พ่อแม่เด็กกราดยิงไม่รอดโดนโทษจำคุก!
ความคืบหน้าล่าสุดเหตุเยาวชนชายวัย 15 ปีกราดยิงโรงเรียนมัธยมในเมืองอ็อกซ์ฟอร์ด รัฐมิชิแกนเมื่อปี 2021 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย ซึ่งภายหลัง เจมส์ และเจนนิเฟอร์ ครัมบลีย์ พ่อแม่ของเขาถูกศาลตั้งข้อหาเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมที่ผ่านมาฐานฆ่าคนตายโดย ‘ไม่เจตนา’ ไม่สามารถหยุดยั้งลูกชายได้ และเมื่อวันอังคาร (9 เม.ย.) ศาลได้ตัดสินจำคุกเจมส์และเจนนิเฟอร์ 10-15 ปี
สำนักข่าว CNN รายงานว่า เจมส์ และเจนนิเฟอร์ ซึ่งถูกจำคุกมานานกว่า 2 ปีแล้วต้องเผชิญโทษจำคุกสูงสุด 15 ปีนับตั้งแต่ถูกจับกุมในโกดัง เมืองดีทรอยต์ ไม่กี่วันหลังเหตุกราดยิง แม้ว่าพวกเขาจะถูกพิจารณาแยกกัน แต่การพิจารณาคดีของพวกเขาเกิดขึ้นพร้อมกันในห้องพิจารณาคดีของเทศมณฑลโอ๊คแลนด์
พวกเขากลายเป็นพ่อแม่ชาวอเมริกันคนแรกที่ต้องรับผิดชอบทางอาญาต่อเหตุกราดยิงในโรงเรียนที่ลูกของพวกเขาก่อเหตุ
ก่อนที่จะพิพากษาลงโทษ เชอริล แมทธิวส์ ผู้พิพากษาศาลเทศมณฑลโอ๊คแลนด์บอกกับครอบครัวของเหยื่อว่าเธอไม่อาจเข้าใจความเจ็บปวดของครอบครัวเหยื่อเลย “ฉันเห็นสิ่งที่คุณเห็น และฉันได้ยินสิ่งที่คุณได้ยิน” ในการพิจารณาคดีทั้งสองครั้ง เธอกล่าวว่า “การตัดสินโทษไม่ได้เกี่ยวกับการเลี้ยงดูบุตรที่ไม่ดี”
“การตัดสินว่าพวกเขาผิดยืนยันถึงการกระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าหรือขาดการกระทำที่อาจหยุดยั้งรถไฟที่กำลังวิ่งสวนมาได้ แต่พวกเขาเพิกเฉยซ้ำแล้วซ้ำเล่า…” ผู้พิพากษาแมทธิวส์ กล่าว
ผู้พิพากษาแมทธิวส์กล่าวต่อว่า “เจมส์ ครัมบลีย์ให้การเข้าถึงปืนและกระสุนในบ้านของคุณได้อย่างเสรี ในขณะที่ เจนนิเฟอร์ ครัมบลีย์ ยกย่องการใช้และครอบครองอาวุธเหล่านี้”
ความในใจของเจมส์และเจนนิเฟอร์ต่อครอบครัวเหยื่อ
ก่อนการพิจารณาคดี เจมส์และเจนนิเฟอร์ได้เข้าไปคุยกับครอบครัวของเหยื่อ “วันนี้ฉันอยู่ที่นี่เพื่อแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของฮานา, เทตท์, เมดิซิน, จัสติน และทุกคนที่ได้รับผลกระทบในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2021 ไม่ใช่เพื่อขอการอภัยจากคุณ เพราะฉันรู้ว่ามันอาจจะเกินเอื้อม แต่เพื่อแสดงคำขอโทษอย่างจริงใจสำหรับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น” เจนนิเฟอร์กล่าว
ขณะที่เจมส์กล่าวว่า “ผมอยากจะบอกว่าผมไม่สามารถจินตนาการถึงความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานของครอบครัว…ที่สูญเสียลูกๆ และสิ่งที่พวกเขาเหล่านั้นเผชิญและกำลังประสบอยู่…”
หลังการพิจารณาคดี คาเรน แมคโดนัลด์ อัยการเขตโอ๊คแลนด์กล่าวว่า “จำเลยแสดงความรู้สึกละอายและเสียใจ แต่สิ่งที่สำคัญกับครอบครัวของเหยื่อมากที่สุดคือ ‘การแสดงความสำนึกผิดและรับทราบถึงการกระทำผิด ตลอดจนการขอโทษ’ สำหรับเรื่องนั้น และนั่นมันไม่เกิดขึ้น”
“นี่เป็นการเสียชีวิตที่น่าเศร้าและน่ากลัว เป็นการเสียชีวิตที่น่าสยดสยอง และเป็นสิ่งที่ครอบครัวเหล่านี้ต้องเผชิญ และมันสามารถป้องกันได้ มันสามารถป้องกันได้” แมคโดนัลด์กล่าว
ในแถลงการณ์ แมคโดนัลด์กล่าวเสริมว่า “ไม่มีอะไรที่จะนำลูกๆ ของพวกเขากลับมาได้ แต่ผู้พิพากษารับรู้ถึงความทุกข์ทรมานที่จำเลยเหล่านี้ก่อขึ้น และเธอรับรู้ความรู้สึกของเหยื่อและครอบครัว การตัดสินโทษในวันนี้ถือเป็นความรับผิดชอบสูงสุดภายใต้กฎหมาย และนั่นก็เหมาะสม”
การพิจารณาคดีอันยาวนานและแสนเจ็บปวดนี้สิ้นสุดเสียที
ในการพิจารณาคดี อัยการใช้คำให้การของผู้รอดชีวิตจากเหตุกราดยิง เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน และเจ้าหน้าที่ของโรงเรียน เพื่อพิสูจน์ว่าพ่อแม่ของ ‘อีธาน’ เยาวชนวัย 15 ปี ‘ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง’ ที่ปล่อยให้ลูกชายวัยรุ่นของตัวเองเข้าถึงปืนได้ และเพิกเฉยต่อสัญญาณของสุขภาพจิตที่กำลังย่ำแย่ของอีธาน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คำให้การแสดงให้เห็นว่าเจมส์ซื้ออาวุธปืนให้ลูกชายของเขาในวันแบล็คฟรายเดย์ (Black Friday / วันลดราคาที่มีขึ้นทุกปีช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน) 4 วันก่อนเกิดเหตุ วันรุ่งขึ้น เจนนิเฟอร์พาลูกชายของเธอไปที่สนามยิงปืนเพื่อฝึกซ้อมยิงเป้า “และนั่นแหละที่แสดงให้เห็นว่าพ่อแม่ล้มเหลวในการยึดอาวุธปืนอย่างเหมาะสม เนื่องจากเจมส์ซ่อนมันไว้ในห้องนอนของพวกเขา แต่ไม่ได้ใช้อุปกรณ์ล็อคใดๆ” อัยการโต้แย้ง
นอกจากนี้ การพิจารณาคดียังเน้นไปที่การประชุมครั้งสำคัญระหว่างเจ้าหน้าที่ของโรงเรียน อีธาน และพ่อแม่ของเขาในตอนเช้าของเหตุกราดยิง ซึ่งอีธานถูกเรียกไปที่ห้องธุรการของโรงเรียนหลังจากที่เขาทำแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์แล้วเขียนประโยคลงในกระดาษว่า ‘เลือดทุกที่’ และ ‘ชีวิตของผมไร้ประโยชน์’ พร้อมทั้งวาดภาพปืนและกระสุน
เจ้าหน้าที่ของโรงเรียนแนะนำให้ผู้ปกครองพาอีธานออกจากชั้นเรียนทันทีและเข้ารับการรักษาสุขภาพจิต แต่พวกเขาปฏิเสธที่จะทำเช่นนั้น โดยบอกว่าพวกเขามีงานทำ และครอบครัวครัมบลีย์ไม่ได้บอกโรงเรียนทราบถึงการซื้อปืนครั้งล่าสุดด้วย หลังจากนั้น อีธานก็ถูกส่งกลับเข้าชั้นเรียน ประมาณ 2 ชั่วโมงต่อมา เขาก็หยิบปืนออกจากกระเป๋าเป้สะพายหลังแล้วเปิดฉากยิงที่โรงเรียน
หลังจากก่อเหตุ อีธาน รับโทษ ‘จำคุกตลอดชีวิต’ ไม่รอลงอาญา
การพิจารณาคดีถือเป็นจุดสิ้นสุดของเรื่องราวดราม่าที่ขยายขอบเขตว่า ‘ใครเป็นผู้รับผิดชอบในเหตุกราดยิง’ อัยการได้ใช้ทฤษฎีทางกฎหมายแบบใหม่ในการตั้งข้อหาพ่อแม่เด็กกราดยิงฐานฆ่าคนตาย ‘โดยไม่เจตนา’ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เหนี่ยวไกก็ตาม ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่พ่อแม่ของมือปืนกราดยิงถูกตั้งข้อหา ‘ก่ออาชญากรรมร้ายแรง’ เช่นนี้
Photo by BILL PUGLIANO / GETTY IMAGES NORTH AMERICA / Getty Images via AFP