เจค็อบ รอธส์ไชลด์ นายธนาคารผู้ใจบุญที่ลาออกจากธุรกิจธนาคารของครอบครัวเพื่อสร้างอาณาจักรทางการเงินของตัวเองในลอนดอนเสียชีวิตแล้วในวัย 87 ปี
ครอบครัวของรอธส์ไชลด์ยืนยันการเสียชีวิตของเขาในแถลงการณ์แต่ไม่มีการระบุสาเหตุ “เจค็อบ บิดาของเรา นักการเงินที่ประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยม แชมป์ด้านศิลปะและวัฒนธรรม ข้าราชการที่อุทิศตน ผู้สนับสนุนต่อกิจกรรมการกุศลในอิสราเอลและวัฒนธรรมยิวอย่างกระตือรือร้น นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมตัวยง เพื่อนผู้เป็นที่รัก พ่อ และปู่” ครอบครัวกล่าวในแถลงการณ์
อาณาจักรการเงิน ‘รอธส์ไชลด์’
นาธาเนียล ชาร์ลส์ เจค็อบ รอธส์ไชลด์ เกิดเมื่อวันที่ 28 เมษายน 1936 สำเร็จการศึกษาที่วิทยาลัยอีตันและ มหาวิทยาลัยออกฟอร์ด ทว่าเขาได้เป็นหุ้นส่วนธุรกิจครอบครัว ‘N.M. Rothschild & Sons’ หลังจากเข้าร่วมธุรกิจธนาคารครอบครัวและบริหารแผนกการเงินองค์กร
รอธส์ไชลด์ ออกจากบริษัทธนาคารข้ามชาติของครอบครัว ‘N.M. Rothschild & Sons Ltd.’ เมื่อปี 1980 เนื่องจากข้อพิพาทเกี่ยวกับทิศทางของบริษัท และผันตัวมาสร้างอาณาจักรการลงทุนของตัวเอง ‘Rothschild Investment Trust’ ซึ่งปัจจุบันรู้จักกันในชื่อ ‘RIT Capital Partners Plc’ เป็นหนึ่งในกองทุนการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร
นอกจาก RIT แล้ว รอธส์ไชลด์ยังร่วมก่อตั้งบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน ‘St. James’s Place Plc’ และตั้งเป็นส่วนหนึ่งของทั้ง 3 บริษัทที่ผนึกกำลังกันเมื่อ 3 ทศวรรษที่แล้วในการประมูลครอบครองกิจการอย่างไม่เป็นมิตรมูลค่า 21,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7.5 แสนล้านบาท) ให้กับบริษัทข้ามชาติอังกฤษ ‘British American Tobacco Plc’
รอธส์ไชลด์ยังเป็นหนึ่งในผู้ใจบุญที่โดดเด่นที่สุดในสหราชอาณาจักรอีกด้วย โดยเป็นประธานคณะกรรมการหอศิลป์แห่งชาติและกองทุนสลากกินแบ่งมรดกแห่งชาติ
ในฐานะนักสะสมงานศิลปะที่มีชื่อเสียง เขาก็ยังบูรณะคฤหาสน์เกาแก่มรดกแห่งชาติอังกฤษ ‘บ้านสเปนเซอร์’ (Spencer House) ในลอนดอน และบูรณะคฤหาสน์ตระกูลร็อธส์ไชลด์ ‘Waddesdon Manor’ เป็นเวลา 5 ปีตั้งแต่ปี 1990-1995 ซึ่งเป็นบ้านในชนบทสมัยศตวรรษที่ 19 ที่สร้างโดยหนึ่งในบรรพบุรุษผู้มั่งคั่งของเขา
ธุรกิจธนาคารของตระกูลรอธส์ไชลด์
ธุรกิจธนาคารของตระกูลรอธส์ไชลด์ได้รับการก่อตั้งขึ้นโดย ‘ไมเออร์ อัมเอ็มเช็มเชล รอธส์ไชลด์’ นายธนาคารชาวยิวเชื้อสายเยอรมัน (ปู่ทวดของรอธส์ไชลด์) และผู้ก่อตั้งธนาคารรอธส์ไชลด์ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘บิดาผู้ก่อตั้งการเงินระหว่างประเทศ’ ไมเออร์ส่งลูกชายทั้ง 5 คนไปยังเมืองใหญ่ๆ ในยุโรปเพื่อทำธุรกิจกับรัฐบาลที่ขาดแคลนเงินสด โดย ‘นาธาน ไมเออร์ รอธส์ไชลด์’ (ปู่ของรอธส์ไชลด์) เป็นคนแรกที่เดินทางไปทำธุรกิจที่ต่างประเทศ
นาธานก่อตั้งธนาคารที่มีชื่อเดียวกันในปี 1810 และเป็นที่รู้จักจากการให้ทุนแก่ปฏิบัติการทางทหารของอังกฤษในสงครามนโปเลียน ทว่าประมาณ 150 ปีต่อมา เจค็อบ หรือรอธส์ไชลด์ก็เผชิญกับการต่อต้านในความพยายามที่จะขยายบริการของธนาคารจาก ‘วิคตอร์ รอธส์ไชลด์’ (พ่อของเขา) และเอเวลัน (ลูกพี่ลูกน้องของเขา) ซึ่งรับช่วงต่อจากวิคตอร์ในตำแหน่งประธานของ ‘N.M. Rothschild & Sons Ltd.’ ในปี 1976
จุดเปลี่ยน…
นับตั้งแต่เปิดตัวในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนในปี 1988 หลังจากการยกเลิกกฎระเบียบของตลาดการเงินของเมืองก็พบว่า RIT ได้เติบโตขึ้นมากกว่า 1,300%
อย่างไรก็ดี รอธส์ไชลด์ก้าวลงจากตำแหน่งประธาน RIT ในปี 2019 แม้ว่า ‘ฮันนาห์’ ลูกสาวของเขาวัย 61 ปีจะยังคงอยู่ในบอร์ดคณะกรรมการบริหารของบริษัทการลงทุนแห่งนี้ก็ตาม โดยเธอดูแลสัดส่วนการถือหุ้นอย่างน้อย 10% ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่ามากกว่า 250 ล้านปอนด์ (ราว 1.1 หมื่นล้านบาท)
