รัฐบาลลาวกำลังดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาค่าเงินกีบของลาวที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง และอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น แต่ทว่าความท้าทายยังคงอยู่ เนื่องจากลาวยังต้องดิ้นรนกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19
สุลิศักดิ์ ธัมนูวงศ์ อธิบดีกรมนโยบายการเงิน เปิดเผยว่า ธนาคารกลางแห่ง สปป.ลาว (BOL) กำลังร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ รวมถึงการท่องเที่ยว การทำเหมืองแร่ และการเกษตร เพื่อกระตุ้นการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) และดึงดูดรายได้จากสกุลเงินต่างประเทศให้มากขึ้น
ตามที่สุลิศักดิ์กล่าวว่า ความท้าทายทางการเงินในลาวได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอก
- ปัจจัยภายนอก ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินของประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เช่น สหรัฐฯ แคนาดา และยุโรป
- ปัจจัยภายใน ได้แก่ ความต้องการสกุลเงินต่างประเทศหลักในลาวมีสูง เนื่องมาจากความต้องการนำเข้าสินค้าและบริการ ตลอดจนการชำระหนี้ต่างประเทศ ซึ่งล้วนแต่เกิดจากการขาดดุลการค้าที่ดำเนินอยู่
เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ธนาคารกลางได้ดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดยิ่งขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา รวมถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะสั้นจากร้อยละ 7.5 เป็นร้อยละ 8.5 ต่อปีในช่วงต้นเดือนมีนาคม ซึ่งต่อมาได้ปรับขึ้นเป็นร้อยละ 10 ต่อปีในช่วงต้นเดือนมิถุนายน
แม้ลาวจะพยายามแก้ปัญหา แต่อัตราเงินเฟ้อในลาวก็ยังคงเพิ่มสูงขึ้น โดยพบว่าอัตราเงินเฟ้อในเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 26.2 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 25.8 ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งถือเป็นอัตราที่สูงที่สุดในรอบปีจนถึงขณะนี้ แนวโน้มนี้สะท้อนให้เห็นในดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่เพิ่มขึ้นจาก 229.28 ในเดือนพฤษภาคมเป็น 234.54 ในเดือนมิถุนายน ซึ่งเน้นย้ำถึงค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น
อัตราแลกเปลี่ยนเงินกีบของลาวอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างประเทศหลัก โดยเฉพาะดอลลาร์สหรัฐ หยวน และบาท
เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ทั้งธนาคารกลาง สปป.ลาว และธนาคารพาณิชย์ลาวขายเงินดอลลาร์สหรัฐในราคาสูงกว่า 22,000 กีบ (ราว 35 บาท) สำหรับเงินบาทไทย อัตราของธนาคารกลางอยู่ที่มากกว่า 600 กีบต่อบาท ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ลาวขายในอัตราที่สูงกว่าที่มากกว่า 700 กีบต่อบาท
ทั้งนี้พบว่าค่าเงินกีบลาวลดลงอย่างรวดเร็วในเดือนสิงหาคม 2020 ซึ่งตรงกับช่วงที่เศรษฐกิจเผชิญกับความท้าทายจากการระบาดของโควิด-19 นับจากนั้นค่าเงินกีบก็ลดลงอย่างมาก
สุลิศักดิ์กล่าวว่า เพื่อแก้ไขปัญหาอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวนนี้ รัฐบาลลาวจะยังคงปิดร้านแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศผิดกฎหมายในพื้นที่ต่อไป ในขณะเดียวกันธุรกิจและภัตตาคารบางแห่งในจังหวัดต่างๆ และนครหลวงเวียงจันทน์ก็เริ่มรับเฉพาะเงินกีบในการทำธุรกรรมแล้ว ซึ่งการเคลื่อนไหวครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มการใช้เงินกีบในลาวและทำให้ค่าเงินมีเสถียรภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาค่าครองชีพและเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น รัฐบาลลาวยังได้จัดตั้งหน่วยงานพิเศษขึ้นมานำโดย คงแก้ว ไชยสงคราม ประธานสถาบันสังคมศาสตร์และเศรษฐศาสตร์ลาว ซึ่งมีหน้าที่วิเคราะห์สาเหตุของเงินเฟ้อ และราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น เยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ เพื่อรวบรวมข้อมูลที่ถูกต้อง และนำเสนอผลการศึกษาต่อรัฐบาลเป็นประจำ
ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อเร็วๆ นี้ ประธานาธิบดีลาว ทองลุน สีสุลิด ได้สั่งให้รัฐบาลดำเนินการทันทีเพื่อควบคุมเงินเฟ้อและหยุดการอ่อนค่าของเงินกีบ แม้จะมีความท้าทาย แต่ธนาคารกลางแห่ง สปป.ลาว ก็ยังคงให้คำมั่นว่าจะแก้ไขปัญหาทางการเงินในลาวต่อไปโดยการปรับปรุงนโยบาย นอกจากนี้ ธนาคารยังเรียกร้องให้ส่งเสริมสินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อลดการนำเข้าที่ไม่จำเป็น ซึ่งจะช่วยรักษาเสถียรภาพของค่าเงินกีบ