สิงคโปร์ลุยโครงการสีเคลือบเย็นสะท้อนความร้อนในอาคารช่วยเย็นลง 2 องศาฯ

4 ก.พ. 2568 - 05:11

  • โครงการทาสีสะท้อนความร้อนให้กับอาคารเคหะสิงคโปร์ (HDB) ทุกแห่งจะเริ่มภายในปี 2030 หลังจากที่โครงการนำร่องในละแวกแทมปิเนสพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสีเคลือบเย็นช่วยลดอุณหภูมิโดยรอบได้มากถึง 2 องศาเซลเซียส

  • การใช้สีสะท้อนความร้อนที่เพิ่มมากขึ้นเกิดขึ้นหลังจากที่อาคาร HDB และสภาเมืองแทมปิเนสเปิดตัวโครงการนำร่องเป็นเวลา 2 ปีในปี 2021 เพื่อทาสีเคลือบเย็นบริเวณด้านหน้าอาคารของ HDB ประมาณ 130 อาคาร

heat_reflective_paint_initiative_rolled_out_to_all_hdb_estates_by_2030_SPACEBAR_Hero_fc202b36ef.jpg

โครงการทาสีสะท้อนความร้อนให้กับอาคารเคหะสิงคโปร์ (HDB) ทุกแห่งจะเริ่มภายในปี 2030 หลังจากที่โครงการนำร่องในละแวกแทมปิเนสแสดงให้เห็นแล้วว่าสีเคลือบเย็นช่วยลดอุณหภูมิโดยรอบได้มากถึง 2 องศาเซลเซียส 

โครงการนี้จะนำเสนอต่อสภาเมืองทั้งหมดในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยรัฐบาลจะเป็นผู้จ่ายค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากการใช้สีเคลือบเย็นซึ่งมีราคาแพงกว่าสีธรรมดาทั่วไป 

ตันเกียตฮาว รัฐมนตรีอาวุโสด้านการพัฒนาแห่งชาติกล่าวเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ว่า “การขยายขอบเขตของแผนริเริ่มนี้ไปยังพื้นที่ที่มีอยู่ทั้งหมด จะทำให้รัฐบาลต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2 พันล้านบาท)” 

ขณะที่ HDB กล่าวในแถลงการณ์ว่า “อาคารที่พักสาธารณะจะติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าอัจฉริยะตั้งแต่ไตรมาสที่สองของปี 2025 เพื่อติดตามรูปแบบการใช้พลังงานและประสิทธิภาพของบริการทั่วไป เช่น ลิฟต์ ไฟ และปั๊มน้ำในแต่ละอาคาร” 

โครงการดังกล่าวเป็นแผน 10 ปีที่เปิดตัวในปี 2020 เพื่อทำให้อาคาร HDB มีความยั่งยืนและน่าอยู่มากขึ้นภายในปี 2030 ด้วยการทำให้เมืองเย็นลง ลดการใช้พลังงาน และรีไซเคิลน้ำฝน 

การใช้สีสะท้อนความร้อนที่เพิ่มมากขึ้นเกิดขึ้นหลังจากที่อาคาร HDB และสภาเมืองแทมปิเนสเปิดตัวโครงการนำร่องเป็นเวลา 2 ปีในปี 2021 เพื่อทาสีเคลือบเย็นบริเวณด้านหน้าอาคารของ HDB ประมาณ 130 อาคาร 

HDB เผยว่า ทางโครงการได้ทาสีเคลือบเย็นไป 88 บล็อกแล้ว และกำหนดให้ทาสีบล็อกที่เหลือให้เสร็จภายในสิ้นปี 2025 

สารเติมแต่งในสีเคลือบเย็นจะสะท้อนความร้อนจากดวงอาทิตย์เพื่อลดการดูดซับความร้อนบนพื้นผิว ทำให้ความร้อนถูกปล่อยออกมาน้อยลง นอกจากนี้ตัวอาคารที่ทาสีเคลือบเย็นยังใช้ไฟฟ้าน้อยลงอีกด้วย เนื่องจากต้องใช้พลังงานจากเครื่องปรับอากาศน้อยลงในการทำให้ห้องชุดเย็นลง 

HDB ตั้งเป้าที่จะได้รับการรับรอง ‘Green Mark Super Low Energy’ (SLE) จากหน่วยงานควบคุมอาคารและการก่อสร้าง (BCA) สำหรับโครงการเชิงพาณิชย์ 4 แห่งภายในปี 2025 ก่อนที่จะดำเนินการริเริ่มโครงการสีเขียวอย่างต่อเนื่องให้กับโครงการโดยเฉลี่ย 8 แห่งต่อปี  

BCA Green Mark เป็นระบบการให้คะแนนเพื่อประเมินอาคารตามผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประสิทธิภาพการทำงาน โครงการ SLE หมายถึงอาคารที่ได้รับ Green Mark ซึ่งประหยัดพลังงานได้อย่างน้อย 60% เมื่อเทียบกับระดับในปี 2005 ซึ่งเป็นปีที่ BCA กำหนดให้มีการรับรอง Green Mark 

นอกจากนี้ จะมีการจัดตั้งจุดส่งคืนภาชนะเครื่องดื่มมากกว่า 1,000 จุดทั่วสิงคโปร์ รวมถึงอาคารของ HDB และของสภาเมือง เพื่อสนับสนุนโครงการส่งคืนภาชนะเครื่องดื่มของสำนักงานสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ 

ภายใต้โครงการนี้ ผู้บริโภคจะต้องจ่ายเงินเพิ่ม 10 เซ็นต์สำหรับเครื่องดื่มบรรจุขวด หรือกระป๋องขนาด 150 มิลลิลิตรถึง 3 ลิตร แต่จะได้รับเงินมัดจำคืนเต็มจำนวนเมื่อนำภาชนะเปล่ามาส่งคืนที่จุดที่กำหนด 

HDB แถลงว่าได้อัปเดตแผนงานที่มีอยู่ภายใต้โครงการเมืองสีเขียว โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ (ตัวเลขอัปเดตเมื่อช่วงสิ้นเดือนมกราคม 2025) : 

  • การเพิ่มพื้นที่สีเขียว : บริเวณชั้นบนสุดของลานจอดรถหลายชั้น 24 แห่งของ HDB เช่น สวนสาธารณะ 
  • แผงโซลาร์เซลล์ : อาคาร HDB กว่า 4,300 แห่งได้รับการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อจ่ายไฟให้กับบริการส่วนกลาง 
  • ระบบสร้างพลังงานลิฟต์ : มีการติดตั้งระบบนี้เพิ่มเติมในลิฟต์มากกว่า 500 ตัว ซึ่งจะกู้คืนพลังงานที่สร้างขึ้นเมื่อลิฟต์เคลื่อนที่และเบรกเพื่อจ่ายพลังงานให้กับบริการอื่นๆ ภายในลิฟต์ เช่น แสงสว่าง 
  • จุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) : มีการติดตั้งเครื่องชาร์จ EV มากกว่า 3,600 จุดในอาคารจอดรถของ HDB กว่า 850 แห่ง

 Shutterstock / WONG YR

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์