เกษตรกรเกาหลีขาดคนเก็บผลผลิต! ขอทางการเลิกปราบปรามแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย

23 พ.ค. 2568 - 04:03

  • ตั้งแต่วันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา กระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานรัฐบาล 5 แห่งได้เริ่มปฏิบัติการกวาดล้างแรงงานต่างด้าวที่ไม่มีเอกสาร ซึ่งมีกำหนดดำเนินการต่อเนื่องจนถึงวันที่ 29 มิถุนายน

  • แต่ประชาชนจำนวนมากโดยเฉพาะชาวนาในพื้นที่ชนบทกลับต้องการให้แรงงานเหล่านี้ทำงานช่วยพวกเขาในฤดูกาลเก็บเกี่ยว

  • เจ้าหน้าที่รัฐรายหนึ่งเผยว่า “เกษตรกรจำนวนมากในที่นี้บอกว่าความเป็นอยู่ของพวกเขาตอนนี้ค่อนข้างลำบาก เพราะพวกเขาไม่สามารถหาคนงานได้หลังจากรัฐบาลเริ่มการกวาดล้างแรงงานต่างด้าว...”

ตัวแทนเกษตรกรในพื้นที่เทศมณฑลชางนย็องร้องขอให้ทางการ ‘ยุติการกวาดล้างแรงงานต่างด้าวที่ไม่มีเอกสาร’ ในช่วงที่ อีแจ มยอง ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้เดินทางไปเยือนเทศมณฑลชางนย็องเมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเขตเล็กๆ ในจังหวัดคย็องซังใต้ที่มีประชากรประมาณ 55,000 คน   

 

ตั้งแต่วันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา กระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานรัฐบาล 5 แห่งได้เริ่มปฏิบัติการกวาดล้างแรงงานต่างด้าวที่ไม่มีเอกสาร ซึ่งมีกำหนดดำเนินการต่อเนื่องจนถึงวันที่ 29 มิถุนายน โดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองระบุว่า เป้าหมายหลักคือ ‘อาชญากรและผู้ที่คุกคามความเป็นอยู่ของประชาชน’ แต่ประชาชนจำนวนมากโดยเฉพาะชาวนาในพื้นที่ชนบทกลับต้องการให้แรงงานเหล่านี้ทำงานช่วยพวกเขาในฤดูเก็บเกี่ยว 

“เกษตรกรจำนวนมากในที่นี้บอกว่าความเป็นอยู่ของพวกเขาตอนนี้ค่อนข้างลำบาก เพราะพวกเขาไม่สามารถหาคนงานได้หลังจากรัฐบาลเริ่มการกวาดล้างแรงงานต่างด้าว นี่เป็นปัญหาที่รุนแรงมาก หากชาวนาไม่สามารถเก็บก้านกระเทียมได้ระหว่างวันที่ประมาณ 10 เมษายน ถึง 10 พฤษภาคม ผลผลิตในปีนี้อาจเสียหายทั้งหมด”

ซอง โบ คยอง หัวหน้าคณะกรรมการฉุกเฉินที่ก่อตั้งขึ้นในชางนย็อง กล่าว 


วิกฤตที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชางนย็องนี้สะท้อนความย้อนแย้งในระดับประเทศ ซึ่งพยายามบังคับใช้กฎหมายตรวจคนเข้าเมือง แต่มันกลับส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนเกาหลีในภาคเกษตรกรรมที่ต้องใช้แรงงานจำนวนมาก คำร้องขออย่างสิ้นหวังของชาวนาแสดงให้เห็นถึงการพึ่งพาแรงงานต่างด้าวอย่างมากในเศรษฐกิจชนบท  

 

ปัญหาดังกล่าวลุกลามไปทั่วประเทศ นอกจากเทศมณฑลชางนย็องแล้ว ยังกระทบต่อการเก็บเกี่ยวตั้งแต่จังหวัดคยองกีไปจนถึงเกาะเชจูอีกด้วย การปลูกกระเทียมในเขตชางนย็องซึ่งเป็นพื้นที่ผลิตกระเทียมรายใหญ่ที่สุดในเกาหลี คิดเป็นสัดส่วนหลักของเศรษฐกิจ และต้องพึ่งพาแรงงานข้ามชาติเป็นอย่างมาก 

 

เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรเหล่านี้ สมาชิกสภาเทศมณฑลชางนย็องจึงได้ลงมติเอกฉันท์ในที่ประชุมวันที่ 15 พฤษภาคม เรียกร้องให้กระทรวงยุติธรรมระงับการกวาดล้างแรงงานต่างด้าวที่ไม่มีเอกสารในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว และหาวิธีการจัดการที่ยืดหยุ่นมากขึ้น 

 

“ควรมีแนวทางที่ยืดหยุ่นมากกว่านี้ในการจัดการกับแรงงานต่างด้าวที่ไม่มีเอกสาร” พัค จอง ฮยอน หัวหน้าเทศมณฑลบูยอในจังหวัดชุงช็องใต้ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่ได้รับเลือกตั้งคนแรกที่แสดงความเห็นอย่างเปิดเผยต่อต้านนโยบายจับแรงงานต่างด้าว แล้วส่งกลับของรัฐบาล กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อเดือนที่แล้ว

 

เจ้าหน้าที่เทศมณฑลเผยว่า พวกเขาจะเสนอ ‘นโยบายระบบการรายงานตัว’ โดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจะไม่กักขังแรงงานต่างด้าวที่ไม่มีเอกสารที่ให้ข้อมูลที่อยู่อาศัยและที่ทำงานโดยสมัครใจ ข้อเสนอนี้จะได้รับการหารือในการประชุมครั้งต่อไปของสมาคมนายกเทศมนตรีแห่งชาติในเกาหลี ซึ่งเป็นกลุ่มผู้นำของรัฐบาลท้องถิ่น 

 

สำนักข่าว Korea Times รายงานว่า กระทรวงยุติธรรมได้จับกุมชาวต่างชาติที่พำนักอย่างผิดกฎหมาย 5,159 คนในเดือนเมษายนเพียงเดือนเดียว และในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้มีผู้ถูกควบคุมตัวแล้ว 17,188 คน 

 

แต่หลังจากได้รับข้อร้องเรียนจากเกษตรกรหลายรายเกี่ยวกับการปราบปรามที่เกิดขึ้นในช่วงฤดูเพาะปลูก กระทรวงเกษตรฯ ระบุว่าเมื่อเร็วๆ นี้ เจ้าหน้าที่ได้ลดความเข้มงวดลงแล้ว 

 

“เราตระหนักถึงปัญหาการขาดแคลนแรงงานในพื้นที่ชนบทในช่วงฤดูเกษตรกรรม และงดเว้นการปราบปรามเต็มรูปแบบเท่าที่จะทำได้ โดยคำนึงถึงปัญหาการขาดแคลนแรงงานในช่วงฤดูเพาะปลูกและเก็บเกี่ยว และได้ดำเนินการปราบปรามอย่างเลือกเฟ้น...เราจะพิจารณาสถานการณ์ของเกษตรกรและชาวประมงต่อไป และจะสนับสนุนพวกเขาโดยร่วมมือกับกระทรวงอื่นๆ ในการแก้ไขปัญหา เช่น การขาดแคลนแรงงาน” กระทรวงเกษตรฯ ระบุ 

 

การปราบปรามดังกล่าวยังทำให้เกิดข้อกังวลเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน โดยนักเคลื่อนไหวกล่าวหาเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองว่าใช้มาตรการที่เกินขอบเขตและไร้มนุษยธรรมเพื่อกักขังแรงงานต่างด้าวที่ไม่มีเอกสาร และเผยว่า “คนงานจำนวนมากได้รับบาดเจ็บขณะพยายามหลบหนี เมื่อวันที่ 26 มีนาคม หญิงชาวเอธิโอเปียคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะพยายามหลบหนีจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง” 

 

เจ้าหน้าที่ระดับสูงในทศมณฑลบูยอระบุว่า “เนื่องจากกระทรวงยุติธรรมตัดสินใจลดความเข้มข้นในการปราบปรามเมื่อเร็วๆ นี้ สถานการณ์แรงงานในเทศมณฑลบูยอจึงดูเหมือนจะคลี่คลายลง แต่ปัญหาเดียวกันนี้จะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เว้นแต่ประเทศจะปฏิรูประบบการย้ายถิ่นฐานอย่างจริงจัง ซึ่งรวมถึงวิธีการจัดการกับแรงงานต่างด้าวที่ไม่มีเอกสารด้วย” 

 

(Photo by ANTHONY WALLACE / AFP) 

 

 

 

 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์