“พวกเขากำลังจะฆ่าเรา” ผู้รอดชีวิตในอิสราเอลเปิดใจเล่าวินาทีฮามาสบุกบ้าน

10 ต.ค. 2566 - 07:31

  • เปิดวินาทีสุดสะพรึงของผู้รอดชีวิตจากชุมชนคิบบุตซ์เล่าเหตุการณ์ตอนฮามาสบุกโจมตี

kibbutz-survivors-tell-of-hamas-attack-SPACEBAR-Hero.jpg

วินาทีชีวิตฮามาสโจมตี 

นาดาฟ เปเรตซ์ (Nadav Peretz) และ อิล ดูแดอี (Eli Dudaei) เพื่อนซี้วัย 42 ปีด้วยกันทั้งคู่ซึ่งย้ายมาอาศัยอยู่ในนาฮาล ออซ (Nahal Oz) ชุมชนเกษตรยุคใหม่ (คิบบุตซ์ / kibbutz) ทางตอนใต้ของอิสราเอล (ตั้งอยู่ใกล้ฉนวนกาซามากขนาดที่บ้านของชาวปาเลสไตน์ในย่านซาจัยยา (Sajaiya) อยู่ห่างออกไปเพียงแค่ 600 เมตรเท่านั้น) เมื่อ 7 ปีที่แล้ว 

พวกเขารู้ดีว่ามีความเสี่ยงที่จะอาศัยอยู่ใกล้กับดินแดนซึ่งถูกควบคุมโดยกลุ่มหัวรุนแรง และการไปหลบที่ห้องหลบภัยทุกครั้งที่เสียงไซเรนโจมตีทางอากาศดังขึ้นก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตชาวชุมชนคิบบุตซ์ แต่สำหรับเพื่อนบ้านในซาจัยยานั้นไม่มีที่หลบภัย

ทั้งเปเรต์ซและดูแดอีเล่าเหตุความรุนแรงเมื่อเช้าตรู่ของวันเสาร์ (7 ต.ค.) ที่ผ่านมาว่า หลังจากที่เสียงไซเรนดังขึ้นเป็นครั้งแรก จากนั้นเสียงปืนพก เสียงปืนกลอัตโนมัติ และความดังของระเบิดก็เริ่มทำลายความเงียบในตอนเช้า

“หลังจากเสียงไซเรนแรกผ่านไปประมาณ 35 นาที ทั้งชุมชนก็รู้ว่าต้องทำอะไร มันน่ากลัว แต่ผมเดาว่าทุกคนกลับเข้าไปในห้องปลอดภัย และเมื่อเวลาผ่านไป เราก็ตระหนักได้ว่ากองทัพไม่ได้มาช่วย” ดูแดอี ครูโรงเรียนประถมเล่า 

เมื่อเสียงปืนเริ่มดังขึ้นทั้งเปเรตซ์และดูแดอีก็อุ้มสุนัขชื่อ ‘มัคค์’ ไปที่ห้องปลอดภัยในบังกะโลหลังเล็กของพวกเขา และปูผ้าห่มบนพื้นเพื่อปิดเสียงอุ้งเท้าสุนัขบนพื้นไม้ปาร์เก้ พวกเขาเล่าว่าโดยปกติแล้ว มัคค์จะเห่าเยอะในช่วงที่มีการโจมตีทางอากาศ แต่คราวนี้มัคค์เงียบตลอดเลย 

ตอนที่กลุ่มติดอาวุธฮามาสหลายสิบคนบุกเข้ามาในคิบบุตซ์ระลอกแรก พวกเขาก็ยิงผู้คนที่จับได้ข้างนอก นอกจากนี้พวกเขายังบุกเข้าไปในบ้านและจุดไฟรมควันเพื่อให้ครอบครัวออกมาจากห้องหลบภัยของพวกเขา โดยเปเรตซ์และดูแดอีก็มั่นใจว่ามีอย่างน้อย 2 ครอบครัวที่ถูกสังหาร และอีก 2 ครอบครัวที่ถูกลักพาตัวไปที่ฉนวนกาซาเพื่อเป็นตัวประกัน 

เปเรตซ์เผยว่า “เราไม่ได้พูดจากัน แต่มีอยู่แวบหนึ่งเข้ามาในหัวเราว่าถ้ามัคค์เริ่มเห่าล่ะ เราคงต้องปิดปากมัน” ขณะเดียวกันผู้คนในนาฮาล ออซต่างก็ทยอยส่งข้อความตื่นตระหนกในกลุ่ม WhatsApp ของเมืองซึ่งระบุว่า ‘ได้โปรดช่วยพวกเราด้วย’ ‘โปรดส่งกองทัพมาเถอะ’ ‘พวกเขากำลังจะฆ่าเรา’ ‘พวกเขาอยู่ในบ้านของฉัน’  

“พอเวลาผ่านไปได้สักพักกว่าจะรู้ว่าพวกฮามาสยึดโทรศัพท์ของผู้คนบางส่วนไป และส่งข้อความเป็นภาษาฮีบรูว่า ‘ปลอดภัยแล้ว ออกมาได้’ จากนั้นผู้คนก็ถูกฆ่ามากขึ้น” เปเรตซ์บอก

ขณะที่ดูแดอีเริ่มร้องไห้แล้วพูดว่า “ผมควรจะเป็นผู้ปฏิบัติการฉุกเฉินฉุกเฉินคนแรกสำหรับคิบบุตซ์ แต่ผมก็ช่วยพวกเขาไม่ได้ มีคลังเก็บอาวุธอยู่ห่างจากบ้านเรา 2 เมตร และผมก็ทำอะไรไม่ได้เลย”

“เราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ขณะนี้มีคนที่ต้องทนทุกข์ในฉนวนกาซามากเท่ากับอิสราเอล เราต้องสร้างชีวิตของเราใหม่ สร้างชุมชนของเราใหม่ กลับไปที่คิบบุตซ์ วันหนึ่งเราจะต้อนรับผู้มาเยือนอีกครั้ง” เปเรตซ์กล่าว

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์