กิมจิอาจจะกลายเป็นของแรร์! เพราะอากาศร้อนขึ้นทำผลผลิตผักกาดลดฮวบ

4 ก.ย. 2567 - 05:06

  • เมื่อ ‘กิมจิ’ อาหารเครื่องเคียงยอดนิยมของเกาหลีใต้กำลังจะหายไป เพราะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

  • บรรดานักวิทยาศาสตร์ เกษตรกร และผู้ผลิต ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า คุณภาพและปริมาณของผักกาดขาวที่ดองเพื่อใช้ทำอาหารยอดนิยมจานนี้กำลังลดลงเนื่องมาจากอุณหภูมิที่สูงขึ้น

kimchi_no_more_climate_change_puts_cabbage_dish_at_risk_SPACEBAR_Hero_abef882350.jpg

เมื่อ ‘กิมจิ’ อาหารเครื่องเคียงยอดนิยมของเกาหลีใต้กำลังจะหายไป เพราะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ขณะที่บรรดานักวิทยาศาสตร์ เกษตรกร และผู้ผลิต ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า คุณภาพและปริมาณของผักกาดขาวที่ดองเพื่อใช้ทำอาหารยอดนิยมจานนี้กำลังลดลงเนื่องมาจากอุณหภูมิที่สูงขึ้น 

ผักกาดขาวเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศที่เย็น และมักปลูกในพื้นที่ภูเขา โดยอุณหภูมิในฤดูร้อนซึ่งเป็นฤดูเพาะปลูกที่สำคัญนั้นแทบจะไม่เคยสูงเกิน 25 องศาเซลเซียสเลย 

การศึกษาเผยให้เห็นว่าสภาพอากาศที่อบอุ่นขึ้นอันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังคุกคามพืชผลเหล่านี้อย่างมาก จนอาจทำให้กาหลีใต้ไม่สามารถปลูกผักกาดขาวได้อีกต่อไปเนื่องจากกสภาพอากาศที่ร้อนขึ้น 

“เราหวังว่าคำทำนายเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นจริง ผักกาดขาวเติบโตได้ดีในสภาพอากาศเย็น อุณหภูมิที่เหมาะสมคือระหว่าง 18-21 องศาเซลเซียส” อี ยองกยู นักโรคพืชและนักไวรัสวิทยา กล่าว 

กิมจิหมักดองรสเผ็ดที่เราคุ้นเคยนั้นมักทำมาจากผักชนิดอื่นๆ เช่น หัวไชเท้า แตงกวา และต้นหอม แต่เมนูที่นิยมมากที่สุดยังคงเป็นเมนูที่ทำจากผักกาดขาว 

ขณะที่ อี ฮายอน ผู้เชี่ยวชาญด้านกิมจิจากกระทรวงเกษตร กล่าวถึงผลกระทบของอุณหภูมิที่สูงขึ้นต่อผักกาดขาวว่า “ผักกาดขาวจะเน่าเสีย และรากของมันก็จะเละ...หากยังเป็นแบบนี้ต่อไป ในช่วงฤดูร้อน เราอาจต้องเลิกทานกิมจิผักกาดขาว”  

ข้อมูลจากหน่วยงานสถิติของรัฐบาลแสดงให้เห็นว่า พื้นที่ปลูกผักกาดขาวบนพื้นที่สูงในปี 2023 มีจำนวนน้อยกว่าครึ่งหนึ่งอยู่ที่ 3,995 เฮกตาร์ (40 ตารางกิโลเมตร) เมื่อเทียบกับ 20 ปีที่แล้วมีถึง 8,796 เฮกตาร์ (88 ตารางกิโลเมตร) 

ตามข้อมูลของสำนักงานพัฒนาชนบท ซึ่งเป็นกลุ่มวิจัยด้านการเกษตรของรัฐ คาดว่า สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะทำให้พื้นที่เพาะปลูกลดลงอย่างมากในอีก 25 ปีข้างหน้า ซึ่งจะเหลือเพียง 44 เฮกตาร์ (0.44 ตารางกิโลเมตร) และจะไม่มีการปลูกผักกาดขาวในพื้นที่สูงภายในปี 2090 

นักวิจัยระบุว่า “อุณหภูมิที่สูงขึ้น ฝนตกหนักที่ไม่สามารถคาดเดาได้ และแมลงศัตรูพืชที่ควบคุมได้ยากขึ้นในช่วงฤดูร้อนที่อบอุ่นและยาวนานขึ้น เป็นสาเหตุที่ทำให้พืชผลลดลง” นอกจากนี้ การติดเชื้อราในพืชยังเป็นเรื่องที่หนักใจและสร้างปัญหาให้กับเกษตรกรเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากจะสังเกตเห็นได้ชัดเจนในช่วงใกล้เก็บเกี่ยวเท่านั้น 

อย่างไรก็ดี การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศก็ยิ่งเพิ่มความท้าทายให้กับอุตสาหกรรมกิมจิของเกาหลีใต้อีกด้วย เพราะต้องต่อสู้กับการนำเข้าสินค้าราคาถูกจากจีน ซึ่งส่วนใหญ่มักเสิร์ฟในร้านอาหาร 

ข้อมูลศุลกากรที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 2 กันยายน แสดงให้เห็นว่า การนำเข้ากิมจิจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 6.9% อยู่ที่ 98.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.3 พันล้านบาท) ในปี 2024 ซึ่งเกือบทั้งหมดมาจากประเทศจีน และถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงเวลาดังกล่าว 

จนถึงขณะนี้ รัฐบาลได้ใช้ระบบจัดเก็บสินค้าที่ควบคุมอุณหภูมิในปริมาณมากเพื่อป้องกันราคาที่พุ่งสูงและปัญหาการขาดแคลน นอกจากนี้ นักวิทยาศาสตร์ยังเร่งพัฒนาพันธุ์พืชที่สามารถเติบโตได้ในสภาพอากาศที่อบอุ่นขึ้น และทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของปริมาณน้ำฝนและการติดเชื้อได้ดีกว่า 

แต่เกษตรกรอย่าง คิม ซี-กาป วัย 71 ปี ซึ่งทำงานอยู่ในทุ่งผักกาดขาวในเขตทางตะวันออกของเทศบาลคังนึงมาตลอดชีวิต หวั่นว่าพันธุ์ผักกาดขาวเหล่านี้จะมีราคาแพงขึ้น และรสชาติก็ไม่ค่อยดีด้วย 

“เมื่อเราได้เห็นรายงานว่าจะมีช่วงเวลาหนึ่งในเกาหลีที่เราไม่สามารถปลูกผักกาดขาวได้อีกต่อไป มันเป็นเรื่องที่น่าตกใจในขณะเดียวกันก็น่าเศร้า กิมจิเป็นอาหารที่จะไม่มีบนโต๊ะอาหารไม่ได้ หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น เราจะทำอย่างไร” คิม ซี-กาป กล่าว

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์