ตุนกู อิสมาอิล สุลต่าน อิบราฮิม มกุฏราชกุมารแห่งรัฐยะโฮร์ เปิดเผยว่าเขาและครอบครัวอยู่ใกล้กับเหตุกราดยิงที่ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอนเมื่อเย็นวันอังคาร (3 ต.ค.) และต่อมาได้ขอเข้าไปหลบที่สถานทูตสิงคโปร์ในกรุงเทพฯ หลังสถานการณ์ลุกลาม
กระทรวงการต่างประเทศของสิงคโปร์บอกกับ CNA ว่ารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ช่วยเหลือมกุฎราชกุมาร โดยเสริมว่าทั้งมาเลเซียและสิงคโปร์มีประเพณีในการสนับสนุนซึ่งกันและกันสำหรับพลเมืองของเราที่อาจต้องการความช่วยเหลือในขณะที่อยู่ต่างประเทศ
เหตุการณ์กราดยิงเมื่อบ่ายวันอังคาร ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย รายแรกเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน และอีกรายจากเมียนมา มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 5 คน ตำรวจไทยจับกุมผู้ต้องสงสัยวัย 14 ปีได้แล้ว
ในเรื่องราวของอินสตาแกรมที่โพสต์เมื่อเวลาประมาณ 23.30 น. ของเมื่อวาน ตุนกู อิสมาอิล กล่าวว่าเขา พร้อมด้วยภรรยา เช ปวน เบซาร์ คาลีดา และลูกๆ ทั้ง 4 ของทั้งคู่ อยู่ในล็อบบี้ของโรงแรมใกล้ห้างสรรพสินค้า เมื่อพวกเขาได้ยินคนตะโกนและวิ่งหนีหลังจากที่คนร้ายเริ่มยิง
“มันดังมากและมีเสียงกรีดร้องมากมาย ตอนนั้นเราทุกคนนั่งอยู่ในล็อบบี้ของโรงแรม เราอุ้มลูกๆ ไว้ และพาครอบครัวไปยังที่ปลอดภัย เราวิ่งไปที่ห้องใต้ดิน และสิ่งเดียวที่อยู่ในใจของฉันคือมีมือปืนกี่คน พวกเขามีอาวุธอะไรบ้าง และสถานการณ์เป็นอย่างไร” ตุนกู อิสมาอิล กล่าว
ตุนกู อิสมาอิล กล่าวว่า ผมยังมีภาพของผมที่บอกกับลูกๆ ของผมว่า ‘ทุกอย่างจะโอเค’ เขาและทีมรักษาความปลอดภัยยืนอยู่ต่อหน้าสมาชิกในครอบครัว สร้างเกราะมนุษย์ที่จะปกป้องพวกเขาไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม
“ผมบอกพวกเขาให้พาเราไปที่สถานทูตมาเลเซีย และคนขับบอกเราว่าสถานทูตสิงคโปร์อยู่ใกล้กว่านั้น และนั่นคือตอนที่ผมติดต่อกับกงสุลใหญ่สิงคโปร์ในรัฐยะโฮร์ ตอนนี้เราอยู่ที่นี่อย่างปลอดภัยในสถานทูต (สิงคโปร์)” เขากล่าวเสริม
ตุนกู อิสมาอิล กล่าวว่า จากนั้นเขาได้โทรหานายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย และรัฐมนตรีกลาโหม โมฮัมหมัด ฮาซัน เพื่อแจ้งให้ทราบถึงสิ่งที่เกิดขึ้น และบอกว่าครอบครัวจะบินกลับไปที่ยะโฮร์ เมื่อทุกอย่างปลอดภัยและนี่ถือเป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่เขาเคยเจอ
