สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า เวสต์พอร์ทส์ โฮลดิงส์ ผู้ให้บริการท่าเรือรายใหญ่สุดของมาเลเซียกำลังมองหานักลงทุนจากภายนอกเพื่อระดมเงินลงทุนขยายท่าเรือ 8,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 299,539 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ศักยภาพของท่าเรือขยายเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าในอีกหลายสิบปีข้างหน้า
ท่าเรือแห่งนี้เป็นท่าเรือใหญ่อันดับ 2 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การขยับขยายท่าเรือจะเพิ่มศักยภาพเป็น 27 ล้านตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 20 ฟุต จากปัจจุบันอยู่ที่ 14 ล้าน ตลอดอายุสัมปทานซึ่งจะอยู่จนถึงปี 2082
การขยายท่าเรือเวสต์พอร์ทส์สะท้อนความพยายามในการขยายท่าเรือของประเทศเพื่อนบ้านตามแนวช่องแคบมะละกาซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางเดินเรือที่พลุกพล่านที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเป็นสิงคโปร์ที่กำลังก่อสร้างท่าเรือ Taus ซึ่งจะกลายเป็นท่าเรืออัตโนมัติที่ใหญ่ที่สุดในโลกหากก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2040 โดยคาดว่าจะใช้เงินประมาณ 20,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์
รวมทั้งประเทศไทยที่เสนอโครงการบายพาสเส้นทางขนส่งที่เรียกว่า “แลนด์บริดจ์” ที่จะเชื่อมท่าเรือสองท่าเข้าด้วยกัน เพื่อลดระยะเวลาเดินทางลง 4 วัน โดย รูเบ็น อีมีร์ กนานาลิงกัม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารท่าเรือเวสต์พอร์ทส์พูดถึงแลนด์บริดจ์ของไทยว่า ไม่กังวลเกี่ยวกับแผนการสร้างท่าเรือของไทย เนื่องจากลูกค้าของท่าเรือไม่ได้มองว่าแลนด์บริดจ์ของไทยเป็นทางเลือก