทนเนอร์เองก็หมกมุ่นอยู่กับการพูดเกี่ยวกับ ‘สิ่งมีชีวิตลึกลับ’ ที่ออกมาจากป่าในเวลากลางคืน โดยคำกล่าวอ้างดังกล่าวก็ได้ยินมาจากเพื่อนบ้านของเขาอีกทีเหมือนกัน
ในปี 1804 นายพลคนหนึ่งชื่อ ‘เฮอร์แมน สวิฟต์’ ได้เข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองนี้ แต่ ‘ซารา ฟาเยห์’ ภรรยาของเขา กลับถูกฟ้าผ่าขณะอยู่ที่ระเบียงหน้าบ้านจนเสียชีวิต ซึ่งทำให้นายพลเสียใจมากจนตายตามไป
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ชาวบ้านเสียชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงมีเรื่องราวเกี่ยวกับการเห็นสิ่งมีชีวิตตามแนวต้นไม้รอบๆ เมืองเพิ่มมากขึ้น กระทั่งเมื่อถึงปี 1900 ชาวบ้านที่เมืองนี้เกือบทั้งหมดก็เสียชีวิตหรือย้ายออกไปทำให้เมืองถูกทิ้งร้างภายหลังจากสมาชิกในครอบครัวสุดท้ายที่เหลืออยู่เสียชีวิตหรือหายตัวไป
ไม่กี่ปีต่อมา ‘ดร.วิลเลียม คลาร์ก’ ผ่านเข้ามาเมืองนี้โดยบังเอิญและต้องการให้ที่นี่เป็นบ้านหลังที่ 2 ทั้งยังเข้ามาอนุรักษ์ป่าอันมืดมิดโดยรอบ แต่ทว่าหลังจากเดินทางไปนิวยอร์กในปี 1918 และกลับมาที่บ้านก็พบว่าภรรยาของเขากำลังทุกข์ทรมาน ซึ่งมีคำกล่าวอ้างว่ามี ‘สิ่งมีชีวิตลึกลับอยู่ในป่า’ จากนั้น คลาร์กย้ายออกจากดัดลีย์ทาวน์
แล้วคุณล่ะเชื่อตำนานสิ่งมีชีวิตลึกลับนี้หรือไม่? มันเป็นเรื่องจริงใช่ไหม? มันเป็นแค่เรื่องบังเอิญ? หรือมันมีสิ่งลี้ลับอยู่จริงๆ นะ?
ปัจจุบัน มีเพียงหลุมใต้ดินและฐานหินเพียงไม่กี่แห่งที่ยังคงอยู่ในดัดลีย์ทาวน์ ซึ่งแน่นอนว่าการบุกรุกเข้าไปที่เมืองหรือในป่าทึบแห่งนี้ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
แต่ถึงกระนั้น ใครหลายๆ คนก็ยังคงพยายามจะเข้าไป และมีรายงานว่าพวกเขาเหล่านั้นรู้สึกว่ามีมือปีศาจมาสัมผัสพวกเขาในขณะที่พวกเขากำลังจะบุกเข้ามาด้วย
