ช่วงเวลานี้โลกต่างต้องจับจ้องความสัมพันธ์ของรัสเซียและเกาหลีเหนือเป็นพิเศษ เมื่อผู้นำเกาหลีเหนือ คิมจองอึน กำลังจะเดินทางไปรัสเซียด้วยรถไฟหุ้มเกราะเพื่อพบกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ซึ่งจุดชนวนให้เกิดความกังวลของฝั่งตะวันตกเกี่ยวกับข้อตกลงด้านอาวุธที่อาจเกิดขึ้น และอาจหนุนสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่กำลังดำเนินอยู่ในตอนนี้ด้วย
คำแถลงสั้นๆ บนเว็บไซต์ของเครมลิน ระบุว่า การเยือนดังกล่าวเป็นไปตามคำเชิญของปูติน และจะมีขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่รายงานไม่ได้ระบุเวลาและสถานที่ โดยความคืบหน้าล่าสุดสื่อญี่ปุ่นได้รายงานว่า ขณะนี้เผด็จการเกาหลีเหนือเดินทางถึงรัสเซียแล้ว
อย่างไรก็ตาม การพบปะกันครั้งนี้ไม่เหมือนกับการประชุมทางการทูตอื่นๆ ในยุคปัจจุบันก็ตรงที่คิมจองอึนไม่ได้เดินทางโดยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว แต่เดินทางด้วยรถไฟหุ้มเกราะหนาของเขานั่นเอง ทั้งนี้ เขาแทบไม่ได้ออกจากประเทศเลยนับตั้งแต่ก้าวขึ้นสู่อำนาจในปี 2011
คำแถลงสั้นๆ บนเว็บไซต์ของเครมลิน ระบุว่า การเยือนดังกล่าวเป็นไปตามคำเชิญของปูติน และจะมีขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่รายงานไม่ได้ระบุเวลาและสถานที่ โดยความคืบหน้าล่าสุดสื่อญี่ปุ่นได้รายงานว่า ขณะนี้เผด็จการเกาหลีเหนือเดินทางถึงรัสเซียแล้ว
อย่างไรก็ตาม การพบปะกันครั้งนี้ไม่เหมือนกับการประชุมทางการทูตอื่นๆ ในยุคปัจจุบันก็ตรงที่คิมจองอึนไม่ได้เดินทางโดยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว แต่เดินทางด้วยรถไฟหุ้มเกราะหนาของเขานั่นเอง ทั้งนี้ เขาแทบไม่ได้ออกจากประเทศเลยนับตั้งแต่ก้าวขึ้นสู่อำนาจในปี 2011
แต่ทำไม ‘คิมจองอึน’ เลือกที่จะเดินทางโดย ‘รถไฟหุ้มเกราะ’ ล่ะ?

เพื่อให้สอดคล้องกับประเพณีที่มีมายาวนานในหมู่ผู้นำเกาหลีเหนือ ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้มีระยะทางราว 1,180 กิโลเมตร (733 ไมล์) จะใช้เวลามากกว่า 20 ชั่วโมงบนหัวรถจักรที่วิ่งไปอย่างช้าๆ ด้วยความเร็วประมาณ 50 กม./ชม. (31 ไมล์ต่อชั่วโมง) เท่านั้น เนื่องจากรถไฟมีเกราะป้องกันที่หนามาก
รถไฟขบวนนี้มีชื่อว่า ‘แทยังโช’ (Taeyangho) ซึ่งเป็นคำภาษาเกาหลีที่หมายถึง ‘ดวงอาทิตย์’ และอ้างอิงเชิงสัญลักษณ์ถึง ‘คิมอิลซ็อง’ ผู้ก่อตั้งเกาหลีเหนือ
กล่าวกันว่ารถไฟสุดหรูขบวนนี้ได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนาโดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประมาณ 100 นาย ซึ่งจะคอยสแกนเส้นทางและสถานีเพื่อตรวจสอบวัตถุระเบิด รวมถึงภัยคุกคามอื่นๆ โดยจะมีการดับไฟฟ้าทุกสถานีเวลาที่รถไฟผู้นำสูงสุดเคลื่อนผ่านเพื่อป้องกันไม่ให้ขบวนอื่นเคลื่อนที่ ทำให้เส้นทางรถไฟอื่นๆ ต้องหยุดชั่วคราว
ทว่านอกจากประเพณีการนั่งรถไฟที่ปฏิบัติกันมาอย่างยาวนานแล้ว ยังมีรายงานว่า คิมจองอิล ผู้เป็นบิดาซึ่งปกครองเกาหลีเหนือตั้งแต่ปี 1994 – 2011 มักจะเลือกเดินทางโดยรถไฟเพราะเขากลัวการบิน โดยในปี 2001 เขาเดินทางไปมอสโกเพื่อพบปูตินด้วยรถไฟเป็นเวลานานถึง 10 วัน
ผู้บัญชาการทหารรัสเซีย คอนสแตนติน ปูลิคอฟสกี ผู้เคยร่วมเดินทางร่วมกับอดีตผู้นำเกาหลีเหนือเมื่อปี 2001 กล่าวถึงความมั่งคั่งนี้บนขบวนรถไฟ ‘Orient Express’ ว่า “คุณสามารถสั่งอาหารรัสเซีย จีน เกาหลี ญี่ปุ่น และฝรั่งเศสได้…ล็อบสเตอร์ตัวเป็นๆ ไวน์แดงจากเมืองบอร์กโดซ์และเบอร์กันดีของฝรั่งเศส…แม้แต่รถไฟส่วนตัวของปูตินก็ไม่สะดวกสบายเท่ารถไฟของคิมจองอิล”
ในเดือนพฤศจิกายน 2009 หนังสือพิมพ์โชซุล อิลโบ (Chosun Ilbo) ของเกาหลีใต้รายงานว่า รถไฟหุ้มเกราะเป็นยานพาหนะสีเขียวแถบเหลืองที่มีตู้โดยสารประมาณ 90 ตู้ประกอบไปด้วยเก้าอี้หนังสีแดง พร้อมห้องประชุม และห้องนอน ทั้งยังมีโทรศัพท์ผ่านดาวเทียมและทีวีจอแบนสำหรับการแถลงการณ์สั้น
ทั้งนี้ คิมจองอึนพบกับปูตินครั้งล่าสุดเมื่อปี 2019 ที่เมืองวลาดิวอสต็อกทางตะวันออกไกลของรัสเซีย ซึ่งน่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่คิมจองอึนเดินทางไปต่างประเทศและก็เดินทางโดยรถไฟด้วย
รถไฟขบวนนี้มีชื่อว่า ‘แทยังโช’ (Taeyangho) ซึ่งเป็นคำภาษาเกาหลีที่หมายถึง ‘ดวงอาทิตย์’ และอ้างอิงเชิงสัญลักษณ์ถึง ‘คิมอิลซ็อง’ ผู้ก่อตั้งเกาหลีเหนือ
กล่าวกันว่ารถไฟสุดหรูขบวนนี้ได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนาโดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประมาณ 100 นาย ซึ่งจะคอยสแกนเส้นทางและสถานีเพื่อตรวจสอบวัตถุระเบิด รวมถึงภัยคุกคามอื่นๆ โดยจะมีการดับไฟฟ้าทุกสถานีเวลาที่รถไฟผู้นำสูงสุดเคลื่อนผ่านเพื่อป้องกันไม่ให้ขบวนอื่นเคลื่อนที่ ทำให้เส้นทางรถไฟอื่นๆ ต้องหยุดชั่วคราว
ทว่านอกจากประเพณีการนั่งรถไฟที่ปฏิบัติกันมาอย่างยาวนานแล้ว ยังมีรายงานว่า คิมจองอิล ผู้เป็นบิดาซึ่งปกครองเกาหลีเหนือตั้งแต่ปี 1994 – 2011 มักจะเลือกเดินทางโดยรถไฟเพราะเขากลัวการบิน โดยในปี 2001 เขาเดินทางไปมอสโกเพื่อพบปูตินด้วยรถไฟเป็นเวลานานถึง 10 วัน
ผู้บัญชาการทหารรัสเซีย คอนสแตนติน ปูลิคอฟสกี ผู้เคยร่วมเดินทางร่วมกับอดีตผู้นำเกาหลีเหนือเมื่อปี 2001 กล่าวถึงความมั่งคั่งนี้บนขบวนรถไฟ ‘Orient Express’ ว่า “คุณสามารถสั่งอาหารรัสเซีย จีน เกาหลี ญี่ปุ่น และฝรั่งเศสได้…ล็อบสเตอร์ตัวเป็นๆ ไวน์แดงจากเมืองบอร์กโดซ์และเบอร์กันดีของฝรั่งเศส…แม้แต่รถไฟส่วนตัวของปูตินก็ไม่สะดวกสบายเท่ารถไฟของคิมจองอิล”
ในเดือนพฤศจิกายน 2009 หนังสือพิมพ์โชซุล อิลโบ (Chosun Ilbo) ของเกาหลีใต้รายงานว่า รถไฟหุ้มเกราะเป็นยานพาหนะสีเขียวแถบเหลืองที่มีตู้โดยสารประมาณ 90 ตู้ประกอบไปด้วยเก้าอี้หนังสีแดง พร้อมห้องประชุม และห้องนอน ทั้งยังมีโทรศัพท์ผ่านดาวเทียมและทีวีจอแบนสำหรับการแถลงการณ์สั้น
ทั้งนี้ คิมจองอึนพบกับปูตินครั้งล่าสุดเมื่อปี 2019 ที่เมืองวลาดิวอสต็อกทางตะวันออกไกลของรัสเซีย ซึ่งน่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่คิมจองอึนเดินทางไปต่างประเทศและก็เดินทางโดยรถไฟด้วย
นอกจากรถไฟแล้ว ‘คิมจองอึน’ เคยโดยสารยานพาหนะหรูๆ แบบไหนอีกบ้าง?
- เครื่องบินส่วนตัว

ในเดือนพฤษภาคม 2018 คิมจองอึนเดินทางไปต่างางประเทศด้วยเครื่องบินพิสัยไกล ‘Ilyushin-62 / Il-62’ (อิลยูชิน อิล-62) ที่ผลิตโดยโซเวียต ซึ่งนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง ไปยังเมืองต้าเหลียนของจีนเพื่อพบกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิง โดยสื่อยังรายงานอีกว่า ก่อนหน้านี้เขาก็เคยใช้เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวสำหรับการเดินทางภายในประเทศด้วยเหมือนกัน
ภายนอกเครื่องบินสีขาวประดับด้วยชื่อทางการของเกาหลีเหนือเป็นภาษาเกาหลีทั้ง 2 ด้าน โดยมีธงชาติอยู่ข้างๆ ข้อความ ส่วนหางเครื่องบินมีดาวสีแดงอยู่ในวงกลมสีแดงและสีน้ำเงิน ภายในตัวเครื่องยังถูกตกแต่งด้วยความทันสมัย บางครั้งก็ยังถูกใช้เป็นที่ทำงานและจัดการประชุมเป็นครั้งคราว
นอกจากนี้ ยังมีผู้พบเห็นว่า คิมจองอึนก็ใช้เครื่องบินสัญชาติยูเครน ‘Antonov-148 / AN-148’ (อันโตนอฟ-148) ซึ่งมีโลโก้ของสายการบินแอร์โครยออยู่ (สารการบินเกาหลีเหนือ)
ขณะที่เมื่อปี 2015 สื่อของรัฐเกาหลีเหนือก็ได้บันทึกภาพ คิมจองอึน ซึ่งกำลังขับเครื่องบินเบา ‘homegrown’ และนั่งอยู่ที่ส่วนควบคุมของเครื่องบิน ‘AN-2 military biplane’
ภายนอกเครื่องบินสีขาวประดับด้วยชื่อทางการของเกาหลีเหนือเป็นภาษาเกาหลีทั้ง 2 ด้าน โดยมีธงชาติอยู่ข้างๆ ข้อความ ส่วนหางเครื่องบินมีดาวสีแดงอยู่ในวงกลมสีแดงและสีน้ำเงิน ภายในตัวเครื่องยังถูกตกแต่งด้วยความทันสมัย บางครั้งก็ยังถูกใช้เป็นที่ทำงานและจัดการประชุมเป็นครั้งคราว
นอกจากนี้ ยังมีผู้พบเห็นว่า คิมจองอึนก็ใช้เครื่องบินสัญชาติยูเครน ‘Antonov-148 / AN-148’ (อันโตนอฟ-148) ซึ่งมีโลโก้ของสายการบินแอร์โครยออยู่ (สารการบินเกาหลีเหนือ)
ขณะที่เมื่อปี 2015 สื่อของรัฐเกาหลีเหนือก็ได้บันทึกภาพ คิมจองอึน ซึ่งกำลังขับเครื่องบินเบา ‘homegrown’ และนั่งอยู่ที่ส่วนควบคุมของเครื่องบิน ‘AN-2 military biplane’
- รถยนต์สุดหรู และขบวนราชรถ

เมื่อมีนาคม 2018 มีรายงานว่า คิมจองอึนเดินทางไปยังกรุงปักกิ่งเมืองหลวงของจีนด้วยรถไฟ แต่ใช้รถเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส-คลาส (Mercedes-Benz S-Class) ส่วนตัวของเขาเดินทางภายในเมือง
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ ‘JoongAng Ilbo’ (จุงอัล อิลโบ) ของเกาหลีใต้ระบุว่า รถยนต์คันดังกล่าวผลิตในปี 2010 มีราคาประมาณ 2 พันล้านวอนเกาหลี (ราว 54 ล้านบาท) และถูกขนส่งขึ้นรถไฟเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ดี ในระหว่างการประชุมสุดยอดระหว่างเกาหลีเหนือ-ใต้ (inter-Korean summit) ปี 2018 ที่พันมุนจ็อมนั้น รถยนต์ของคิมจองอึนโดดเด่นมาก เพราะรถของเขารายล้อมไปด้วยบอดี้การ์ดที่ขี่รถขนาบอยู่ข้างๆ นอกจากนี้ ยังมีรถหุ้มเกราะซึ่งมีห้องสุขาส่วนตัวคอยวิ่งตามด้วย
ทั้งนี้ สื่อของรัฐเคยเผยแพร่ภาพถ่ายการเยือนสถานีประมงของกองทัพเมื่อเดือนพฤษภาคม 2013 และสำนักข่าว NK News ของสหรัฐฯ สังเกตเห็นว่ามีเรือยอตช์ลำหนึ่งอยู่ในภาพด้วย แต่ยังไม่มีการยืนยันที่ชัดเจนว่าเรือลำดังกล่าวซึ่งมีราคาประมาณ 7 ล้านดอลลาร์ (ราว 250 ล้านบาท) เป็นของคิมจองอึน หรือแม้กระทั่งนำเข้ามาได้อย่างไร
ถึงกระนั้น เมื่อพิจารณาจากราคาแล้ว สื่อต่างประเทศหลายแห่งก็ระบุว่าผู้นำประเทศนี้น่าจะเป็นเจ้าของเรือยอตช์ดังกล่าวมากที่สุด
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ ‘JoongAng Ilbo’ (จุงอัล อิลโบ) ของเกาหลีใต้ระบุว่า รถยนต์คันดังกล่าวผลิตในปี 2010 มีราคาประมาณ 2 พันล้านวอนเกาหลี (ราว 54 ล้านบาท) และถูกขนส่งขึ้นรถไฟเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ดี ในระหว่างการประชุมสุดยอดระหว่างเกาหลีเหนือ-ใต้ (inter-Korean summit) ปี 2018 ที่พันมุนจ็อมนั้น รถยนต์ของคิมจองอึนโดดเด่นมาก เพราะรถของเขารายล้อมไปด้วยบอดี้การ์ดที่ขี่รถขนาบอยู่ข้างๆ นอกจากนี้ ยังมีรถหุ้มเกราะซึ่งมีห้องสุขาส่วนตัวคอยวิ่งตามด้วย
- เรือยอตช์ลึกลับ
ทั้งนี้ สื่อของรัฐเคยเผยแพร่ภาพถ่ายการเยือนสถานีประมงของกองทัพเมื่อเดือนพฤษภาคม 2013 และสำนักข่าว NK News ของสหรัฐฯ สังเกตเห็นว่ามีเรือยอตช์ลำหนึ่งอยู่ในภาพด้วย แต่ยังไม่มีการยืนยันที่ชัดเจนว่าเรือลำดังกล่าวซึ่งมีราคาประมาณ 7 ล้านดอลลาร์ (ราว 250 ล้านบาท) เป็นของคิมจองอึน หรือแม้กระทั่งนำเข้ามาได้อย่างไร
ถึงกระนั้น เมื่อพิจารณาจากราคาแล้ว สื่อต่างประเทศหลายแห่งก็ระบุว่าผู้นำประเทศนี้น่าจะเป็นเจ้าของเรือยอตช์ดังกล่าวมากที่สุด