บริษัทจดทะเบียนล้มละลายที่มีหนี้อย่างน้อย 10 ล้านเยน (ราว 2.2 ล้านบาท) ในญี่ปุ่นมีทั้งหมด 828 แห่งในเดือนเมษายน 2025 ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 11 ปีสำหรับเดือนที่รายงาน ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อและต้นทุนแรงงานที่เพิ่มสูงขึ้น
บริษัทวิจัย Tokyo Shoko Research รายงานว่า ตัวเลขรายเดือนเพิ่มขึ้น 5.7% จากปีก่อน โดยส่วนใหญ่แล้วบริษัทที่ล้มละลายมักเป็นบริษัทขนาดเล็กที่มีฐานธุรกิจอ่อนแอ เนื่องจากรายได้ของบริษัทถูกบีบให้ลดลงจากราคาที่สูงขึ้นและต้นทุนแรงงานที่สูงขึ้นท่ามกลางการขาดแคลนแรงงาน
หนี้สินรวมที่เหลือจากบริษัทที่ล้มละลายลดลง 9.3% เหลือ 1.02 แสนล้านเยน (ราว 2.2 แสนล้านบาท) สะท้อนถึงจำนวนบริษัทที่ล้มละลายที่มีหนี้สินมากกว่า 100 ล้านเยนลดลง ในขณะที่จำนวนบริษัทขนาดเล็กที่มีหนี้ต่ำกว่า 100 ล้านเยนเพิ่มขึ้น 11.3% คิดเป็นเกือบ 80% ของการล้มละลายทั้งหมด
จำนวนบริษัทที่ล้มละลายเนื่องจากปัญหาขาดแคลนแรงงานเพิ่มขึ้นเป็น 36 แห่งจาก 25 แห่งในปีก่อนหน้า ส่วนจำนวนบริษัทที่ล้มละลายจากภาวะเงินเฟ้อยังคงสูงอยู่ที่ 56 แห่งจาก 60 แห่งในปีก่อน
เมื่อจำแนกตามอุตสาหกรรม ภาคบริการมีจำนวนบริษัทล้มละลายสูงสุดที่ 292 แห่ง ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 10.6% รองลงมาคือภาคก่อสร้าง 152 แห่ง เพิ่มขึ้น 4.1% และภาคค้าปลีก 106 แห่ง เพิ่มขึ้น 32.5%
เจ้าหน้าที่จาก Tokyo Shoko Research เผยว่านโยบายเก็บภาษีของรัฐบาลทรัมป์ ส่งผลกระทบต่อการล้มละลายในญี่ปุ่นเพียงเล็กน้อย แต่เนื่องจากบริษัทขนาดเล็กหลายแห่งยังแบกรับหนี้ที่เกิดจากช่วงการระบาดของโควิด-19 ดังนั้น นโยบายภาษีของสหรัฐฯ จึงอาจส่งผลกระทบต่อคำสั่งซื้อของบริษัทญี่ปุ่น และส่งผลให้เกิดการล้มละลายมากขึ้น โดยเฉพาะในภาคการผลิต
(Photo by Richard A. Brooks / AFP)