‘The Great Parterre’ สวนที่ถูกซ่อนในคฤหาสน์หรู
‘คฤหาสน์แช็ทสเวิร์ธ’ (Chatsworth House) คฤหาสน์หรูหราโอ่อ่า ตั้งอยู่ในเขตดาร์บิเชอร์ ประเทศอังกฤษ เป็นที่อยู่อาศัยของดยุคและดัชเชสแห่งเดวอนเชอร์ (Duke and Duchess of Devonshire) ซึ่งได้รับการสืบทอดมาถึง 16 รุ่นของตระกูลคาเวนดิช (Cavendish)
แต่ใครจะไปรู้ว่าเบื้องหลังความโอ่อ่าของคฤหาสน์หลังนี้จะซ่อนซากสวนอันวิจิตรตระการตาเอาไว้นานถึง 300 ปีตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17
แต่เนื่องด้วยฝนที่ตกอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับคลื่นความร้อนแผ่ปกคลุมอังกฤษอย่างรุนแรงจนอุณหภูมิสูงทะลุเกิน 40 องศาเซลเซียสในหลายพื้นที่ เป็นสาเหตุที่ทำให้สนามหญ้าถูกไฟไหม้ และเผยให้เห็นโครงร่างซากสวนเก่าแก่ขนาดใหญ่ที่ซ่อนอยู่ด้านล่าง
‘คฤหาสน์แช็ทสเวิร์ธ’ (Chatsworth House) คฤหาสน์หรูหราโอ่อ่า ตั้งอยู่ในเขตดาร์บิเชอร์ ประเทศอังกฤษ เป็นที่อยู่อาศัยของดยุคและดัชเชสแห่งเดวอนเชอร์ (Duke and Duchess of Devonshire) ซึ่งได้รับการสืบทอดมาถึง 16 รุ่นของตระกูลคาเวนดิช (Cavendish)
แต่ใครจะไปรู้ว่าเบื้องหลังความโอ่อ่าของคฤหาสน์หลังนี้จะซ่อนซากสวนอันวิจิตรตระการตาเอาไว้นานถึง 300 ปีตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17
แต่เนื่องด้วยฝนที่ตกอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับคลื่นความร้อนแผ่ปกคลุมอังกฤษอย่างรุนแรงจนอุณหภูมิสูงทะลุเกิน 40 องศาเซลเซียสในหลายพื้นที่ เป็นสาเหตุที่ทำให้สนามหญ้าถูกไฟไหม้ และเผยให้เห็นโครงร่างซากสวนเก่าแก่ขนาดใหญ่ที่ซ่อนอยู่ด้านล่าง

สวนเก่าแก่แห่งนี้ออกแบบเป็นสไตล์ยุโรป ขนาด 105 เอเคอร์ ที่รู้จักกันในชื่อ ‘Great Parterre’ ในปี 1699 สำหรับดยุคที่ 1 แห่งเดวอนเชอร์ เดิมทีถูกปกคลุมด้วยหญ้าในปี 1730 ซึ่งจากแผนภาพจะเห็นเป็นเตียงดอกไม้ และเส้นทางคดเคี้ยวบนสนามหญ้า
‘สตีฟ พอร์เตอร์’ หัวหน้าสวนและภูมิทัศน์ที่คฤหาสน์แช็ทสเวิร์ธ เปิดเผยว่า “ขณะนี้เราสามารถเห็นรูปแบบที่ซับซ้อนของสวนประวัติศาสตร์ได้อย่างชัดเจน คลื่นความร้อนในปัจจุบันทำให้เราเจอปัญหาจุดอื่นๆ ในสวน แต่ที่นี่ได้เผยให้เห็นอัญมณีที่ซ่อนอยู่ซึ่งไม่ได้ถูกดูแลมาเกือบ 300 ปีแล้ว”
เขากล่าวเสริมว่า “เรารู้ว่ามีสวนอยู่ที่นั่น แต่แน่นอนว่าปกติแล้วมันเป็นสนามหญ้า ดังนั้นทุกอย่างจึงถูกซ่อนไว้ และถูกเปิดเผยในช่วงที่อากาศร้อนจัดเท่านั้น ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอาจเกิดขึ้นบ่อยในปีต่อๆ ไป และจะหายไปอีกครั้งเมื่ออุณหภูมิลดลง ขณะเดียวกันฝนก็ตกลงมาบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องที่วิเศษมากเหมือนเราได้มองย้อนกลับไปในอดีต”
‘สตีฟ พอร์เตอร์’ หัวหน้าสวนและภูมิทัศน์ที่คฤหาสน์แช็ทสเวิร์ธ เปิดเผยว่า “ขณะนี้เราสามารถเห็นรูปแบบที่ซับซ้อนของสวนประวัติศาสตร์ได้อย่างชัดเจน คลื่นความร้อนในปัจจุบันทำให้เราเจอปัญหาจุดอื่นๆ ในสวน แต่ที่นี่ได้เผยให้เห็นอัญมณีที่ซ่อนอยู่ซึ่งไม่ได้ถูกดูแลมาเกือบ 300 ปีแล้ว”
เขากล่าวเสริมว่า “เรารู้ว่ามีสวนอยู่ที่นั่น แต่แน่นอนว่าปกติแล้วมันเป็นสนามหญ้า ดังนั้นทุกอย่างจึงถูกซ่อนไว้ และถูกเปิดเผยในช่วงที่อากาศร้อนจัดเท่านั้น ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอาจเกิดขึ้นบ่อยในปีต่อๆ ไป และจะหายไปอีกครั้งเมื่ออุณหภูมิลดลง ขณะเดียวกันฝนก็ตกลงมาบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องที่วิเศษมากเหมือนเราได้มองย้อนกลับไปในอดีต”

พอร์เตอร์บอกกับสำนักข่าว BBC ว่า บริเวณศูนย์กลางของสวนได้รับการออกแบบให้มองเห็นได้จากตัวคฤหาสน์ ซึ่งเป็นกลยุทธ์เพื่ออวดความมั่งคั่งของดยุค
เขากล่าวต่อว่า ไม่มีแผนที่จะคืนสภาพสวนในอนาคต แม้ว่าจะมีการร้องขอจากสาธารณชนให้ทำเช่นนั้น แต่ทีมอสังหาริมทรัพย์จะพิจารณาให้มีการตัดหญ้าในสนาม เพื่อแสดงโครงสร้างของสวนอย่างชัดเจน
พอร์เตอร์กล่าวทิ้งท้ายว่า ความวิเศษที่เขาค้นพบ คือ สวนที่คฤหาสน์แช็ทสเวิร์ธมีภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และเขาคิดว่ามันเป็นความมหัศจรรย์ที่มีความลับซ่อนอยู่ด้วย
เขากล่าวต่อว่า ไม่มีแผนที่จะคืนสภาพสวนในอนาคต แม้ว่าจะมีการร้องขอจากสาธารณชนให้ทำเช่นนั้น แต่ทีมอสังหาริมทรัพย์จะพิจารณาให้มีการตัดหญ้าในสนาม เพื่อแสดงโครงสร้างของสวนอย่างชัดเจน
พอร์เตอร์กล่าวทิ้งท้ายว่า ความวิเศษที่เขาค้นพบ คือ สวนที่คฤหาสน์แช็ทสเวิร์ธมีภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และเขาคิดว่ามันเป็นความมหัศจรรย์ที่มีความลับซ่อนอยู่ด้วย

ปัจจุบันสวนแห่งนี้อยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบเกือบ 200 ปี โดยจะปรับปรุงพื้นที่ในส่วนของสวนหิน ‘Rock Garden’ และมีการสร้างพื้นที่ใหม่ขนาด 15 เอเคอร์ที่เรียกว่า ‘Arcadia’
อย่างไรก็ดี สวนมหัศจรรย์แห่งกาลเวลานี้ นอกจากความสวยงามวิจิตรตระการตาแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงความมั่งคั่งของดยุคและดัชเชสแห่งเดวอนเชอร์ในยุคนั้นอีกด้วย
การปรากฏขึ้นของสวนที่ถูกซ่อนไว้อย่างยาวนานกำลังอยู่ในระหว่างการฟื้นฟูใหม่ในบางพื้นที่และสร้างความตื่นตาตื่นใจให้ชาวอังกฤษและชาวโลกไม่น้อยเลย
อย่างไรก็ดี สวนมหัศจรรย์แห่งกาลเวลานี้ นอกจากความสวยงามวิจิตรตระการตาแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงความมั่งคั่งของดยุคและดัชเชสแห่งเดวอนเชอร์ในยุคนั้นอีกด้วย
การปรากฏขึ้นของสวนที่ถูกซ่อนไว้อย่างยาวนานกำลังอยู่ในระหว่างการฟื้นฟูใหม่ในบางพื้นที่และสร้างความตื่นตาตื่นใจให้ชาวอังกฤษและชาวโลกไม่น้อยเลย
