สมาชิกอาวุโสของกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านอ้างว่า การโจมตีอิสราเอลอย่างกะทันหันของฮามาส ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,000 ราย ได้รับ ‘ไฟเขียว’ จากเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของอิหร่าน
รายงานของ Wall Street Journal ระบุว่า ฮามาสวางแผนการรุกรานทางอากาศ ทางบก และทางทะเลโดยได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน โดยอิสราเอลตราหน้าอิหร่านว่าเป็น ‘รัฐก่อการร้าย’
การเดินหน้าโจมตีอย่างเป็นทางการมีขึ้นในการประชุมที่กรุงเบรุต เชื่อว่ามีกลุ่มทหารที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านอีก 4 กลุ่มที่เข้าร่วมการประชุม รวมถึงสมาชิกของกลุ่มฮามาสและฮิซบอลเลาะห์
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน อ้างว่าเขายังไม่เห็นหลักฐานที่ว่าอิหร่านมีส่วนเกี่ยวข้องในการโจมตีครั้งนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่อาวุโสของกลุ่มฮามาสระบุในแถลงการณ์ว่า พวกเขากระทำการโดยลำพัง ซึ่งเป็นการตัดสินใจของชาวปาเลสไตน์และฮามาส
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยุโรปและที่ปรึกษาซีเรียให้ข้อมูลเดียวกันกับคนอื่นๆ ว่าเรื่องนี้มีการวางแผนร่วมกัน โดยแหล่งข่าวระบุว่า สมาชิกของแต่ละกลุ่มได้พบกันทุก 2 สัปดาห์ตั้งแต่เดือนสิงหาคม เพื่อวางแผนการโจมตี
ผู้เข้าร่วมบางส่วน ได้แก่ อิสมาอิล กาอานี ผู้นำทางทหารของ IRGC, ฮัสซัน นัสรุลเลาะห์ ผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์, ซิยาด อัล-นาคาลาห์ ผู้นำญิฮาดอิสลาม และซาเลห์ อัล-อารูรี ผู้นำทางทหารของกลุ่มฮามาส และมีรัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน เข้าร่วมการประชุมสองครั้ง
โดยกาอานีเป็นแกนนำของขบวนการเพื่อรวมตัวแทนต่างประเทศของอิหร่านตั้งแต่เดือนเมษายนในความพยายามที่จะขยายอิทธิพลในภูมิภาคนี้
อิหร่านเคยสนับสนุนกลุ่มฮามาสในอดีต ซึ่งอิหร่านถูกอิสราเอลตราหน้าว่าเป็นรัฐก่อการร้าย ขณะที่ความรุนแรงที่ทวีขึ้นและจะขยายไปสู่ความขัดแย้งครั้งใหญ่ในตะวันออกกลาง
นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลให้คำมั่นว่าจะล้างแค้นอย่างยิ่งใหญ่โดยสัญญาว่าจะทำให้พื้นที่ฉนวนกาซาของกลุ่มฮามาสกลายเป็นซากปรักหักพัง
กองกำลังทางตอนเหนือยังยิงตอบโต้กันไปมาระหว่างจรวดและปืนใหญ่กับกองกำลังกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านของเลบานอน
โจนาธาน คอนริคัส โฆษกกองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล (lDF) กล่าวว่า หากปราศจากเงินทุน อาวุธ การฝึกอบรม คำแนะนำ และการยั่วยุทางการเมืองของอิหร่าน กลุ่มฮามาสก็จะไม่มีความสามารถใดๆ เลย นี่ถือเป็นจุดพลิกผันที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งขนาด ความรุนแรง ความโหดร้าย
รัฐบาลอิสราเอลประกาศสงครามอย่างเป็นทางการเมื่อวันอาทิตย์ และไฟเขียวสำหรับขั้นตอนสำคัญทางทหาร เพื่อตอบโต้กลุ่มฮามาสที่โจมตีฉนวนกาซา
กว่า 24 ชั่วโมงหลังจากที่ฮามาสเปิดฉากการรุกรานนอกฉนวนกาซา กองกำลังอิสราเอลยังคงพยายามบดขยี้นักรบติดอาวุธกลุ่มสุดท้ายที่ซ่อนตัวอยู่ในหลายเมืองทางตอนใต้ของอิสราเอล และคำประกาศนี้เพิ่มการโจมตีฉนวนกาซาอย่างเข้มข้น
รายงานจำนวนผู้เสียชีวิตที่สูงเกินจริงในระดับที่ไม่เคยประสบมาในรอบหลายทศวรรษ และมากกว่า 300 คนถูกสังหารในฉนวนกาซา ด้านหน่วยกู้ภัยของอิสราเอลกล่าวว่า หน่วยกู้ภัยได้นำศพประมาณ 260 ศพออกจากเทศกาลดนตรีที่มีผู้เข้าร่วมหลายพันคนที่ถูกโจมตี และคาดว่าตัวเลขทั้งหมดจะสูงขึ้น เนื่องจากทีมแพทย์อื่นๆ กำลังทำงานอยู่ในพื้นที่
วิดีโอบนโซเชียลมีเดียและสำนักข่าวของอิสราเอลเผยให้เห็นผู้ชมงานเทศกาลหลายสิบคนวิ่งผ่านทุ่งโล่งพร้อมเสียงปืนดังขึ้น หลายคนซ่อนตัวอยู่ในสวนผลไม้ใกล้เคียง บ้างก็ถูกยิงเสียชีวิตขณะหลบหนี
หนึ่งในผู้สูญหาย ได้แก่ เจค มาร์โลว์ ทหารอังกฤษ วัย 26 ปี ที่หายไปตั้งแต่เช้าวันเสาร์ หลังจากที่เขาทำงานเป็นส่วนหนึ่งของทีมรักษาความปลอดภัยในงานเทศกาลใกล้กับเรอิม หมู่บ้านใกล้ชายแดนฉนวนกาซาทางตอนใต้ของอิสราเอล
อิสราเอลกำลังระดมยิงปืนใส่กองกำลังในฉนวนกาซาในการตอบโต้อย่างโหดเหี้ยมทางตอนใต้ ขณะเดียวกันก็ถล่มเลบานอนด้วยปืนใหญ่ทางตอนเหนือ
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ประณามการโจมตีอิสราเอลโดยผู้ก่อการร้ายฮามาสจากฉนวนกาซาพร้อมกล่าวว่า เรา(สหรัฐฯ) พร้อมที่จะเสนอวิธีการสนับสนุนที่เหมาะสมทั้งหมดแก่รัฐบาลและประชาชนอิสราเอล การก่อการร้ายไม่เคยมีความชอบธรรม อิสราเอลมีสิทธิที่จะปกป้องตนเองและประชาชนของตน
กาซาได้รับความเสียหายจากสงคราม 4 ครั้งและการปะทะกันนับไม่ถ้วนระหว่างฮามาสและอิสราเอล นับตั้งแต่กลุ่มติดอาวุธเข้าควบคุมพื้นที่ดังกล่าวในปี 2007 แต่ภาพความรุนแรงในอิสราเอลนั้นเกินกว่าจะพบเห็นได้ แม้แต่ในช่วงที่การลุกฮือของอินติฟาดาปาเลสไตน์พุ่งสูงสุดในรอบหลายทศวรรษที่ผ่านมา
อ่านเรื่องราวก่อนหน้า
การที่อิสราเอลถูกโจมตีโดยไม่ได้ระมัดระวังตัวนี้ ถือเป็นความล้มเหลวด้านข่าวกรองที่เลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์
