นายกฯ อิสราเอลจับมือฝ่ายค้านตั้ง ‘รัฐบาลเอกภาพฉุกเฉิน’ สู้สงครามฮามาส!

นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล และผู้นำฝ่ายค้าน เบนนี แกนต์ซ ได้ตกลงที่จะจัดตั้งรัฐบาลเอกภาพฉุกเฉินรับมือฮามาส 

เนทันยาฮูและแกนต์ซ อดีตรัฐมนตรีกลาโหมและเสนาธิการทหาร ตกลงที่จะจัดตั้งคณะรัฐมนตรีสงครามที่ประกอบด้วยเนทันยาฮู แกนต์ซ และรัฐมนตรีกลาโหม ยูอาฟ กัลลันต์ โดยคำแถลงระบุว่า รัฐบาลเอกภาพจะไม่ส่งเสริมนโยบายหรือกฎหมายใดๆ ยกเว้นที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้กับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาที่กำลังดำเนินอยู่ 

สำนักข่าว Haaretz ของอิสราเอลรายงานว่า อดีตหัวหน้าเจ้าหน้าที่ Israel Defense Forces (IDF) กาดี ไอเซนโกต และรัฐมนตรีกระทรวงกิจการยุทธศาสตร์ รอน เดอร์เมอร์ จะทำหน้าที่เป็นผู้สังเกตการณ์ 

ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา อิสราเอลติดอยู่กับความวุ่นวายทางการเมืองภายในประเทศเกี่ยวกับความพยายามของรัฐบาลเนทันยาฮูในการผลักดันการปฏิรูปที่เสนอต่อระบบตุลาการของประเทศ ซึ่งฝ่ายตรงข้ามมองว่าเป็นความพยายามที่จะยืนยันการควบคุมฝ่ายตุลาการแบบ ‘รัฐประหารทางตุลาการ’ 

เนทันยาฮูและพันธมิตรของเขากล่าวหาว่า ขบวนการประท้วงครั้งใหญ่ที่ออกมาชุมนุมบนท้องถนนในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ก่อให้เกิดอันตรายต่อความสามัคคีของชาติ เพื่อตอบโต้สิ่งที่พวกเขาปกป้องในฐานะการปฏิรูปที่ชอบธรรมหลายครั้ง 

การประกาศดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่อิสราเอลเพิ่มการโจมตีฉนวนกาซา ภายหลังการโจมตีที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในพื้นที่ทางตอนใต้ของอิสราเอลโดยกลุ่มฮามาสติดอาวุธปาเลสไตน์ ที่ได้สังหารชาวอิสราเอลอย่างน้อย 1,200 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเรือน และทำให้ความเชื่อมั่นของประเทศสั่นคลอน 

เจ้าหน้าที่อิสราเอลให้คำมั่นว่าจะตอบโต้อย่างเด็ดขาด โดยตัดการเข้าถึงน้ำ เชื้อเพลิง และไฟฟ้าสำหรับชาวปาเลสไตน์ 2.3 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในฉนวนกาซาที่ถูกปิดล้อม ซึ่งอิสราเอลปิดล้อมครั้งแรกในปี 2007 ทำให้เกิดสภาพด้านมนุษยธรรมที่ย่ำแย่ 

กลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวว่า การกีดกันประชากรที่ถูกยึดครองจากสิ่งจำเป็นขั้นพื้นฐานถือเป็นอาชญากรรมสงคราม 

การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลมุ่งเป้าไปที่ฉนวนกาซาได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 1,055 รายและบาดเจ็บ 5,184 ราย ตามการระบุของเจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์ 

ครม.นี้จะทำงานร่วมกันอย่างไร?  

บทวิเคราะห์จาก Al Jazeera ระบุว่า คณะรัฐมนตรีสงครามภายใต้รัฐบาลเอกภาพฉุกเฉินนี้ ประกอบด้วยนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม และผู้นำฝ่ายค้าน ซึ่งเนทันยาฮูและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีสิทธิ์ในการตัดสินใจใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับสงครามโดยไม่ต้องปรึกษารัฐบาลและสภาเนสเซ็ต เนื่องจากอิสราเอลเริ่มใช้กฎหมายที่ให้สิทธิพวกเขาในการตัดสินใจเช่นนั้น 

แต่การมีคณะรัฐมนตรีสงครามนี้จะช่วยลดข้อกล่าวหาต่อเนทันยาฮูที่ว่าเขาตัดสินใจทำเรื่องต่างๆ นี้เพียงคนเดียว และเขาไม่มีผู้ที่มีประสบการณ์ทางทหารในรัฐบาลผสมของเขา แกนต์ซเคยเป็นอดีตรัฐมนตรีกลาโหมและอดีตเสนาธิการทหารอิสราเอล และเคยติดต่อกับฉนวนกาซามาก่อน 

ทั้งหมดนี้ทำให้เนทันยาฮูมีความชอบธรรมและช่วยเขาในงานที่ยากลำบากนี้ที่รออยู่ข้างหน้า ในตอนนี้กองทัพมีอำนาจควบคุมการปฏิบัติการในสงครามนี้ได้อย่างเต็มที่