ลูกเรือและผู้โดยสารทุกคนบนเครื่องบินเจ็ตของ ‘เจแปน แอร์ไลนส์’’ สามารถหลบหนีเหตุการณ์สุดอันตรายได้อย่าง ‘ปาฏิหาริย์’ หลังจากการชนกันบนรันเวย์ที่สนามบินฮาเนดะ ในกรุงโตเกียว ซึ่งเป็นเหตุให้ลูกเรือ 5 คนของเครื่องบินยามชายฝั่งเสียชีวิต
เครื่องบิน JAL เที่ยวบิน 516 ซึ่งเป็นเครื่องบินแอร์บัส A350-900 ไฟลุกท่วมหลังจากลงจอดได้ไม่นาน ขณะบินชนเครื่องบินยามชายฝั่งลำเล็กที่กำลังจะไปออกไปช่วยผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่คาบสมุทรโนโตะ
เมื่อไฟเริ่มลุกท่วมเครื่องบิน ผู้โดยสารทั้ง 379 คน ซึ่งในจำนวนนี้รวมเด็ก 8 คน และลูกเรือ 12 คน พากันหลบหนีออกจากห้องโดยสารที่เต็มไปด้วยควันไฟด้วยการไถสไลด์เป่าลมด้านหน้าเครื่อง หลังจากนั้นไม่นานเครื่องบินก็ถูกไฟไหม้จนหมด มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 14 ราย และมี 4 รายที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
ขณะที่ผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ราย ที่เสียชีวิตในเครื่องบินกองกำลังรักษาชายฝั่งชื่อ De Havilland Canada DHC-8 หรือที่เรียกกันว่า Dash-8 มีเพียงกัปตันของเครื่องบินลำนั้นที่สามารถเอาชีวิตรอดมาได้ แต่ก็มีอาการบาดเจ็บ
ชิเกโนริ ฮิราโอกะ หัวหน้าสำนักการบินพลเรือน กระทรวงคมนาคม กล่าวว่า การชนกันเกิดขึ้นเมื่อเครื่องบินโดยสารลงจอดบนรันเวย์ C ซึ่งเป็น 1 ใน 4 รันเวย์ของสนามบิน ซึ่งเป็นจุดที่เครื่องบินยามชายฝั่งกำลังเตรียมจะขึ้นบินด้วย
วินาทีอพยพ
ซาโตชิ ยามาเกะ วัย 59 ปี กำลังเดินทางกลับเมืองหลวงที่เขาทำงานในภาคโทรคมนาคม หลังจากไปเยี่ยมญาติที่บ้านเกิดของเขา เขาเล่าว่าจังหวะที่ล้อเครื่องบินลื่นไถลไปบนพื้นรันเวย์ เครื่องบินก็สั่นสะเทือนและมีเสียงดังปัง! จากนั้นเขาก็เห็นเครื่องยนต์กำลังมีไฟลุกไหม้อยู่นอกหน้าต่าง
สายการบิน ระบุว่า การชนกันเกิดขึ้นแทบจะทันทีหลังจากเครื่องบินลงจอดเมื่อเวลา 17.46 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) กัปตันได้รับอนุญาตให้ลงจอดได้ แต่ไม่น่าจะมองเห็นเครื่องบินลาดตระเวน Dash-8 ซึ่งมีขนาดเล็ก
เจ้าหน้าที่ระบุว่า พวกเขากำลังสืบสวนสถานการณ์เบื้องหลังเหตุเครื่องบินตก ซึ่งผู้เชี่ยวชาญต่างบอกว่าเป็นเรื่องผิดปกติอย่างมาก
ขณะที่เครื่องบินโดยสารไถลไป กัปตันเครื่องบินยามชายฝั่ง เก็นกิ มิยาโมโตะ วัย 39 ปี พยายามดึงตัวเองออกจากซากเครื่องบินและส่งสัญญาณวิทยุที่ฐานทัพของเขา
“เครื่องบินเกิดระเบิดบนรันเวย์ ผมหลบหนี และไม่ทราบสภาพของลูกเรือคนอื่นๆ” เขากล่าวพร้อมเสริมว่า หน่วยยามฝั่งระบุว่า ลูกเรืออีก 5 คน ซึ่งมีอายุระหว่าง 27 - 56 ปี เสียชีวิต
‘มันคือปาฏิหาริย์’
ห้องโดยสารของเครื่องบินโดยสารเริ่มเต็มไปด้วยควันอย่างรวดเร็ว ขณะที่ผู้โดยสารบางคนเกิดอาการวิตกกังวล บางคนวิ่งตามทางเดิน และบางคนก็อยู่กับเด็กๆ ที่ส่งเสียงร้อง
“โปรดพาฉันออกไปจากที่นี่” ผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนในวิดีโอที่แชร์กับ Reuters จากภายในเครื่องบิน “ทำไมไม่เปิดประตู” เด็กคนหนึ่งกรีดร้อง
“ผมคิดว่าผมกำลังจะตายจริงๆ” ซึบาสะ ซาวาดะ วัย 28 ปี ชาวโตเกียว ซึ่งกำลังเดินทางกลับจากไปเที่ยวพักผ่อนในซัปโปโรกับแฟนสาวกล่าว
“หลังจากเกิดอุบัติเหตุ ตอนแรกผมก็หัวเราะเล็กน้อยเมื่อเห็นประกายไฟออกมาจากเครื่องยนต์ แต่เมื่อไฟเริ่มลุกโหมขึ้น ผมพบว่ามันเป็นมากกว่าอะไรบางอย่าง” เขากล่าว
พนักงานบนเครื่องบินเรียกร้องให้ผู้คนอยู่ในความสงบ โดยกล่าวว่า ‘โปรดให้ความร่วมมือ’ ขณะที่ภายนอกหน่วยดับเพลิง 115 หน่วยถูกส่งไปยังที่เกิดเหตุเพื่อจัดการกับไฟที่เริ่มลามขึ้นที่ด้านหลังของเครื่องบิน และในที่สุดก็ลุกลามเครื่องบินทั้งลำในเปลวเพลิง
ยามาเกะ ซึ่งนั่งอยู่แถวหน้า กล่าวว่า แม้ว่าผู้โดยสารบางคนจะวิตกกังวลมาก แต่ลูกเรือก็รีบวางรางสไลด์อพยพ และผู้คนก็เริ่มลงจากเครื่องอย่างเป็นระเบียบ
สายการบินกล่าวว่า การอพยพเริ่มขึ้นเกือบจะในทันทีหลังจากที่เครื่องบินจอดนิ่ง และผู้โดยสารทุกคนถูกนำตัวไปยังที่ปลอดภัยภายในเวลาไม่ถึง 20 นาที
ภาพวิดีโอเผยให้เห็นผู้โดยสารกำลังอพยพอย่างสงบ โดยไม่มีกระเป๋าถือ ซึ่งหน่วยงานด้านการบินเตือนหลายต่อหลายครั้งว่า การหยุดรับสัมภาระบนเครื่องจะเสี่ยงต่อการเสียชีวิตระหว่างอพยพ
พอล เฮย์ส ผู้อำนวยการฝ่ายความปลอดภัยทางอากาศของบริษัทที่ปรึกษาด้านการบินในสหราชอาณาจักร กล่าวว่า ลูกเรือต้องทำงานได้อย่างดีเยี่ยม ดูเหมือนจะไม่มีกระเป๋าถือใดๆ เป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่ผู้โดยสารทั้งหมดลงจากเครื่องได้
เจ้าหน้าที่กระทรวงคมนาคมของญี่ปุ่นกล่าวในการบรรยายสรุปว่า ขั้นตอนการอพยพของสายการบินนั้นดำเนินการอย่างเหมาะสม
Photo by Richard A. Brooks / AFP