ฮุนเซน ประธานวุฒิสภาออกแถลงการณ์ผ่านโซเชียลมีเดียเมื่อเวลาประมาณ 8.30 น.(ตามเวลาท้องถิ่น) ระบุถึงมาตรการที่กัมพูชาจะบังคับใช้กับไทย หากไทยยังคงปิดด่านชายแดนที่ปิดโดยฝ่ายเดียว
“หากฝ่ายไทยยังปฏิเสธที่จะเปิดด่านชายแดนที่ปิดอยู่ฝ่ายเดียว กัมพูชาจะต้องดำเนินมาตรการดังนี้ :
- ประกาศระงับการนำเข้าสินค้าจากไทยเข้าสู่ตลาดกัมพูชา ซึ่งหมายถึงการหยุดใช้สินค้าจากไทยและแทนที่ด้วยสินค้าภายในประเทศ หรือจากประเทศอื่นที่ไม่ใช่ไทย
- เตรียมซื้อสินค้าที่ส่วนใหญ่เป็นผลผลิตทางการเกษตรที่ประชาชนกัมพูชาเคยส่งออกไปยังไทย โดยจะหาตลาดทั้งในและต่างประเทศอย่างจริงจัง
- เปลี่ยนเส้นทางผู้ป่วยที่เคยไปรักษาที่ไทยไปยังโรงพยาบาลในประเทศ หรือสถาบันการแพทย์ในประเทศอื่น
- เตรียมรับและจัดการโอกาสการจ้างงานสำหรับแรงงานที่กลับจากไทย ขณะนี้กัมพูชากำลังประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานหลายหมื่นตำแหน่งในภาคอุตสาหกรรม เกษตรกรรม และก่อสร้าง แรงงานกัมพูชาอาจเลือกกลับมาโดยสมัครใจก่อนถูกเนรเทศ เนื่องจากกำลังเผชิญกับการเลือกปฏิบัติและการดูหมิ่นอย่างรุนแรงในบางพื้นที่่ของไทย
- กองกำลังติดอาวุธทั้งหมดอยู่ในภาวะเตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรับมือและปกป้องดินแดนในกรณีเกิดการรุกราน
- จังหวัดที่อยู่ใกล้ชายแดนต้องเตรียมพร้อมอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย และจัดหาสินค้าอาหาร ยา และวัสดุจำเป็นอื่นๆ ให้เพียงพอ
หากไทยไม่แก้ไขเรื่องการเปิดด่านชายแดนและกลับสู่สภาพปกติ เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากดำเนินมาตรการทั้งหมดนี้
ผมขอเรียกร้องให้ประชาชนอย่ากระทำการสุดโต่ง เช่น การประท้วงสถานทูตไทย บริษัทไทย หรือคนไทยในกัมพูชา และอย่าเก็บความเกลียดชังทางเชื้อชาติต่อคนไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนดี มีเพียงกลุ่มสุดโต่งและกลุ่มทหารบางกลุ่มเท่านั้นที่อยู่เบื้องหลังปัญหาเหล่านี้ เพราะรัฐบาลไทยไม่สามารถควบคุมกองทัพได้เหมือนที่กัมพูชาทำได้”