“สัตว์ประหลาดล็อกเนสส์” กับ “จักรวาลคู่ขนาน” มีจริงหรือ?

18 พ.ย. 2565 - 10:22

  • ปี 1975 มีการถ่ายภาพใต้น้ำ เผยให้เห็นเหมือนสิ่งมีชีวิตที่คล้ายกับครีบยักษ์ของสัตว์น้ำ

  • ในปัจจุบันปี 2022 มีการหยิบยกทฤษฎีมากมายออกมาพูด แต่ก็ยังไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้ว่าสัตว์ประหลาดชนิดนี้มีจริงหรือไม่

Loch-Ness-monster-may-live-in-parallel-universe-like-stranger-things-SPACEBAR-Tablet


“สัตว์ประหลาดล็อกเนสส์” กับ “จักรวาลคู่ขนาน” มีจริงหรือ? 

นักสืบอาถรรพณ์ หรือ นักล่าผี กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่บางคนอาจเดินหลุดเข้าไปใน “จักรวาลคู่ขนาน” เหล่านี้โดยไม่รู้ตัวเพื่อที่ว่าพวกเขาจะได้เห็นสิ่งมีชีวิตลึกลับ 

หนึ่งในสิ่งลึกลับที่ถูกพูดถึง ก็คือ “สัตว์ประหลาดล็อกเนสส์” ที่อาจอาศัยอยู่ในจักรวาลคู่ขนานแบบโลก ‘Upside Down’ ในซีรีย์ยอดนิยมอย่าง ‘Stranger Things’ ก็เป็นได้ ซึ่งดูเหมือนว่าทฤษฎีใหม่จาก ‘รอน ฮาลลีเดย์’ นักสืบอาถรรพณ์จะเป็นนามธรรมมากที่สุด 

ฮาลลีเดย์ กล่าวว่า “อันที่จริงแล้วสัตว์ประหลาดอาจใช้เวลาส่วนใหญ่ในจักรวาลคู่ขนานเหมือนกับในซีรีส์ Stranger Things” 

ที่ผ่านมา มีใครหลายคนพยายามค้นหาเบาะแสมาอย่างยาวนาน แต่เจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้ยังคงเป็นปริศนาอยู่ในขณะนี้เช่นเคย ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นอังกฤษอย่าง ‘Inverness Courier’ ได้เคยรายงานไว้ว่า ตำนานบทใหม่ได้ปรากฏขึ้นครั้งแรกในเดือนพฤษภาคมปี 1933 เมื่อคู่สามีภรรยาบังเอิญญเห็นสัตว์ขนาดมหึมากลิ้งไปมาบนผิวน้ำของทะเลสาบล็อกเนสส์ ในเขตที่ราบสูงตอนเหนือของสกอตแลนด์ 

จากการรายงานข่าวในครั้งนั้นทำให้เรื่อง “สัตว์ประหลาด” เป็นที่สนใจของคนหมู่มาก ทั้งยังมีการมอบรางวัล 20,000 ปอนด์ (ราว 850,000 บาท) ให้กับคนที่สามารถจับสิ่งมีชีวิตชนิดนี้ได้ นอกจากนี้ “การดำรงอยู่ของสัตว์ร้าย” ยังสร้างความอยากรู้ในแวดวงวิทยาศาสตร์ ผู้สืบสวน และนักท่องเที่ยวอีกด้วย โดยมีการเฝ้าระวังและติดตามทะเลสาบอย่างใกล้ชิด 

ในทศวรรษที่ 1960 มหาวิทยาลัยในอังกฤษหลายแห่งได้เปิดตัวเครื่องโซนาร์สำหรับตรวจวัตถุใต้ทะเลสาบ แต่ก็ยังไม่พบข้อสรุปใดๆ โดยการสำรวจแต่ละครั้ง ก็มักจะพบวัตถุใต้น้ำขนาดใหญ่บางประเภทที่เคลื่อนที่ได้เพียงเท่านั้น  

ในปี 1975 มีการสำรวจอีกครั้งหนึ่งด้วยเครื่องโซนาร์และมีการถ่ายภาพใต้น้ำเอาไว้ เมื่อภาพถ่ายถูกถ่ายออกมา ซึ่งหลังจากปรับแต่งแล้ว ก็เห็นเหมือนสิ่งมีชีวิตที่คล้ายกับครีบยักษ์ของสัตว์น้ำอย่างคลุมเครือ 

จากนั้นในปี 2005 ทีมงานจากบริษัท ‘SeaTrepid Inc’ ในสหรัฐอเมริกาได้ทำการสแกนทะเลสาบน้ำลึกพร้อมกับความหวังว่าจะได้พบกับสิ่งมีชีวิตลึกลับอย่างเนสซี 

อย่างไรก็ดี จากรายงานในปี 2007 พบว่า สัตว์ร้ายขนาดใหญ่ชนิดนี้อาจเป็นแค่กบตัวใหญ่ และสิ่งที่พวกเขาพบก็คือ กบตัวหนึ่งที่อาศัยอยู่ใต้น้ำลึกถึง 325 ฟุต 

จนถึงตอนนี้ปี 2022 แม้ว่าจะมีการหยิบยกทฤษฎีมากมายออกมาพูด ก็ยังไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้ว่าสัตว์ประหลาดชนิดนี้มีจริงหรือไม่ และ ฮาลลีเดย์ ได้เผยทฤษฎีหนึ่งที่ดูเป็นนามธรรมมากที่สุดว่า “ในซีรีย์ Stranger Things แก๊งฮีโร่ต้องเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตจากอีกจักรวาลหนึ่งที่เรียกว่า ‘Upside Down’ ซึ่งเขาเชื่อว่านี่อาจเป็นเบาะแสสำคัญว่าสัตว์ประหลาดปริศนาในทะเลสาบล็อกเนสส์ หรือเนสซีอาจหายตัวไปอยู่ในโลกอีกด้านหนึ่งก็เป็นได้” 

“อาจมีจักรวาลอื่นๆ และโลกของเรามีปฏิสัมพันธ์กับโลกอื่นๆ เหล่านี้ผ่านทางประตูมิติจริงๆ แล้วสิ่งที่แปลกๆ ที่เราเห็นอาจไม่ได้อยู่ในโลกของเราก็ได้ เช่น การพบเห็นยูเอฟโอ…บางคนมีพลังจิตมากกว่าคนอื่นๆ ทำให้พวกเขาสามารถสัมผัสประสบการณ์เหล่านี้ได้ ในขณะที่คนอื่นอาจไม่ได้สัมผัส และมีความเป็นไปได้ว่าบางคนอาจเดินเข้าไปในประตูมิติเหล่านี้โดยไม่รู้ตัว แล้วจึงมองเห็นสิ่งเหล่านี้ได้” ฮาลลีเดย์ กล่าวทิ้งท้าย 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์