วันเสาร์ที่ผ่านมาเกิดความขัดแย้งรุนแรงขึ้นอีกที่หนึ่ง เมื่อกลุ่มฮามาสซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ในฉนวนกาซาในปาเลสไตน์เปิดฉากโจมตีอิสราเอลที่ขัดแย้งกันมายาวนานด้วยการถล่มยิงจรวดหลายพันลูกจากฉนวนกาซาเข้าไปในดินแดนของอิสราเอล และยังส่งบรรดานักรบแทรกซึมเข้าไปตามแนวพรมแดนหลายจุด ทั้งทางบก ทางอากาศ และทางน้ำ ทำให้อิสราเอลไม่ทันตั้งตัว โดย เดวิด คาห์ลิฟา ผู้เชี่ยวชาญด้านตะวันอกกลางถึงกับบอกว่านี่เป็น “ความล้มเหลวครั้งประวัติศาสตร์” สำหรับหน่วยข่าวกรองอิสราเอล
1.กลุ่มฮามาสเริ่มเปิดฉากโจมตีราว 06.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น (10.30 น.ตามเวลาไทย) ด้วยการยิงจรวดเข้ามาในอิสราเอล เป้าหมายยิงไกลถึงกรุงเทลอาวีฟและเยรูซาเล็ม โดยจรวดบางลูกสามารถเล็ดลอด Iron Dome ซึ่งเป็นโดมป้องกันภัยทางอากาศสำหรับสกัดขีปนาวุธเข้ามาถล่มอาคารบ้านเรือน
2.ราว 07.40 น.ตามเวลาท้องถิ่นกลุ่มนักรบฮามาสแทรกซึมเข้าอิสราเอลโดยใช้ทั้งบานพาหนะทางบก พาราไกลเดอร์ และเรือ บางจุดยังใช้รถแทรกเตอร์พังรั้วรักษาความปลอดภัยตามแนวชายแดน แล้วโจมตีเมืองต่างๆ ในอิสราเอลที่อยู่ใกล้เคียงฉนวนกาซาและป้อมทหาร รวมทั้งยิงใส่ชาวบ้านและคนที่ผ่านไปมา โดยกลุ่มมือปืนฮามาสกระจายตัวอยู่นอกฉนวนกาซา 22 จุด
3. กลุ่มฮามาสเรียกปฏิบัติการครั้งนี้ว่า “Operation Al-Aqsa Flood” และรียกร้องให้นักรบที่ต่อต้านอิสราเอลในเขตเวสต์แบงก์และชาติอิสลามและอาหรับเข้าร่วมการสู้รบครั้งนี้ โดย อิสมาอิล ฮานิเยห์ หัวหน้ากลุ่มฮามาสประกาศว่า ทางกลุ่ม “กำลังเข้าใกล้ชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่”
4.โมฮัมเหม็ด เดอิฟ หัวหน้ากลุ่มเงาของกองทัพฮามาสให้เหตุผลในการโจมตีครั้งนี้ว่า เพื่อตอบโต้การปิดล้อมกาซามา 16 ปี ต่อการจู่โจมในเขตเวสต์แบงก์โดยอิสราเอลในช่วงปีที่ผ่านมา ต่อความรุนแรงที่อัลอัคซอซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวยิวในเยรูซาเล็ม
5.ซาเลห์ อัล-อารูรี รองหัวหน้ากลุ่มฮามาสด้านการเมืองเผยกับ Al-Jazeera TV ว่ากลุ่มฮามาสมีแผนสู้ระยะยาว “เราพร้อมทุกทางเลือก รวมทั้งการทุ่มกำลังสู้สุดตัว เราพร้อมที่จะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อเกียรติและเสรีภาพของคนของเรา”
6.กลุ่ม Ezzedine al-Qassam Brigades ซึ่งเป็นกลุ่มย่อยของฮามาสอ้างว่า ทางกลุ่มได้ยิงจรวดถล่มอิสราเลกว่า 5,000 ลูก แต่ฝั่งอิสราเอลแย้งว่านับจรวดที่เข้ามาได้กว่า 3,000 ลูก
7.09.45 น. อิสราเอลตอบโต้ด้วยปฏิบัติการ “Operation Iron Swords” โจมตีทางอากาศถล่มใส่ที่มั่นของกลุ่มฮามาส นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลประกาศว่าอิสราเอลอยู่ในภาวะสงครามกับฮามาสและสั่งให้ประชาชนอพยพออกจากฉนวนกาซา และว่า “ศัตรูจะต้องชดใช้แบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน” ทั้งยังประกาศกร้าวว่าจะถล่มฐานที่มั่นของฮามาสในฉนวนกาซาให้ราบเป็นหน้ากลอง
8.กระทรวงการต่างประเทศอิสราเอลผยว่า ชาวอิสราเอลเสียชีวิตกว่า 300 คน บาดเจ็บอีกอย่างน้อย 1,500 คน ส่งให้ให้การโจมตีครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในอิสราเอลในรอบหลายทศวรรษ ส่วนกระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์เผยว่า ผู้คนในฉนวนกาซาเสียชีวิตอย่างน้อย 232 คนจากปฏิบัติการตอบโต้ของอิสราเอล การโจมตีครั้งนี้ยังส่งผลกระทบต่อการเดินทางที่สนามบินเทลอาวีฟ สายการบินหลายสายต้องยกเลิกเที่ยวบิน
9.นักรบกลุ่มฮามาสยังจับทั้งพลเรือนและทหารเป็นตัวประกัน บัญชีโซเชียลมีเดียของกลุ่มฮามาสโพสต์คลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นว่ามีตัวประกันถูกนำตัวเข้าไปยังฉนวนกาซาขณะยังมีชีวิตอยู่
10.ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ประณาม “การโจมตีที่น่าตกใจต่ออิสราเอลโดยกลุ่มก่อการร้ายฮามาส” และว่า “อิสราเอลมีสิทธิ์ปกป้องตนเองและประชาชน การสนับสนุนด้านความมั่นคงของอิสราเอลของรัฐบาลของผมจะเข้มแข็งและไม่สั่นคลอน” ขณะที่ผู้นำสูงสุดของอิหร่านซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมากับอิสราเอลประกาศว่า เขา “ภูมิใจ” กับการกระทำของฮามาส ส่วนกลุ่มก่อการร้ายฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนชื่นชมกลุ่มฮามาสว่าเป็น “ปฏิบัติการที่กล้าหาญ”
11.สำนักข่าว Al Jazeera รายงานว่า ข้อเท็จจริงที่กลุ่มติดอาวุธฮามาสตัดสินใจเปิดการโจมตีด้วยการใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลนั้น มีนัยที่สำคัญมาก โดยปกติแล้วฮามาสจะใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลเมื่อใกล้สิ้นสุดความรุนแรง เช่นเดียวกับกรณีการเผชิญหน้ากันเมื่อปี 2021 แต่ปฏิบัติการทางทหารในครั้งนี้ของกลุ่มฮามาสกลับเริ่มต้นด้วยการยิงขีปนาวุธพิสัยไกลก่อน ซึ่งเป็นการเริ่มต้นการโจมตีในระดับสูงสุด
12.ปฏิบัติการครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากเกิดความรุนแรงเพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเขตเวสต์แบงก์ ชายแดนกาซา และการปะทะกันที่อัลอัคซอในเยรูซาเล็ม ในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ ทั้งยังเกิดขึ้นเพียง 1 วันหลังจากวันครบรอบ 50 ปีที่อียิปต์และซีเรียเปิดปฏิบัติการโจมตีเมื่อปี 1973 จนนำมาสู่สงครามตะวันออกกลางครั้งใหญ่
13.สำนักข่าว BBC ระบุว่า การจับชาวอิสราเอลเป็นตัวประกันหมายความว่าความขัดแย้งครั้งนี้จะซับซ้อนกว่าครั้งก่อนๆ และว่า ความซับซ้อนของปฏิบัติการของกลุ่มฮามาสแสดงให้เห็นว่ามีการวางแผนมานานหลายเดือนแล้ว
14.กลุ่มฮามาสเข้าควบคุมฉนวนกาซาตั้งแต่ปี 2007 นำมาสู่การปิดล้อมฉนวนกาซาของอิสราเอล นับตั้งแต่นั้นมาอิสราเอลและฮามาสก็ปะทะกันเรื่อยมา การปะทะกันทางทหารครั้งล่าสุดเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาส่งผลให้ชาวปาเลสไตน์ 34 คน และอิสราเอลอีก 1 คนเสียชีวิต
15.อิสราเอลกับปาเลสไตน์ต่างก็อยากครอบครองเขตเวสต์แบงก์ซึ่งเป็นดินแดนระหว่างเยรูซาเล็มและชายแดนจอร์แดนที่อิสราเอลเข้าไปยึดครองตั้งแต่ปี 1967 ซึ่งมักจะมีการปะทะกันและการใช้ความรุนแรงแทบจะตลอดปี กลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์โดยเฉพาะที่ปฏิบัติการนอกเมืองเจนินและนาบลัสในเขตเวสต์แบงก์มักจะโจมตีทหารอิสราเอลและชาวยิวที่อาศัยในเขตเวสต์แบงก์ จนทางการอิสราเอลต้องบุกจู่โจมหลายครั้ง
16.สถานการณ์ในขณะนี้สุ่มเสี่ยงบานปลายได้ง่าย เนื่องจากรัฐบาลฝ่ายขวาจัดของอิสราเอลถูกหักหน้าจากการถูกโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัวและทำได้พียงตอบโต้กลับ ส่วนฝ่ายปาเลสไตน์ก็สิ้นหวังจากการยึดครองที่ไม่มีวันจบสิ้นในเขตเวสต์แบงก์และการปิดล้อมฉนวนกาซาของอิสราเอล
